The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 8

The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 8
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 10
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 20 ต.ค. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


กีจองดอง

มุมมองสายตา แทน

ลานด้านหน้าเสาธง

ผมเห็นกองอิฐแล้วอยากจะร้องไห้คำถามมากมายพรั่งพรูเข้ามาจนสับสน กว่าเราจะได้มีรอยยิ้มเต็มหน้าก็ผ่านเวลาชั่วร้ายตั้งหลายปี ทุกคนรู้ว่าเพราะความรัก...ไป่ไป๋จึงยอมทำงานหนักเพียงเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน เธอมีทางเลือกที่ดีกว่ามากมาย ไม่สมควรต้องมารับกรรมแบบนี้เลย

ใครรู้บ้างว่าพิมพ์เขียวของอาคารเก็บไว้ที่ไหน?ผมถามโดยไม่คาดหวัง ทหารของเราเป็นเพียงเด็กมหาวิทยาลัยที่ไม่เคยอยู่ในวงอำนาจเดิม

พิมพ์เขียวคืออะไรครับ?

แผนผังการก่อสร้างอาคาร

“...................” เงียบกันทั้งกลุ่ม

ไป่ไป๋!... ตอบสิ! นาตาลีเรียกวิทยุล้มลุกคลุกคลานบนกองซากอิฐ

ไป่ไป๋เซม! อยู่ตรงไหน เจ็บมั้ย ฮือฮือ!เด็ก ๆ ร้องไห้ระงม

หัวใจสลายมันเจ็บลึกอย่างนี้นี่เอง ผมอึดอัดจนอกจะระเบิดเดินปลีกตัวจากกองทหารเข้าไปตบไหล่นาตาลีเบา ๆ...

เข้มแข็งไว้! เดี๋ยวผมช่วยไป่ไป๋ออกมาเอง คุณอย่าเสียอาการสิ เด็ก ๆ จะเสียขวัญ

สั่งขุดสักทีสิ! คุณจะรออะไรอีกนาตาลีตาเขียวปั้ดโวยใส่ทันที

คุณใจเย็น ๆ ก่อนสิ ผมรอคนสำคัญอยู่

คุณยังใจเย็นไหวอีกเหรอ? ตึกถล่มนะ!...แล้วไป่ไป๋ก็อยู่ในนั้นด้วยจะใจเย็นไปถึงไหน ฮึ! ไป่ไป๋...ฮือฮือ!

ผมตัดสินใจไม่ถูกลังเลหมดความมั่นใจ หมุนมองไปที่กลุ่มทหารช่วยกันยกหินก้อนเล็กออกไปก่อน เดอะแก๊งกระจายตัวกันไปเรียกคนที่ติดอยู่ข้างล่าง

อันยองฮาชิมนิก้านินจาเซม!” โนยุนซอเดินตัวสั่นหน้าซีดพยุงเยริมคนสนิทของไป่ไป๋เข้ามา

ยุนซอได้เรื่องมั้ย?

เยริมบอกว่าเธออยู่กับไป่ไป๋เซมเป็นคนสุดท้ายครับ หงึ!หงึ!” เด็กหนุ่มสะอื้นน้ำตานองหน้า นาตาลีหน้าตื่นพรวดเข้าไปหา...

เยริม! ไป่ไป๋เซมอยู่ที่ไหนพาฉันไปที?

“ฮือ!ฮือ! เยริมร้องไห้จ้าขึ้นมาหน้าเสียกันไปหมด

ผมเข้าไปกอดเด็กสาวแล้วลูบหลังปลอบใจ...

เยริมใจเย็น ๆ เห็นเซมครั้งสุดท้ายที่ไหน?” ผมปลอบทั้งที่หัวใจแหลกสลาย

ฮือฮือ! หนูไม่ดีเอง หนูต้องเป็นคนเข้าไปรับเซคยองสิ เด็กมักจะโทษตัวเองเมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ ในขณะที่ผู้ใหญ่มักจะโทษคนอื่นก่อน

เยริมตั้งสติดี ๆ มองหน้าฉันสิ เราต้องช่วยเซมให้ได้บอกมาสิเห็นครั้งสุดท้ายที่ไหน?นาตาลีประคองใบหน้าของเธอ

บันไดทางลงด้านหลังค่ะ เซมเข้าไปช่วยเซคยองในห้องสื่อสารใต้บันได

โอเค! นั่งรอตรงนี้นะ นาตาลีประคองให้น้องนั่ง ผมไม่รอช้ารีบวิ่งไปก่อน   

รอฉันด้วยสิ! นาตาลีวิ่งตามมา

คอนโดมิเนียมสูงเสียดฟ้าล้มลงเป็นกองอิฐกระจายกลบขอบทาง ทหารและเดอะแก๊งวิ่งขึ้นไปบนกองอิฐ

ไป่ไป๋! เซคยอง! ตอบหน่อยสิ” นาตาลีน้ำตานองเดินเลาะกองหิน

ไป่ไป๋เซม! เซคยอง!ทั้งกลุ่มเฮโลกระจายกันตะโกนเรียก

“เซมครับผมมีเรื่องจะบอก” โนยุนซอเดินมาจูงมือของผมไปริมกองอิฐแล้วนั่งยองกับพื้น

เขาหันหน้าเข้าหากองอิฐแล้วกวาดพื้นชี้นิ้วไปที่เส้นทองเหลืองฝังในพื้นปูน

เส้นนี้ผมกับเซคอยองเคยเดินนับก้าวด้วยกันน้ำเสียงหนุ่มน้อยปนสะอื้นชี้นิ้วไปทางซ้าย

ยังไง?ผมสนใจมองตามเส้นทองเหลืองเล็กยาวฝังในเนื้อปูน

เซมเห็นเส้นหักมุมมั้ยครับ ตรงนั้นเคยมีกระถางดอกไม้เป็นมุมของอาคาร

อืม!” ตรงนั้นมีรถบัสเล็กจมกองอิฐ ยังหลงเหลือซากดอกไม้

เส้นลากยาวมาที่นี่ แล้วเลยไปสุดที่มุมอาคารด้านโน้นเขาชี้ไปตามเส้นผ่านตัวเองไปทางขวา

ผมเคยเล่นเป็นคนตาบอด เซคยองสอนให้ผมนับก้าวเดินตั้งแต่มุมอาคารมาถึงบันไดขึ้นอาคาร จุดสังเกตคือเสียงกระดิ่ง ประตูห้องสื่อสารอยู่ใต้บันไดตรงนั้นครับ

ผมยิ้มออก ความหวังบรรเจิดขึ้นมาอีกครั้ง...

งั้นสหายรีบไปเดินนับมา เร็ว!” ผมดีใจแทบบิน

ยุนซอวิ่งแจ้นไปที่เส้นมุมอาคาร นาตาลีวิ่งมาเกาะแขน...

“แทนทำอะไรกันคะ?”

“หาจุดสุดท้ายที่เจอไป่ไป๋ครับ”

“เจอแล้วเหรอ?”

“ยังครับ! รอยุนซออยู่”

“จะรอทำไม รีบไปหาเขาสิ!” นาตาลีลนลานผลักหลังคว้าข้อมือจะพาวิ่ง

“ใจเย็น ๆ ครับ!” ผมดึงกลับมากอดปลอบใจ เธอตัวสั่นใจเต้นแรงมาก

“เดี๋ยวยุนซอจะเดินกลับมา คุณต้องใจเย็นลงก่อน เดี๋ยวช็อค!” ผมไม่แน่ใจนักว่าเธอรู้หรือเปล่าว่าผมกับยุนซอคุยอะไรกัน แต่เข้าใจได้กับการร้อนใจที่แสดงออกมา

“ยุนซอจะมาทางนี้ใช่มั้ย?” เธอน้ำตาเลอะชะเง้อมอง

“เย่!” ผมสงสารจับใจ

เธอป้องปากตะโกนเร่ง...

“ยุนซอ! พร้อมรึยัง?” เธอกระโดดโบกมือรัว

ยุนซอหันมองซ้ายขวาก่อนจะโบกมือตะโกนกลับมา...

“เย่!

“มาเลย! มาเลย!” นาตาลีกวักมือวิ่งพล่าน

ในตอนนี้เราหวังในสิ่งเดียวกัน ทุกอย่างที่จะทำให้เจอกับไป่ไป๋คือความหวังทั้งสิ้น ผมมองลุ้นโนยุนซอด้วยใจเปี่ยมความหวัง เด็กชายหลับตาสูดลมหายใจลึกก่อนจะก้าวเดินมา

“หือ! ผมกับนาตาลีหันมองหน้าพร้อมกัน

ฮานา! ทุล! เซต! เนท! เขากางแขนเดินหลับตานับ 1 2 3 4

นาตาลีเอียงคอมองอย่างสงสัย ผมก็แปลกใจว่าเขากำลังเล่นอะไรไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นสนุกสักหน่อย เขาเดินมาได้อีกไม่กี่ก้าวก็เซเอียงออกไปนอกเส้นทาง

นาตาลีตะโกนไปหา...

“สหายเดินให้ตรง ๆ หน่อยสิ!

เขาลืมตาขึ้นมาหันมองซ้ายขวาแล้วเกาหัวเก้อ....

“อ้าว! ขอเอาใหม่นะครับ” เขาวิ่งย้อนกลับไปหลับตาเดินอีก

“ อั้ยกู่ว!... ผมสุดจะทน...

สหายจะหลับตาทำไมวะ! รีบเดินมาเร็ว ๆ

“ก็เซคยองสอนผมแบบนี้” ไอ้หมอนี่ซื่อดีจริง ๆ หลับตาเป็นคนตาบอดเดินนับก้าว

“เออ!...ไม่ต้องหลับตา รีบเดินมา! เร็ว!

เขากางแขนเดินนับเสียงดังเดินกลับมา นาตาลีวิ่งวนไปมาด้วยความร้อนใจ

150! 151! 152!” โนยุนซอเดินผ่านหน้าไป

นาตาลีเข้าประกบก้าวขาเดินพร้อมกันแล้วหันไปถาม...

ทั้งหมดกี่ก้าว สหาย?

199 ครับ

153! 154! 155!” เธอเดินเอวคดตูดบิดเหมือนนักกีฬาเดินมาราธอน

ผมเดินตาม...

“197! 198! 199!

ประมาณนี้แหละครับโนยุนซอชี้ขึ้นไปบนกองอิฐ นาตาลีวิ่งพรวดขึ้นไป

“ทุกคนมาช่วยกันยกจุดนี้ เร็ว!

ทันทีที่ผมกวักมือเรียก ทุกคนคอยคำสั่งอยู่แล้ววิ่งพรวดกันขึ้นไป...

เซคยอง! เซม!”

“ครืด!...” ทันใดนั้นกองอิฐก็เคลื่อนตัว

ผมตื่นตะลึงใจสั่น

โครม! กองอิฐทรุดตัวลงไปอีก

“ลงมา!.. ผมแขนขาอ่อนแรงใจคอไม่ดี

“ปั้ลลี่! ปั้ลลี่!... เด็กชายและทหารลงมายืนเรียงต่อแถวช่วยกันยกหินส่งต่อออกไปทิ้งอย่างขันแข็ง

ชายขาพิการเดินร้องไห้เข้ามา...

“ฮือฮือ! ดงจินอิบนะดะ เซมช่วยลูกผมด้วย!

“ลูกของสหายชื่ออะไร?”

“เซคยอง” พอได้ยินชื่อก้อนลมก็จุกอกพูดไม่ออก

“อืม!...สหายใจเย็น ๆนะ เรามาช่วยกันยกก้อนหินออกก่อน เรามีความหวังร่วมกัน” ผมทำได้แค่นี้ ปลอบใจเขาใจเราก็เศร้า

“ทหารจัดการน้ำด้วยอย่าให้มันไหลลงไป รถแบคโฮมาถึงไหนแล้ววะ ไปเร่งซิ” ผมลุ้นใจจดจ่อรอรถยก

ดงจินเดินกระเผกเข้ามาจับแขน...

“เซมครับ! เซคยองรู้รหัสมอร์ส ลองติดต่อกับเธอดูสิครับ” แล้วความหวังใหม่ก็เข้ามา...

“ดีเลย! ผมดีใจจนลืมตัว แต่พอนึกขึ้นมาได้ใจก็เหี่ยว ผมไม่ได้เรียนสายสื่อสารไม่มีความรู้แล้วก็ไม่เคยสอนทหารในเรื่องนี้

“นาตาลีรู้จักรหัสมอร์สมั้ย?”

“รู้ค่ะ” เธอตอบมาถึงกับโล่งอก

“สื่อสารกับเซคยองให้หน่อยสิ”

“ฉันแค่รู้จักแต่ใช้ไม่เป็น”

“อ้าว!” ผมมึนตึ้บไปไม่ถูก

“แทน! ผมช่วยคุณได้” บิลลี่เดินเข้ามาพร้อมกับเด็กกลุ่มใหญ่ เด็ก ๆ รีบไปช่วยกันยืนเรียงแถวโยนก้อนหินต่อเนื่อง

“ผมเป็นทหารสื่อสาร คุณสั่งให้พวกเขาเงียบก่อนสิ!

“ได้!ได้!...” ผมดีใจเหมือนแจ็คพ็อตแตกหันไปสั่งต่อ...

“ยุนซอบอกให้พวกเขาหยุดก่อน ห้ามทุกคนส่งเสียง”

นาตาลีใบหน้ามอมแมมเดินสะอื้นเข้าไปหาอดีตนายทหารอเมริกัน...

“บิลลี่! ฝากด้วยนะ ช่วยไป่ไป๋เซมให้ได้นะ”

“ด้วยความยินดีครับ เธอช่วยชีวิตผม ผมต้องตอบแทน”

“..............” ทุกคนยืนนิ่งเหลือเพียงเสียงสายลมแผ่วเบา ความหวังทั้งหมดฝากไว้กับฝรั่งผมสีทอง

บิลลี่ถือท่อนเหล็กเดินไปเคาะหาจุด...

“ก๊อกก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!ก๊อก! ก๊อกก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!ก๊อก!

“..............” ผมหลับตาภาวนาส่งกำลังใจให้ทั้งสองได้ยิน

“ก๊อก!ก๊อก! ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!

“..............” ความหวังของเราอยู่ที่ปลายมือของบิลลี่ เขาขยับหาจุดไปทีละนิด ดงจินคลานประกบจดจ่อ

“.............” เวลาผ่านไปช้า ๆ ทุกสายตาเพ่งมอง แต่ทุกอย่างยังคงเงียบงัน

นาตาลีร้อนใจเดินเข้ามากระซิบ

“แทนคะ! ไป่ไป๋ไม่ได้เรียนรหัสมอร์ส ถ้ารอบิลลี่คนเดียวโอกาสจะเหลือน้อยลงนะคะ” เธอมองบิลลี่แล้วมองเลยไปที่กลุ่มเด็ก

“ก็เซคยองรู้นี่ครับ”

เธอมองซ้ายขวาแล้วเอียงตัวมา...

“เซคยองอาจจะไปแล้วก็ได้”

“อืม!” ผมคิดแค่มุมเดียวลืมคิดจุดนี้ไปเลย...

“บิลลี่! ผมยกหินกันเงียบ ๆ ได้มั้ย?” ผมเห็นด้วยว่ารอไม่ได้

“สลับกันก็ได้ครับ ผมจะเรียกทุก 5 นาที”

ผมหันตะโกนทันที...

“เด็ก ๆ ตั้งแถวใหม่ ช่วยกันยกหินเงียบ ๆนะ” นาตาลีเดินไปต่อแถวรับหินส่งต่อ

“บรื้น!...” เสียงเครื่องยนต์ของรถแบคโฮแล่นมาจากกลางทุ่งทำให้ความหวังสว่างไสวขึ้น

“เซมครับ น้ำไหลลงไปข้างล่างมากเกิน” ทหารวิทยุเข้ามา

“จะแก้ยังไง?”

“สั่งให้รถแบคโฮมาโกยหินกั้นไว้ก่อนครับ”

แม้ฝนจะซาเม็ดลงไปแต่น้ำยังคงไหลหลากจากเนินเขาลงมา ทุกวินาทีผ่านไปด้วยกิจกรรมซ้ำเดิม บิลลี่ยกมือให้สัญญาณเดินไปนั่งเคาะ ดงจินตามไปก้มลุ้นมองใจระทึก เด็ก ๆ ชะงักมือแล้วนั่งลงรอใจจดจ่อ

“ก๊อก!ก๊อก! ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! ยิ่งเขาใช้เวลานานความหวังของเราก็เริ่มลิบหรี่

ในยามที่ใจร้อนรนแบบนี้ไม่ต่างจากเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ น้ำฝนนิดหน่อยไม่สามารถดับไฟร้อนแรงได้ฉันใด หัวใจของผมก็เช่นกัน สิ่งที่บิลลี่ทำช้าเกินกว่าจะดับไฟในใจของผมได้

“แทน!...” หมวดจางเรียกมา

“เย่!

“เจอรึยัง?”

“ยังครับ”

“รออีกนิดนะ ฉันกำลังไปหา” เสียงของเธอร้อนรนเหนื่อยหอบ

“ซอนรู้เรื่องนี้แล้วนะ ด่าผมไม่เหลือดีเลย”

“อ้าว!

“วิทยุเดอะแก๊งดังไปทั่ว ปิดไม่มิดหรอก หม่าม้าก็รู้แล้วด้วย”

“อ้าว!

“รออีกนิดนะ ฉันจะไปหา” ก่อนจะจากไปน้ำเสียงเธอไม่มั่นใจเลย

“โกมีทักเรียกนินจาเซม! เสียงเรียกจากฐานดังขึ้น

“เย่! ผมแหงนมองฟ้าฝูงบินเกาหลีบินโฉบไปมา

“ทีมแฮกเกอร์มาช่วยดึงภาพจากดาวเทียมสอดแนมให้แล้วครับ เราโต้กลับได้บ้างแล้วครับ เสียงสหายโกตื่นเต้นมาก

“สหายจมเรือของมันให้ได้นะ สั่งให้สหายซองบกพาทีมนักบินขึ้นไปลุย สั่งให้ค่ายชายแดนทั้งหมดโต้ตอบได้เลย”

“แต่เซมครับ...สหายแอนนายังอยู่ในป่าทงกิลกัก น่าเป็นห่วงมากครับ”

“รับทราบ! ผมถอนหายใจเฮือก คิดไว้แล้วเชียวน้ำเสียงของเธอไม่ดีเลยแต่ยังเก็บอาการหลอกให้ผมตายใจ

“ฮือฮือ! นาตาลีทรุดร้องไห้กุมหน้า

ความรู้สึกของผมเหมือนกับกำลังขับรถยนต์รีบเร่งพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางติดทั้งไฟแดงและอุปสรรค เมื่อหลุดจากสิ่งกีดขวางยางก็แตก มีความหวังสลับกับหมดหวังจนแทบจะคลั่ง

ผมหันไปดูรถแบคโฮลงมือทำงานแล้วอยากจะไปขับเอง ร้อนใจแต่ทำอะไรไม่ได้เลย ก้อนหินเล็กที่โดนลำเลียงผ่านมือของเด็กทุกก้อนมันคือขบวนความหวัง ผมนั่งลงเคียงข้างนาตาลีด้วยใจหวังว่า อีกไม่ช้าจะได้เจอหน้าของไป่ไป๋อีกครั้ง

...................................................................
 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,906 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด11,022 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท23 ต.ค. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม