The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 16

The last man stand วบัติ 2026 เล่มที่ 10 ตอนที่ 16
หมวดหมู่ The last man stand. วิบัติ 2026 เล่มที่ 10
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 19 ต.ค. 2568
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ถังซาน

8 กันยายน ค.ศ.2026

มุมมองสายตา นาตาลี

ฉันโดนไล่ออกจากห้องพักตั้งแต่เช้า ชาวจีนในเมืองใหญ่กำลังสับสนเช็คข่าวกันวุ่นวาย ทหารเคลื่อนทัพเข้ามาพร้อมประกาศไล่ชาวเมืองไปปักกิ่ง ในขณะเดียวกันบนท้องฟ้าเครื่องบินสารพัดชนิดบินตรงไปทางทิศตะวันออกของจีนกันหมด มันต้องเกิดอะไรขึ้นกับเกาหลีแน่

ฉันนั่งคิดแผนการจิบกาแฟมองดูเหตุการณ์เงียบ ๆ ไม่ได้รีบร้อนเดินทางเพราะยังไม่ถึงเวลาที่หวังฉวนจะปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชน

พนักงานหนุ่มเดินมาเก็บแก้วกล่าวอย่างสุภาพ...

“คุณรีบไปเถอะครับ เราต้องปิดร้านแล้ว ทหารมาเร่งแล้ว”

“ได้ค่ะ! ฉันขอโทรศัพท์ก่อนนะคะ” ฉันดึงโทรศัพท์ออกมา

เขารีบโบกมือ...

“ไม่มีสัญญาณหรอกครับ รัฐตัดสัญญาณการติดต่อทุกช่องทาง ไม่ประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าด้วย”

“อ้าวเหรอ?”

ฉันออกมาจากร้านกาแฟ หันไปเห็นโรงพยาบาลถังซานรีบเดินข้ามถนนไปทางนั้น ด้วยความสงสัยยกโทรศัพท์ดาวเทียมโทรติดต่อไปเกาหลี...

“คุณอยู่ที่ไหนรีบกลับมาเลย...” แทนร้องลั่นเสียง ไป่ไป๋เล็ดลอดเข้ามา...

“หนูคุยเอง ให้หนูคุยเอง” ได้ยินเสียงดีใจของทั้งสองแล้วชื่นใจ

“อนนี่คะ หนูเป็นห่วงนะคะอยู่ที่ไหนเนี่ย?” ไป่ไป๋พูดเสียงใสไม่งอแงอย่างที่คิด

“ถังซานกำลังจะไปปักกิ่ง มันเกิดอะไรขึ้นกับเกาหลี?”

“อนนี่เดินหน้าต่อนะ อย่าย้อนกลับมาเกาหลีสงครามใหญ่เกิดขึ้นแล้ว เครื่องบินเต็มฟ้าเลย”

“ทำไมเร็วขนาดนั้นล่ะ?”

“อนนี่ไม่ต้องกังวลนะคะ ตั้งใจอะไรไว้ทำไปตามนั้นเลยค่ะ หนูกับแทนเข้าใจค่ะ บอกหนูมาก่อนว่าอยู่ที่ไหนแล้วปิดโทรศัพท์ซะ” ทำไมไป่ไป๋เข้มแข็งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก

“ฉันตั้งใจจะไปปักกิ่ง”

“ไปคนเดียวไม่ได้ ถ้าอนนี่โดนจับพวกเราตายกันหมดแน่”

“ฉันต้องทำยังไง?”

“อนนี่อยู่ใกล้กับอะไรบ้าง?”

“โรงพยาบาลถังซาน”

“เข้าไปในนั้นหนูจะส่งคนไปช่วย อนนี่ต้องอย่าให้ใครจับได้ก่อนนะ ปิดโทรศัพท์ด้วย แค่นี้นะ!” เธอวางสายไปพร้อมกับทิ้งปริศนาไว้

ฉันไม่รีบร้อนเดินลัดเลาะเข้ามาในโรงพยาบาล นางพยาบาลหน้ายักษ์เดินถือโทรศัพท์หงุดหงิดสวนมาแหกปากโวยลั่น...

“จะตัดสัญญาณสื่อสารทำเตี่ยมันรึไงวะ? ผัวกูยังไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน อยากรู้นักว่ามันจะอ้างอะไรอีก? ฮึ่ม!” นางพยาบาลท่าทางราวีเดินจ้ำอ้าวไปหน้าโรงพยาบาล

คุณหมอชายหญิงสีหน้าเครียดเดินถกกันสวนมา...

“ฉันติดต่อลูกที่เสิ่นหยางไม่ได้เลย มันเกิดอะไรขึ้นคุณรู้มั้ย?”

“ผมเข้าเวร มันตัดสัญญาณลิดรอนสิทธิ์ประชาชนอีกล่ะสิ เดี๋ยวพอสัญญาณมาก็รู้ว่า มันจะออกกฎส้นตีนอะไรมาบังคับอีก”

“ไม่น่าจะใช่นะ แค่จะออกกฎหมายทำไมต้องส่งเครื่องบินรบออกมา คุณไม่เห็นหรือไงทั้งรถถังและเครื่องบินที่ผ่านไป มันเหมือนมีสงครามเลยนะลองไปถามทหารกันเถอะ” ทั้งสองพากันหาทหาร

ฉันหันมองตามหลังได้แต่คิดในใจ...ถามไปก็ไม่ได้คำตอบหรอก ฉันสังเกตว่าที่นี่เป็นที่เดียวที่ไม่โดนไล่ แต่ทหารเข้ามาคุ้มกันแน่นหนา เดินทอดน่องออกด้านหลังโรงพยาบาลข้ามสระบัวไปเจอห้องสมุดใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายต้อนรับบนกระดาษสีแดงเขียนภาษาจีนตัวเท่าบ้านดึงดูดใจ

ความรู้คืออำนาจ ผู้ที่อ่านหนังสือเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ

ฉันเดินเข้าไปด้านหลังสุด เลือกโต๊ะนั่งริมหน้าต่างแล้วเทของในเป้สะพายลงมาตรวจอีกครั้ง

“ลำโพงบลูทูธ แท็บเล็ต แบตเตอรี่สำรอง เครื่องช็อตไฟฟ้า โดรน กล่องแว่นควบคุมโดรน ปืนสั้นพร้อมกระสุนเต็ม ผ้าพันคอ” ฉันตรวจของแล้วเก็บกลับทีละชิ้น หยิบผ้ามาพันคอแล้วคิดถึงแทนจังเลย

ทันใดนั้น...     

“คนที่อยู่ข้างใน!! ออกมามอบตัว! เสียงขู่ตะโกนมาจากหน้าห้อง

“ห่ะ! ฉันพรวดเข้าแอบหลังชั้นวางหนังสือแล้วชะโงกมองออกไป

กลุ่มตำรวจขยับเข้ามาชิดหน้าประตูห้องสมุด ในขณะเดียวกันบรรณารักษ์สาววิ่งหนีออกนอกห้อง

นายตำรวจจีนร่างสูงก้าวเดินเข้ามาภายในอย่างอุกอาจ ลูกน้องยืนเรียงแถวปิดทางออก สถานการณ์แบบนี้ฉันต้องวิ่งอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย?

นายร้อยตำรวจหนุ่มหน้าอ่อนสูงสง่าเดินองอาจเข้ามา...             

“หนีห่าว!... เขาเอ่ยทักเสียงทุ้มแล้วกวาดสายตามองหา

ฉันรีบหดขาเบียดตัวเข้าซอกชั้นหนังสือมุมห้องปิดปากเงียบ  

“.............”             

“ผมรู้ว่าคุณอยู่ในนี้ ออกมาเถอะครับ!” เขาเดินย่อตัวมองรอดช่องชั้นวางหนังสือส่ายตามองเข้ามา /ฉันเครียดเลย มันรู้ได้ยังไงวะ?/

เสียงวิทยุตำรวจเรียกเข้ามา...

“ผู้กองกวน! อย่าเข้าใกล้มาก อันตราย!” เสียงเตือนมาตามสาย ผู้กองหนุ่มท่าทางผยองส่ายหน้าอมยิ้มไม่เชื่อคำเตือน...         

“ขอประทานโทษนะครับท่าน ผมจัดการได้ผู้หญิงแค่คนเดียว”

“อากวน! อย่าประมาทเจ้านายกำชับมา” เสียงปลายสายอารมณ์ขึ้น

“ครับผม” เขาไม่กล้าเถียงกลับ แต่ฉันถึงกับขาสั่นเมื่ออีกฝ่ายพูดประโยคคลาสสิก...            

“ถ้ายิงได้ก็ยิงไปเลย อย่าล้อเล่นกับสิ่งที่เราไม่รู้จัก ตอนนี้ยืนยันตัวตนได้แล้วเธอคือดอกเตอร์นาตาลีมาจากเกาหลีเหนือ” พอเสียงปลายสายจบลงเขาดึงปืนออกจากซองแล้วตะโกนกร้าว...          

“ถ้าไม่ออกมา ผมบุกเข้าไปจะไม่นุ่มนวลนะ” ระดับเสียงของเขาเข้มขึ้นมาก /จะเอาไงดี! จะเอาไงดี! ฉันแหงนมองหน้าต่างถ้ากระโดดออกไปก็ตกบ่อน้ำ/

“พรึ่บ!พรึ่บ!พรึ่บ! เสียงรองเท้าเขย่าใจ

“คุณเข้ามาในจีนด้วยวัตถุประสงค์อะไร?” ผู้กองกวนยังเดินส่ายปืนเข้ามาใกล้

ฉันอยู่ตรงนี้โดนจับได้แน่ ห้องสมุดเก่าแก่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือพรางตาได้เป็นอย่างดี ขยับย่องตามจังหวะที่เขาก้าวขา หนีไปด้านข้างหน้าต่าง

“คุณโดนคำสั่งตายแล้ว ถ้าออกมามอบตัวผมสัญญาว่าจะไม่ยิง”

“..............” เขาหยุดเดินกวาดสายตา

ฉันนั่งเงียบค่อย ๆ ขยับเข้าซอกชั้นหนังสือเอื้อมมือไปดึงแท็บเลตออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะใช้มัน ฉันกลัว Tamer 30 ไม่อยากสบตากับพวกเขา แต่คำนวณแล้วเหลือทางเดียวเท่านั้น

ตัดสินใจจิ้มนิ้วเปิดเครื่อง...

“ฟริ๊ง!...”

“เอ้า!...” เสียงต้อนรับเสือกดังบอกตำแหน่งของฉัน ซวยล่ะสิ!

“จับได้แล้ว!” เขาเดินจ้ำมาตามเสียง

ฉันต้องรีบจัดการก่อนที่เขาจะเห็นตัว พอจะจิ้มแท็บเลตก็ต้องผิดหวัง...

“ห่ะ!ต้องรอมันบูทเครื่องอีก

พอเงยหน้าหัวใจจะวายผู้กองเดินจ้ำเข้ามา พอก้มมองแท็บเลตก็สิ้นหวังยี่ห้ออะไรวะทำไมมันช้าอย่างนี้

“ลุกขึ้น! แล้วเดินออกมา” เขาอยู่ห่างไปอีก 5 ล็อกชั้นหนังสือ

ทันใดนั้น...

“ฟู่ว!....กล๊อง! กล๊อง! กล๊อง!ควันขาวพวยพุ่งอบอวล ฉันรีบคลานหนีเปลี่ยนจุด

“หนีห่าว!...” เสียงหมวดจาง เสียงหมวดจางนี่นา! ฉันดีใจแทบจะลุกวิ่งออกไปหา

แต่...

ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!เสียงปืนรัวขึ้นมารีบมุดหน้าหมอบ ควันขาวอบอวลมองไม่เห็นไม่รู้ทิศทาง ฉันพยายามก้มต่ำกลัวลูกหลง

“ฉันเป็นคนจีนและไม่อยากฆ่าคนจีนด้วยกัน ใครเป็นหัวหน้าขอเสียงหน่อย” นี่แหละหมวดจางคนเก่งของฉัน มาถึงก็ขู่ตำรวจเลย ได้ใจจริง ๆ

ปังปังปัง!” ผู้กองกวนก็ยิงอย่างเดียวเลย ในจังหวะที่โดนดึงความสนใจไปแล้ว

ฉันเห็นโอกาศรีบคลานหนีหัวใจจดจ่อ...

“ปัง! สะดุ้งโหยง!

“โป๊ก! หัวชนชั้นหนังสือเจ็บจี๊ดขึ้นแก่นกะโหลก ซวยจริง ๆ

“น้องชาย! ถ้านายไม่อยากตายรีบพาครอบครัวออกจากจีนให้เร็วที่สุด หวังฉวนคุ้มกะลาหัวพวกนายไม่ได้หรอก” น้ำเสียงพูดเหมือนสั่งหมวดจางเชื่อมือได้อยู่ได้

ฉันเพ่งมองเห็นได้ไม่ไกล คลานไปตามเสียงคลำไปเจอหน้าต่าง ฉุกคิดขึ้นมาได้...ฉันมีนกหวีดนี่หว่า!...สงสัยมานานแล้วว่ามันใช้งานยังไง?

“แอนนา! ฉันขอทดลองนกหวีดของยอร์นหน่อยนะ” ฉันผลักหน้าต่างออกไป

“ วูบ! สายลมดูดควันขาวจางมลายหายไป กลุ่มตำรวจนั่งยองพร้อมยิงใส่เคาน์เตอร์ ข้างประตูทางออก

“เอาเลยดอกเตอร์ จัดเลย!” เธอตะโกนมาจากเคาน์เตอร์

“วี๊ด...ดดด!! ฉันเป่าลมสุดแรงสิ้นสุดความกังวลใจกันสักที

“...........” สรรพสิ่งรอบกายเงียบสนิท

ได้ผล! ได้ผลนี่นา! ฉันกระดี๊กระด๊าวิ่งไปหาหมวดจาง /ลูกพี่มาแล้วฮึกเหิมมาก/...

“คอยดูนะ!” ขอโชว์สักหน่อย

ก้าวขาออกไปประจันหน้า

Messiah!...ฉันแอบคิดชื่นชม นกหวีดของยอร์นก็สามารถใช้งานกับคนทั่วไปได้ด้วย

ทันใดนั้น...     

“ปัง!  กระสุนเฉี่ยวหูร้อนจนหน้าชา หนังสือด้านหลังกระจุย...

“ออม่อ!... ฉันหงายท้องตึง

“อึ้บ! หมวดจางพรวดเข้ามาประคองหัวไว้ทัน ในปากของเธอคาบนกหวีด...           

“วี๊ด...ดดด! เธอลากมานั่งพิงเคาน์เตอร์

หมวดจางคนเก่งของฉันเป่านกหวีดแล้วพวกนายเสร็จแน่ ฉันมั่นใจอย่างไม่มีข้อสงสัย

พอเธอลุกยืน...

“ปัง!ปัง!กองหนังสือบนหัวกระจุยกระจายหล่นลงมาใส่

เธอทิ้งตัวสบถเสียงดัง...

“ฉิบหายแล้วใช้ไม่ได้สักอัน”

“ฮ๋า! นกหวีดในคอ 2 ตัวสิ้นมนต์ขลัง            

“นกหวีดใช้ไม่ได้ใช้ปืน เร็ว! หมวดจางสติดีกว่ายิงปืนสวนออกไป

“ปัง! ปัง!  พอสิ้นเสียงปืนของเธอ...  

“ปัง!ปัง!ปัง! ห่ากระสุนก็โต้กลับมาหูดับ กลิ่นควันกำมะถันดินปืนคลุ้งเศษหนังสือกระจุยฟุ้งเต็มห้อง             

“จับตาย! นายตำรวจร้องสั่ง...

“ปัง!ปัง!ปัง!

“ดอกเตอร์! ใช้แท็บเลตของจูยอนเร็ว” เธอลดเสียงสั่งแล้วยิงโต้ตำรวจ

ฉันหยิบแท็บเล็ตแล้วคลานไปนั่งแอบมุมใจเต้นรัว มองโปรแกรมแล้วมึนตึ้บ...

“ฉันยังใช้ไม่เป็นเลย” โอย! ทำไมมือไม้สั่นอย่างนี้ ก่อนจะมามั่นใจมากกว่านี้นี่

หมวดจางกระซิบเร่ง...

“เร็ว ๆ กดอะไรก็ได้ กดไปก่อนเดี๋ยวพวกมันก็แห่กันมาอีก”

ผู้กองจีนร้องหยาม...

“เอ้ย! เป่านกหวีดอีกสิ เงียบทำไมนกหวีดติดคอเร้อ?”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! กลุ่มตำรวจหัวเราะลั่น

ฉันหันมองแม่ใหญ่ยักไหล่

“ออกมามอบตัวเถอะ คุณไม่รอดแล้ว” เสียงรองเท้าก้าวเข้ามาเป็นจังหวะจิตใจยิ่งสั่นไหว

“กวนซาหมิ่น” เสียงวิทยุตำรวจดังขึ้น

ฉันกับหมวดจางยืดคอเป็นยีราฟเงี่ยหูฟัง...

“ผู้กองกวน! รายงานสถานการณ์ด้วย”

“กำลังล้อมจับอยู่ครับ มีผู้หญิงพร้อมอาวุธปืนมาด้วยครับ”

“ศูนย์อาชญากรแจ้งว่าดอกเตอร์นาตาลีเป็นผู้ริเริ่มโครงการล้างโลกเป็นศัตรูตัวสำคัญมนุษยชาติ ใช้เสียงนกหวีดเป็นอาวุธ ” เสียงปลายสายกังวล

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ผู้กองหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะหยามหยัน...

เธอเป่าไปแล้ว 2 ครั้งครับ ไม่เห็นเป็นอะไรเลยข่าวลือไม่เป็นจริงครับท่าน”

“หือ! นายแน่ใจเหรอ?”

“ตำรวจได้ยินทุกนาย ผมจะบุกจับตายแล้วนะครับ เดี๋ยวจะเอานกหวีดกลับไปฝาก”

“อย่า! จับเป็นมาให้ได้นะ คุณอยู่ที่ไหนผมจะส่งคนไปช่วย?” เสียงปลายสายร้อนรน

“ห้องสมุดหลงฟาหลุน โรงพยาบาลถังซานครับ”

“อย่าประมาทนะ” ปลายสายจบสนทนา

ผู้กองเดินยิ้มย่ามใจเข้ามาประกาศกร้าว...

“โอกาสของคุณมาแล้ว ออกมามอบตัวจะได้ไม่ตาย”

“ปัง!ปัง!ปัง! หมวดจางยิงสวนไปแทนคำตอบ

เขากระโดดหลบข้างชั้นหนังสือ ร้องสั่ง...

“ยิง!

“ปัง!ปัง!ปัง!  ลูกน้องระดมยิงใส่เสียงปืนดังเขย่าขวัญ

ฉันยังงมคำสั่งไม่เจอเลย...

“อันไหนวะ! อันไหนวะ?” ฉันไม่เคยเปิดดูสักครั้งไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นตรงไหน

“จิ้มลงไปก่อน! จิ้มลงไปก่อน!” หมวดจางก็เร่งจังเลย

ฉันตัดสินใจจิ้มจอ...

“อันยองฮาเซโย! วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส พวกเรามาออกกำลังกายกันนะคะ” เสียงจูยอนสดใสผ่านลำโพงบลูทูธ

หมวดจางหันขวับตวาดแว้ด...

“ยายดอกเตอร์! อ่านหนังสือไม่ออกรึไงวะ?”

“ปัง!ปัง!ปัง!

“ก็คุณบอกให้จิ้มไปก่อนนี่ อย่าเร่งสิมือมันสั่น” ฉันจิ้มลงไปใหม่...

“ฉันให้เวลา 5 นาทีนะคะ ไปอาบน้ำกันค่ะ! เสียงจูยอนภาษาเกาหลีดังทั่วห้อง  

“เพี๊ยะ!เธอตีหน้าผากตัวเองแล้วหันมาแยกเขี้ยวใส่...

“ยายบ๊อง! กดเป่านกหวีดก่อนสิวะ!

“ปัง!ปัง!ปัง!

ฉันลนลานรูดหาคำสั่ง...

“นกหวีดอยู่ไหน? นกหวีดอยู่ไหน? อยู่บนสุดนี่เอง...”

ใจแวบคิดถึงคำพูดของเจ้าลีซุกอึนที่เคยบอกว่ามันใช้ยาก ถ้าเป็นตัวเลขจำง่ายกว่าสงสัยจะจริง

“วี๊ดดดด! เสียงนกหวีดดังพลิ้วขึ้น...

“............” ทุกอย่างเงียบลง

ฉันหวั่นใจหันไปสบตากับหมวดจาง ลุ้นอกแทบระเบิดไม่กล้าผลีผลาม...

Messiah! Messiah! Messiah!

Yes!...” ฉันเด้งเต้นต้อนรับเสียงที่รอคอย

หมวดจางเข้ามาดึงหู...

“ใช่เวลามาดีใจมั้ย? สั่งสิ! เดี๋ยวมันก็แหกเอาหรอก”

“เออ..ใช่! ใช่!” ฉันรูดหาคำสั่งด้วยความโล่งใจ แล้วจิ้ม...

“ได้เวลาทานข้าวแล้วค่ะ” เสียงใสของจูยอนได้ผล

Messiah!Messiah!Messiah! เสียงรองเท้าวิ่งเข้ามา

“ฮึบ!” หมวดจางรีบขว้างลำโพงบลูทูธไปหน้าประตู

ฝูง Tamer 30 เข้ายื้อแย่งกันเกิดความโกลาหลในห้องแคบ นายตำรวจยื้อแย่งลำโพงได้วิ่งนำเข้าไปในโรงอาหาร

แนรู้สึกภูมิใจในความสำเร็จ หมวดจางหันมามองตาเขียวจะด่าอะไรฉันอีกเนี่ย?...

“เธอเป็นใคร ใช่ดอกเตอร์นาตาลีจริง ๆ หรือเปล่า?”

“อ้าว! ใช่สิ! ฉันเอง...คนเก่งคนสวยที่สุดในโลก”

“แล้วทำไมไม่หาคำสั่งที่พวกมันฉลาด ๆ กว่านี้วะ หาคำสั่งที่มันไม่วุ่นวายสิ หันไปดูสิ! เบียดกันเข้าโรงอาหารมั่วไปหมดแล้ว” เธอชี้ไปที่ถนนด้านนอกห้องสมุด เสียงนกหวีดกินพื้นที่ไปไกล มากันตรึม

“อั๊ยกู่!

คนไข้เข็นเสาน้ำเกลือลงมาวิ่งแข่งกับเขาด้วย ฉันเลื่อนหากวาดสายตามองคำสั่งในจอ...

“คำสั่งไม่วุ่นวาย! ไม่วุ่นวาย! ไม่วุ่นวาย! มันเป็นคำสั่งอะไรเหรอไม่วุ่นวาย? นั่ง? นอน?” ฉันเคยใช้ซะที่ไหนล่ะ

“เร็ว ๆ! สั่งให้มันอยู่นิ่ง ๆ สิ กูจะบ้าตายบื้อได้ใจจริงนะ” โดนด่าตลอดเลย

“นิ่ง ๆ! นิ่ง ๆ! นิ่ง ๆ! เจอแล้ว ๆ หลับตา” ฉันจิ้มจึ้กเสียงใสก็ดังออกมา...

“ใครหลับตาได้นานที่สุดฉันจะไปนั่งข้าง ๆนะคะ”

“.............”

ทันทีที่ได้ยินเสียงของจูยอนทุกอย่างเหมือนต้องมนต์ ข้าวยังคาปากพยาบาลสาว อาม่าวางช้อนหลับตา หญิงชายค่อย ๆ ล้มตัวนอนบ้างนั่งบ้าง

ฉันมองสำรวจไปรอบบริเวณลานกว้างและซอกเล็กซอยน้อย ผู้รักสงบในชุดคนไข้นั่งหลับตาไม่สนใจใคร

“เฮ่อ!! หมวดจางถอนหายใจหันมาเก็บข้าวของบ่นพึมพำ

“ใช้ไม่เป็นแล้วเอามาทำไมเนี่ย? เก็บของเร็วรีบเผ่นก่อน”

รอบสระน้ำห้องสมุดกลายเป็นสถานที่ให้ Tamer 30 บำเพ็ญเพียรภาวนาหลับตาไม่ไหวติง ฉันหันไปตีมือกับหมวดจางสำหรับการชนะครั้งแรกเดินกอดคอกันออกประตูหลังของโรงพยาบาล

“ไปต่อ” หมวดจางจูงมือ

“อ้าว! ไม่ได้มาจับฉันกลับเกาหลีเหรอ?” ฉันแปลกใจมาก

“จะกลับมั้ยล่ะ?”

“แฮ่! แฮ่! เขินจัง หมวดจางรู้จักฉันดีที่สุด

“นี่! ไป่ไป๋เสียงใสมาก คุณไปทำยังไง?” คนที่ฉันสงสัยที่สุดเป็นยายนี่แหละ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันแต่งตั้งให้เป็นฮองเฮา” เธอหัวเราะได้สบายใจเลยนะ ไป่ไป๋ไม่ได้บ้ายอสักหน่อย

นกหวีดที่เป็นความหวังทั้งสองอัน ตอนนี้เป็นเพียงของเล่นเด็กที่ไม่มีความหมาย แต่ฉันยังคงดั้นด้นเดินหน้าเข้าหาหวังฉวนและยังคงเชื่อว่านกหวีดของยอร์นจะกำจัดหวังฉวนได้

                        ....................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,906 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด11,022 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท23 ต.ค. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม