The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 13

The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 13
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 10
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 20 ต.ค. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


พยองยาง

มุมมองสายตา แอนนา

ฐานบัญชาการรบ ค่ายโชซอน

แทนขับรถยนต์เข้ามาในค่ายทหารอย่างร้อนใจหัวอกขอเขาโดนไฟลนอีกครั้ง  ฉันได้แต่ภาวนาในใจให้ทหารจับตัวนาตาลีได้ก่อนออกจากเกาหลี สถานกาณ์ยังไม่สงบการรบชายแดนยังไม่สิ้นสุดการจัดการความสงบภายในต้องทำคู่ไปกับสงคราม จากนี้ไปแทนต้องเป็นผู้นำเต็มตัวแต่เขาจะทำได้ไหมถ้าหัวใจกังวล

กองทหารเต็มสนามหน้าอาคารปฎิบัติการเตรียมพร้อมสู้ ทหารฝึกหัดใจฮึกเหิมแต่ขาดทั้งประสบการณ์และฝีมือในขณะที่คู่ต่อสู้เป็นมือหนึ่งของโลกเทียบชั้นกันไม่ได้สักนิดเดียว

“แอนนาเริ่มที่ไหนก่อนครับ?” ผู้นำสูงสุดคนใหม่หันมาถามดวงตาใสซื่อ

“สงบใจชาวบ้านกันก่อน...ส่งวิดีโอของจูยอนขึ้นยอดตึกให้ทุกคนได้ย้อนกลับไปในวันเริ่มต้น ความหวัง ความฝันจะต้องเดินต่อไป” เมื่อเกิดเหตุวิกฤตทุกชีวิตจะตื่นกลัว ถ้าภายในไม่สงบจะทำการรบไม่ได้

“วิดีโออะไรครับ?”

“วิดีโอที่เธอเคยปราศรัยกับคนเกาหลีหลังจากล่มสลาย ถ้อยความเหล่านั้นจะเป็นพลังให้คนในชาติไม่กลัวและจะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อตนเอง”

“คุณเคยฟังเหรอ?”

“ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ ทุกเช้าฉันจะนั่งจิบกาแฟฟังเสียงตามสายของเธอทุกวัน ช่วงที่เกาหลีมืดมนเธอได้ปลุกความเชื่อมั่นให้ความสำคัญกับเสรีภาพ การรวมชาติฉบับอ่อนหวานกินใจแต่ทรงพลัง เมื่อความรู้สึกหลอมรวมกันทุกคนจะโหยหาและพุ่งมาที่คุณซึ่งเป็นความหวังที่ 2”

“ผมเหรอ? ทำไมเป็นผมล่ะ?”

“สหายโกมีทักบารมีเทียบชั้นนินจาซอนเซงนีมไม่ได้นะคะ คนที่จูยอนฝากฝังให้คนเกาหลีเอ็นดูคือคุณ”

“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ” เขาตอบแบบนี้ค่อยเบาใจหน่อย รถยนต์เสียบเข้าซองข้างอาคาร

แทนเดินจ้ำอ้าวเข้าอาคารปฎิบัติการถ่ายทอดคำสั่งให้นายทหารไปปฎิบัติ ฉันเดินแยกไปส่องดูความพร้อมของห้องสื่อสารพวกเขายังคงเป็นเด็กหนุ่มที่ขาดประสบการณ์ กลุ่มทหารกำลังตื่นเต้นทิ้งเก้าอี้มายืนลุ้นจ้องจอเรดาร์

“สหายจองรีเร็วอีก! เร็วอีก! จรวดไล่หลังมาแล้ว” ทหารลุ้นเชียร์เครื่องบินกริพเพน

ภาพบนจอเรดาร์...เครื่องบินรบ MIG-35 บินโฉบหลอกล่อ ฝูงบินเกาหลีบ้าดีเดือดบินควงสว่านหมุนคว้างล่อหลอกกระบอกปืนใหญ่บนเรือรบให้หมุนตาม

“ตอนนี้แหละ! เสือน้อยแบ็คตูซัดแม่งเลย” สหายโกลุ้นสุดตัวเมื่อ MIG- 35 ปักหัวลงใส่กองเรือ

“..............” ภายในห้องเงียบสนิท ทหารกัดนิ้วลุ้นตาใสหยุดหายใจจ้องค้างไปที่จอ

“บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม! จรวดหลุดจากแนวป้องกันเข้าชนหอบังคับการเรือ

“เย้!... ห้องแทบแตก

“ฮู้ย่า!.. น้องทหารดีใจวิ่งแหกปากออกมานอกห้องเจอกับแทนที่เดินออกมาจากอีกห้อง

“ชุงซองนินจาเซม! สหายเสือน้อยซัดเรือมันล่มแล้ว เราชนะแล้ว” เขาคงไม่รู้หรอกสงครามพึ่งจะเริ่มต้นพวกเขาแค่ชนะศึกเล็ก ๆ ทหารวิ่งกรูไปยืนตรงต่อหน้าแทนอย่างฮึกเฮิม ฉันยิ้มมองอย่างพอใจศึกนี้ทหารเกาหลีเหนือป้องกันอิสรภาพไว้ได้แต่ยังห่างไกลกับคำว่าชนะสงคราม

“สหายคิมซองบกกับสหายนาจองรีถล่มเรือของมันได้แล้วครับ”

สหายโกมีทักกระโดดโล้นเต้นตามลูกน้องออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ดวงตาแดงช้ำสายตายังดูหมองเศร้าอมทุกข์เข้ามายืนตรงทำความเคารพแทน...

“ชุงซองนินจาเซม!”  

“ฮ๊า!แต่หัวใจต้องหล่นอีกครั้งสายตาไปสะดุดตากับรองเท้าดำขอบขาวที่เขาสวม แต่พอสังเกตทหารหลายคนก็สวมเหมือนกันจึงเปลี่ยนความคิด...
           “อันยองฮาเซโย!” ฉันร้องทักแล้วเดินเข้าไปกลุ่มทหาร

“ชุงซองแอนนาพันจังนีม!

“สหาย! รองเท้าสวยจังเลยได้มาจากไหนคะ?” ฉันยิ้มหวานสบตากับแทน เขารีบก้มมองรองเท้าทหารแล้วคิ้วขมวด...

“สวยดีนะ! ทำไมไม่มีใครเอาให้ผมมั่ง?” เขารับมุขหันไปถามโกมีทัก

“ทหารไปเจอตู้คอนเทนเนอร์ลอยน้ำมาติดชายหาดที่โกซองเป็นรองเท้าของญี่ปุ่น”โกมีทักตอบปรกติไม่มีลังเลยึกยัก

“แจกไปเยอะมั้ย?” ฉันรีบถามต่อ

“แจกไปเป็นพันคู่เลยครับ เซมอยากได้เหรอแต่เสียใจด้วยนะ แฟชั่นใหม่ของทหารกำลังเห่อกันเลยครับ”

ทหารในห้องวิ่งมารายงาน...
          “สหายผู้พัน
! สหายคิมซองบกติดต่อมาครับ” ทหารรีบกรูเข้าห้อง

ฉันเดินตามประกบแทน...“ปล่อยไปก่อน ไม่ใช่เขาหรอก”

“เย่!

สหายโกมีทักกำลังคุยวิทยุ...
           “คิมจองซุก!

“ชุงซอง! คิม! จอง! ซุก!” เสียงของพยัคฆ์น้อยแบ็กตูคึกคักหนักแน่น

“รายงานได้เลย”

“น่าแปลกใจมากครับที่ทางทหารจีนปล่อยกองเรือมาแค่นี้และไม่มีกองกำลังสนับสนุนครับ ทั้งหมดที่บุกมาวันนี้น่าจะไม่มีใครได้กลับบ้าน”

“โดดเดี่ยวเลยเหรอ?”

“ใช่ครับ! นอกจากเมืองแคซ็องและนัมโพ ทหารจีนไม่ได้โจมตีที่อื่นเลย”

“รับทราบ!ก่อนกลับฐานโฉบไปชินอุยจูแล้วขึ้นเหนือไปลาดตระเวนที่ กังกาย ชังกัง ฉางไป๋ พังโซให้หน่อยนะฝากด้วย!เขาหันมารายงาน...

“การรบสิ้นสุดแล้วครับเซม”

“เก่งมากสหาย มาคุยกันหน่อยสิ” แทนเดินเข้าไปกอดคอพาไปนั่งในห้องส่วนตัว

“กรึ้บ! พอฉันล็อกประตูห้อง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ใบหน้าบู้บี้ดวงตาแดงก่ำก้มหน้าร้องไห้สะอื้นระบายความในใจ ...

“แอนนานูน่าผมขอโทษ! เซมครับผมขอโทษ! ฮือฮือ!” เขาทรุดคุกเข่าปล่อยโฮ

พวกเรารู้ว่าเขารักจูยอนเหมือนพี่สาวแท้ ๆ และเดินสร้างงานคู่กันมาตลอด

“สหายยังไว้ใจพวกเราอยู่มั้ย?” ฉันขอคุยบ้าง

“นูน่าครับ! ผมไม่เคยลังเลไม่เคยข้องใจไม่เคยคิดหยุมหยิมกับเพื่อนทุกคนของจูยอนนูน่าเลย พวกเราเดินหน้ามาได้ไกลขนาดนี้เพราะสหายทุกคนช่วยกัน” เขาคอตกจิตตก

สหายโกไม่ใช่ทหารอาชีพติดตามจูยอนมาในฐานะน้องชายได้รับความไว้วางใจให้คุมกองทัพ แต่หัวใจของเขาใสสะอาดไม่ต่างจากแทนและเจ็ทโด้ก็ไม่ได้ฝึกให้เขาเป็นคนเหี้ยมโหด

“สหายพร้อมมั้ยถ้าผมจะบุกจีน?” แทนกล่าวเรียบ ๆ

“พรึ่บ! สหายโกจากไก่หงอยกระเด้งยืดอกคอตั้ง...

“ผมรอคำสั่งนี้อยู่ครับ!” สายตาของเขาเปลี่ยน

สหายเรียกผู้คุมค่ายทั้งหมดมาประชุม เรามีทางเลือกเดียวคือต้องชนะแทนลุกยืนตบไหล่ของเขาเบา ๆ

“เซม! สหายโกมีทักสวมกอดน้ำตาไหลรินหัวใจยังอ่อนเยาว์นัก เด็กหนุ่มนักเรียนนอกทั้งสองคนที่จับพลัดจับผลูได้มาเป็นผู้นำทหาร ทั้งคู่ต่างก็เสียคนที่รักนับถือเหมือนกัน

ผู้นำสงครามของทั้งสองฝ่ายชนชั้นห่างกันลิบลับ หวังฉวนเหมือนจักรพรรดิจุติมาเกิดมาจากเชื้อสายการเมืองเต็มไปด้วยบารมี ในขณะที่อีกฝ่ายต้องเรียกว่า คนธรรมดาขั้นต่ำสุด

ผมจะเคียงข้างเซมตลอดไป” น้ำเสียงหนักแน่นจริงใจของเขาทำให้ฉันสบายใจได้ว่าจะไม่โดนหักหลังแน่

เราจะรบเพื่อจูยอน” แทนลูบหลังเพื่อนเบา ๆ

“เราจะรบเพื่อเจ็ทโด้เซม” เขาโผสวมกอดแทน สายสัมพันธ์และความเอื้ออาทรที่มองไม่เห็นผูกมัดร้อยใจรวมกัน

ฉันมองภาพความสัมพันธ์ของเพื่อนต่างชาติต่างภาษาด้วยใจอิ่มเอม ชาวบ้านทั่วไปมีความสัมพันธ์อันดีกันได้ทุกรูปแบบแต่พอมีใครบางคนหวังผลคิดใหญ่กุเรื่องชนชาติเชื้อชาติขึ้นมาเสี้ยม มนุษย์กลับต้องมาเกลียดกันอย่างไม่รู้ตัว

ฉันยกมือ...

“ฉันขอเสนอแผนเผื่อไว้นะคะจะพิจารณาหรือไม่ก็ได้ ถ้าจะโจมตีจีนต้องโจมตีกองพันที่ 8 กับกองพันที่ 12 ก่อน ถ้าเกาหลีเคลื่อนไหวทั้งสองค่ายจะรู้ตัวก่อน”

สหายโกมองหน้าแทนแล้วหันมาถาม...

“ผมต้องทำอย่างไรครับนูน่า?”

“จากที่นักบินรายงานแสดงว่ามันไม่ได้โจมตีทุกด้าน เราต้องใช้คอมมานโดเข้าไปวางระเบิดทำลายอุปกรณ์หนักแล้วส่งทหารตามเข้ายึดพื้นที่ ถ้าเห็นควรอย่างไรก็ลองพิจารณาดูนะคะ เสี่ยงหน่อยแต่ถ้าทำได้ก็มีโอกาสชนะ”

“เซมเอาไงครับ?”

“สหายคัดทหารเกรดเอมา 20 นายมอบหมายภารกิจจู่โจม เตรียมสนับสนุนทางอากาศด้วยนะ” 

ฉันเสนอต่อ...

“ต้องเอาประชาชนไปหลบให้ปลอดภัยให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้เครื่องบินทิ้งระเบิดเข้ามาแน่ ทางทะเลก็เข้ามาแน่ ทางเหนือบุกยากมันอาจจะไม่สน”

“สมมุติว่าถล่มได้แล้วยังไงต่อ?”สหายโกคิ้วขมวด
           ฉันไม่แปลกใจเลยสักนิดที่พวกเขาแสดงอาการแบบนี้ ที่นี่ไม่มีใครสักคนที่ผ่านโรงเรียนนายทหาร

“ต้องมีใครสักคนเข้าถึงหวังฉวนค่ะ ถ้ากำจัดศูนย์กลางของปัญหาไม่ได้เราจะแพ้ทางการทหาร”

“ใครครับ?”

“นั่นน่ะสิ!” ฉันก็ไม่รู้ คนที่จะรับหน้าที่นั้นต้องเป็นยอดคน

“ใครดีครับ?” แทนยื่นหน้าเข้ามา

“นั่นน่ะสิ ฉันไม่รู้ค่ะ” ฉันเห็นเพียงซอนคนเดียวเท่านั้นที่จะรับภารกิจนี้ได้

แทนตบไหล่สหายโกอีกครั้ง...

“สหายจัดการทหาร 20 นายให้ผมก่อน เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยหาวิธีผมต้องไปต่อแล้ว” แทนหมุนตัวฉันเดินตาม

“ชุงซอง!!...” สหายโกตะโกนตามหลัง

“เขาคงไม่ใช่สายลับหรอกเนอะ?” แทนหันกลับไปโบกมือให้สหายโก

“คิดว่าไม่ใช่ ตอนนี้เบาะแสใช้ไม่ได้แล้วเลิกคิดไปก่อน คุณโดนเด็กหลอกแล้วล่ะ”

เสียงวิทยุของแทนดังขึ้น...“นินจาเซม!

“ว่ามา”

“ซาจังนีมหนีไปได้ครับ”

“ฮ๊า!” ฉันแทบทรุด ยายตัวแสบทำเรื่องอีกแล้ว

“รับทราบ” แทนหันมาหน้าเสีย...

“เธอจะไปไหน ทำไมไม่รับวิทยุใครเลย?”

ฉันอมยิ้มระอาใจกับการตัดสินใจของยายเด็กดื้อ นาตาลีทำสิ่งไม่คาดฝันได้เสมอและฉันรู้ว่าเธอกำลังจะไปที่ไหน...

“ฉันเจอตัวคนที่จะเข้าถึงหวังฉวนแล้ว”

“ถามจริง?”

“จริง! ดอกเตอรืไปรอแล้วและฉันต้องตามไป”

“ฮ้า!

ฉันรู้เลยว่านาตาลีคิดอะไรอยู่และช้าไม่ได้แล้ว สงครามเกาหลีไร้ความหมายสลายไปจากหัวสมองทันที...

“แทน! คุณกลับไปหาซอนแล้วรีบตอบโต้อย่างเร็วที่สุด ฉันเชื่อว่ากองทัพจีนไม่รู้รายละเอียดการโจมตีของซีชานตอนนี้มันคงเริ่มตั้งหลัก ฉันจะตามนาตาลีไปเอง”

“อ้าว!..อันตรายผมไปเองดีกว่า” แทนผวาเข้าหา

“คุณทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีหาทางชนะสงครามเพื่อรักษาชีวิตของคนกลุ่มใหญ่ให้ได้ สำหรับฉันนอกจากน้องแทนแล้ว...ดอกเตอร์สำคัญกว่าทุกคน” 

“มั่นใจเหรอครับว่าเธอจะไปหาหวังฉวน?”

“ดอกเตอร์ไม่ใช่คนกล้าหาญเหมือนไป่ไป๋แต่เป็นคนบ้าที่ทำอะไรแล้วกัดไม่ปล่อย จุดตายของหวังฉวนอยู่ในกำมือของเธอเป้าหมายปลายทางอยู่ที่ปักกิ่ง  เธอพุ่งชนแล้ว”

“แค่นั้นจะเข้าถึงหวังฉวนได้เหรอ?”

“ถ้าเธอเข้าถึงเราก็อาจชนะสงคราม เธอหนีจากโมเสสก็สถานการณ์แบบนี้แหละ สู้ไม่ได้ก็สู้ หนีไม่ได้ก็หนี เมื่อถึงที่สุดแล้วความบ้าระห่ำจะออกมาทุกที”ฉันรู้จักเธอดีกว่าทุกคน

“แต่ถึงจะฆ่าหวังฉวนได้แต่จะหนีออกมาได้ยังไง?”

“นั่นคือเหตุผลที่คุณต้องชนะ”

“เอ่อ! ผมไม่มั่นใจเลย” ผู้นำสูงสุดใบหน้าหมองมาก ท่าทางของเขาห่อเหี่ยวไม่มั่นใจตัวเองเลย

ความรักเป็นอารมณ์ของความห่วงใยถ้าปล่อยไปแบบนี้กองทหารหมดกำลังใจแน่ เขาเป็นเด็กหนุ่มจิตใจดีที่โชคชะตาพัดพามาไกลเกินฝัน ต้องเป็นผู้นำจำเป็นในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดขั้ว ไม่มีพี่เลี้ยง ไม่มีที่ปรึกษา ไม่มีประสบการณ์ในการบัญชาการรบ แต่เกาหลีมีเพียงความหวังเดียว คือเขาเท่านั้น

“แทน!

“เย่!

“ยืดอก! เงยหน้ามองฟ้า!

“เย่!

“ความเหี้ยมโหดในใจของมนุษย์มีไว้เพื่อปกป้องคนที่เรารักในขณะที่พวกเขายังมีลมหายใจ สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธ์เกิดขึ้นแล้วและผู้ชนะเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้หายใจ เข้าใจมั้ย?”

“เย่!

“คิดถึงสายตาและรอยยิ้มของเจ็ทโด้ที่มองคุณด้วยความรักและเข้าใจ คิดถึงหัวใจของจูยอนที่ไม่เคยยอมแพ้กับอุปสรรคใด ความหวังของทั้งสองคนอยู่ที่คุณคนเดียว”ฉันต้องโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับคนอย่างเขา คนที่ยอมสละเพื่อคนอื่นโดยไม่สนความลำบากของตัวเองต้องกระตุ้นแบบนี้

“เย่!!สายตาของเขามั่นคงขึ้นแล้ว

“คุณยังมีครอบครัวของสหายทหารที่ฝากความหวังไว้ คุณยังมีน้อง ๆ ที่เชื่อมั่นรวมถึงฉันและซอนที่พร้อมยืนข้างคุณ ตั้งใจพาทุกคนไปสู่ที่ปลอดภัยให้ได้”

“ผมสัญญาครับ!เขายืดอกตัวตรง

“ขอกอดหน่อย ฉันจะเอาไปฝากนาตาลี” ฉันโอบกอดถ่ายทอดความรู้สึกสู่กัน มันอาจจะเป็นการกอดครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก็ได้

“ระวังตัวด้วยนะครับ”

“ฉันจะแวะไปหาลูกก่อน”

ฉันทำหน้าที่พี่แทนเจ็ทโด้ได้เพียงให้คำแนะนำที่เหลือเขาต้องตัดสินใจเองและทุกการตัดสินใจมีผลกับชีวิตของพวกเราทุกคน

“แม่ใหญ่! ผมเชื่อใจคุณนะครับ”

เกาหลีร้อนดั่งไฟรนทุกคนต่างมีความแค้นสุมอก กระหายกระเหี้ยนต้องการเอาคืนให้สาสมกับที่โดนรุกราน กองทัพมดที่มีทหารเพียงสองแสนนายหาญกล้าต่อกรกับกองทัพพญามังกรที่มีทหารสองล้าน การต่อสู้ที่ฝืนตำราการรบทุกสำนักกำลังจะเริ่มต้น

...................................................................
 

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,906 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด11,022 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท23 ต.ค. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม