หมวดหมู่ | the last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 11 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 2 ต.ค. 2568 |
ฉินหวงเต่า จีน
มุมมองสายตา ซอน
03.00น. ริมแม่น้ำหลวนเหอ 9 ชั่วโมงก่อนสิ้นโลก
บนฟากฟ้ายังมีจรวดทางไกลมาประปราย ถึงเกาหลีจะเป็นฝ่ายบุกแต่ก็ไม่ได้โจมตีกลับด้วยอาวุธหนัก รถขีปนาวุธแล่นเข้ามาเพื่อยึดพื้นที่ตั้งรับการโจมตีทางอากาศ เพราะถ้ากองหน้ายิงพลาดด้านหลังยังซ้ำได้อีกหลายครั้ง
“กองจา! รายงานด้วย”
“ทางสะดวก!” เดอะแก๊งรายงานจากฝั่งตรงข้าม
พื้นที่เกษตรกรรมริมน้ำกว้างใหญ่ กลุ่มเดอะแก๊งดวงตาใสแจ๋วนั่งแถวยาวเหยียดคุยกันสบาย ๆ ทุกดวงใจหล่อหลอมรอเวลาออกรบ รถสะพานลอยน้ำสำเร็จรูปจอดเข้าแถวยาวไปตามริมฝั่ง
“พั่บ!พั่บ!พั่บ!” ด้านหลังฝูงเฮลิคอปเตอร์เกาหลีเหนือบินขึ้นลง สนับสนุนตลอดเวลา
“ฟ้าว!!!” บนฟากฟ้า ฝูงบิน MIG ยังคงคอยวนเวียนอารักขาให้ความอุ่นใจ ต้องบอกว่างานนี้เครื่องบินของเกาหลีมีมากเกินนักบิน
ผมส่องกล้องไปกลางสายน้ำเชี่ยว ทหารต่อโป๊ะสะพานไปเกือบถึงฝั่งแล้ว
“ปั้ลลี่!ปั้ลลี่!ปั้ลลี่!” ผ.บ.ของผมกำลังเร่งทหารปล่อยโป๊ะสำเร็จรูปลอยบนผิวน้ำ รู้สึกขอบคุณในใจ
สายน้ำเชี่ยวพัดโป๊ะลอยเบี้ยวแอ่นคดงอเหมือนงู...
“ทหาร! ล็อคมันเข้าด้วยกันแน่น ๆ” เขาชี้ไปที่จุดแอ่นท้องช้าง ทหารกรูเข้าไปช่วยกันดึง พอเจ้าแทนมาอยู่ด้วยทุกอย่างราบรื่นไปหมด
“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!” เสียงหวีดหางจรวดต้อนรับวันใหม่ ลูกไฟลอยข้ามหัวเลยไป
“บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม!บรึ้ม!”
จรวดมิสไซน์จีนปลุกตั้งแต่เช้ามืด มันพุ่งข้ามหัวลงในเมืองด้านหลังใกล้เข้ามาทุกที เจ้าซนบ๊กซูเดินป้วนเปี้ยนไม่ห่างกายซอน ถ้าผมหยุดเดินเป็นอันว่าต้องโดนมันชนหลังทุกครั้ง
ผมยกวิทยุเรียก...“แทน! มานี่หน่อยปล่อยให้ทหารทำไป”
“บรื้ม! บรื้ม! บรื้ม! บรื้ม!!” ระเบิดลงพื้นดินสะเทือนสะท้านขา เสียงดังสนั่นหวั่นไหวปลุกทุกสรรพสัตว์
“พี่ซอน! ทางฉีเฟิ่งวิทยุมาระเบิดลงหนักมาก ออกจากที่มั่นไม่ได้เลย” แทนเดินมารายงาน
“ตรงนั้นมีคนของเราเท่าไหร่?” ผมถามแล้วหยิบแท็บเล็ตมาดูแผนที่
“ทหาร 5 กองร้อยเดอะแก๊งค์ 12,000 คน ที่เฉิงเต๋อทหาร 1 กองพัน เดอะแก๊งค์ 10,000 คนกระจายกันหลบ เด็กที่เหลือมารวมกันที่นี่หมดแล้ว” แทนนั่งลงข้าง ๆ หายใจแรง ใบหน้าหนุ่มหล่อตอนนี้มีแต่สีดำทาเลอะไปหมด
“ทำดีมาก! ให้มันซ่อนตัวไว้แบบนั้นแหละ” ผมสบายใจขึ้นมาหน่อย ตอนนี้ไม่ต้องการใครเพิ่มแล้วใช้กลุ่มเด็กที่มีอยู่นี่ก็น่าจะเหลือเฟือแล้ว เด็กคนเดียวก็สามารถจัดการทหารทั้งกองทัพได้
“จีนยิงระเบิดปูพรมอย่างที่พี่คาดการณ์จริง ๆ ออกมาข้างนอกระเบิดลงหัวแน่” เขาหัวเราะชอบใจ
“ถ้าทหารจีนเอาเครื่องบินทิ้งระเบิดข้ามมาได้นี่สิ! น่าหนักใจ จรวดพวกนั้นยิงได้ไม่ถึงเกาหลีหรอก พวกมันกำลังพังบ้านตัวเอง” ผมอ่านแผนที่บนแท็บเลต
“ไม่ต้องห่วงครับ รถยนต์ยิงขีปนาวุธของเราเข้ามาแล้ว เมื่อคืน! ก็ซัดเครื่องบินร่วงไปหลายลำ สหายโกส่งนักบินโฉบมาคุ้มครองทั้งที่นี่กับชายทะเลต้าเหลียนทหารจีนข้ามมาไม่ได้หรอกครับ ผมไปขโมยเครื่องบินรบมาเป็นพันลำเลยนะพี่ เราสู้ได้สบาย” ผ.บ.สูงสุดของผมโม้อย่างมั่นใจ
“มึงขโมยได้...มันก็ขโมยได้เหมือนกันแหละ มันขโมยได้มากกว่ามึงอีก ไอ้ขี้โม้เอ้ย” ผมเย้ากลับ
เจ้าแทนหน้าจ๋อย...“เนอะ!”
“ยังมีหน้ามาเนอะอีก เดี๋ยวถีบเลย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! แต่พี่ไม่สงสัยบ้างเหรอว่า ทำไมบริเวณนี้มันเงียบผิดปรกติ? ฝั่งโน้น!..ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ผมสังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่ะ เหมือนเป็นกับดัก” เขาชี้นิ้วข้ามแม่น้ำ
“กูไม่เคยรบแถวนี้ไม่รู้จักภูมิประเทศ ดูจากแผนที่ก็โคตรเสี่ยงเลย มึงดูภูเขาสองลูกที่ขนาบอยู่สิ ช่างเหมาะแก่การซุ่มโจมตีมาก” ผมลากนิ้วไปที่แอ่งกะทะเทือกเขาคู่ขนาน ภูมิประเทศน่าหนักใจ
“แต่มันก็อยู่ห่างมากเลยนะพี่ หมู่บ้านพวกนั้นเป็นกำบังได้”
“เป็นกำบังได้แต่มันก็เป็นอุปสรรคได้เช่นกัน ถ้ามันยิงจรวดเข้ามาพร้อม ๆ กันยังไงคนของเราก็เจ็บ ต้องใช้ความเร็วเข้าถึงตัวมันให้ได้เราต้องประชิดตัวมันในรัศมี 4 กิโลเมตร”
“เอาโดรนโฉบรอบเดียว ก็จัดการมันได้ทั้งกองทัพแล้ว”
“ฝั่งโน้นคงอพยพชาวบ้านไปแล้วล่ะ มันต้องใช้วิธีระดมยิง เดอะแก๊งมันจะไม่ได้กลับบ้าน เสียดายชีวิตเด็ก ๆ ว่ะ!” ผมสลดใจทุกครั้งที่คิดถึงกลุ่มเดอะแก๊ง
เสียงกลุ่มทหารเริ่มร้องเพลงปลุกใจแทรกเข้ามา...
“จนกว่าท้องทะเลตะวันออกจะเหือดแห้ง ภูเขาแบ็คตูทลายลงไปขอให้สวรรค์คุ้มครองพี่น้องปลอดภัย เกาหลีของเราจงเจริญ” พวกเขาพร้อมแล้ว ทุกคนกำหมัดโยกเข้าจังหวะแหกปากปลุกใจตัวเอง กลุ่มเด็ก ๆ ยังคึกคักคุยกันสนุกสนานโอ้อวดโดรนของตน
“แล้วพี่จะเอายังไง?”
“มึงสั่งให้ทหารเอาจาวาลินกับปืนยิงเฮลิคอปเตอร์ไปมาก ๆ เลย มันเอา ฮ.มาป่วนเราแน่ ๆ กูเห็นมี FIM-92 Stinger Missile ของรัสเซียด้วย ไอ้นี่แหละสุดยอดไม่มีเครื่องบินชนิดไหนหนีมันได้ กำชับทหารให้คว้ามอเตอร์ไซด์ประกบเด็กให้ทัน เคลื่อนตัวให้ไวกว่าจรวด”
“เย่!”
“มึงมาดูแผนที่นี่สิ บริเวณพื้นที่ตรงกลางฝั่งโน้นเป็นท้องนาข้าวเก็บเกี่ยวไปแล้วเหมือนกันกับฝั่งนี้ มีหมู่บ้านขนาดใหญ่ขนาบซ้ายขวา กูคาดการณ์ว่ามันคงขนคนออกไปแล้ว ทหารของเราต้องผ่านจุดนี้ก่อน” ผมลากนิ้วผ่านท้องนา
“ถ้าผ่านท้องนานี้ไป มึงไปที่หมู่บ้านทางขวาแล้วขึ้นภูเขาให้ได้ เดาว่ามันต้องเอาปืนยิงระเบิดวิถีโค้งถล่มเราแน่ ต้องเข้าใกล้ตัวมันให้เร็วที่สุด”
“ทหารกับเดอะแก๊งใช้มอเตอร์ไซด์อยู่แล้วมันยิงไม่โดนหรอก กลัวแต่ปืนกล” แทนยังคงเชื่อมั่น
“ปืนกลน่าจะทำอะไรพวกเราไม่ได้ เราไปถึงตัวพวกมันก่อน 4 กิโล ได้เปรียบมันตรงนี้”
“งั้นก็เบาใจเถอะ!” แทนยืดตัวดัดหลังไล่ปวดเมื่อย
“แต่มึงอย่าลืม! จรวดยิงได้ไกลเป็น 100 กิโลนะ” ผมยืดตัวแล้ว เก็บแท็บเล็ต...
“มีเวลาวิ่งเหลือเฟือ!”
“ช่วยเด็ก ๆ ให้ขึ้นภูเขาได้ก่อนก็ชนะในศึกนี้ แล้วเราค่อยลุยเข้าหากองทัพใหญ่ด้านหน้าแลกกับพวกมัน เอาตามนี้นะ!” ผมหันไปเห็นเจ้าซนเดินมาพอดี...
“บ๊กซู!”
“เย่!” เจ้าซนวิ่งเข้ามา
“อธิบายแผนอีกทีสิ!”
“ชุดแรกจะแยกย้ายขึงพืดเรียงหน้ากระดานห่างกันคันละ 500 เมตรแล้วส่งโดรนบินนำทางเข้าไปก่อน”
ผมตกใจ...“เดี๋ยว! สหายใช้รถกี่คัน” เดอะแก๊งที่อยู่ตรงนี้เกือบครึ่งหมื่นชีวิต
“3,000ครับ”
“เฮ้ย! แถวไม่ยาวถึงดวงจันทร์เลยเหรอ ยาวไปมั้ย?”
“ยาวจนกว่าจะถึงเขตภูเขาทั้งสองด้านครับ พวกเขาจะเรียงหน้ารุกเข้าไปพร้อมกัน
“มั่นใจมั้ย?”
เจ้าซนยืดอกโม้...
“ใสปิ๊งเลยครับ! กลุ่มที่เหลือจะตามเข้าไปกินพื้นที่ขยับไปทีละ 4 กิโล ถ้าท้องฟ้าโล่งผมจะให้ทหารไปส่งให้ใกล้เป้าหมายที่สุดครับ ผมยังเดาสถานการณ์พรุ่งนี้ไม่ได้ ต้องรอดูหน้างานครับ”
ผมชื่นใจมากที่ซนบ๊กซูก้าวข้ามความกลัวไปไกลมากแล้ว...
“ดีมาก! สหายไปประจำที่ก่อน!”
แผ่นดินสะเทือนแน่ ผมหันไปหยิบ FN6 ปืนยิงเฮลิคอปเตอร์ขึ้นมาสะพายหลังแล้วปีนขึ้นไปยืนบนก้อนหิน...
“เดอะแก๊ง!!”
“เย่!!!!” เสียงกระหึ่มชายน้ำ
ผมมองลูกศิษย์ด้วยใจเป็นห่วง การพูดคุยครั้งสุดท้ายจะเป็นการกระตุ้นและบอกลากัน...
“ช่วงเวลาของวัยรุ่นเป็นช่วงเวลาที่เปล่งประกายเจิดจ้าที่สุดของชีวิต ขอให้สหายอย่าลืมความเชื่อมั่นและศรัทธา”
“เย่!!!”
“สงครามครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของทหารที่พร้อมกว่ากับความศรัทธาในหัวใจของสหาย”
“เย่!!!”
ผมฮึกเหิมชูปืน FN6 …
“ทุกคนจะเป็นส่วนหนึ่งของตำนานการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ประวัติศาสตร์จะจารึกชื่อของสหายในฐานะผู้ปกป้องปิตุภูมิ สหายคือดวงใจของชนชาติเกาหลี จงเต้นตามจังหวะของหัวใจ! เนกาเจอิลจัลนาก้า!!!!”
“เนกาเจอิลจัลนาก้า!” เสียงกระหึ่มเข้าถึงแก่นใจ
“เนกาเจอิลจัลนาก้า! เนกาเจอิลจัลนาก้า! เนกาเจอิลจัลนาก้า!” เปลวไฟในใจลุกโชนแล้ว
“ถึงเวลาเบ่งบานของพวกเจ้าแล้วกุหลาบดินของข้า!!”
“เย่…!!” วัยรุ่นยืดอกเชิดหน้าสายตามุ่งมั่น
ผมเห็นสายตาฮึดสู้เกินร้อยแล้วรู้สึกคึกคัก หันไปที่กลุ่มทหาร...
“ยอลาบูนทงมู! ครั้งนี้ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะจะเป็นการรบครั้งสุดท้ายของเรา ผมภูมิใจมากที่ได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักรบแห่งโชซอน เราจะช่วยกันปกป้องบ้านที่อบอุ่นและสร้างความมั่นคงให้กับพี่น้อง พวกเราเอาชัยชนะกลับไปฝากคนที่บ้านกันเถอะ อย่าให้พวกเขาผิดหวัง!”
“ฮูย่าห์...!!!” เสียงตอบรับหนักแน่น ผมขนลุกซู่เลือดร้อนสูบฉีดหันไปเรียกนายทหาร...
“สหายลีจองซุก!”
“เย่! ลี! จอง! ซุก!” ชายวัย 30 กว่ายืนยืดอกสายตานิ่งมองมาที่กระดุมบนหน้าอกของผม
“สั่งเคลื่อนพลข้ามสะพานที่1ให้รถ HIMARS ไปก่อน” ผมสั่งให้เอารถยิงต่อต้านอากาศยานข้ามนำหน้าไปก่อน
“เย่!” เขาหมุนตัววิ่งกลับ
“ฮึบ!” ผมกระโดดลงไปหาเจ้าแทนที่ยืนยิ้มแววตาระยิบ
“ขนลุกเลยว่ะพี่!! สุดยอดจริง ๆ นักรบไทใหญ่” แทนยิ้มยืดอกสายตาจริงใจ
“แค่เริ่มต้น...” ไม่อยากจะโม้ ไทใหญ่สุดยอดอยู่แล้วเขาไม่รู้จักเองต่างหาก ผมตบไหล่แล้วเดินนำเข้าไปในกลุ่มทหาร
“บรื้น!บรื้น!” รถอาวุธหนักเคลื่อนข้ามสะพานตามกันเป็นแถวยาว เครื่องบินรบเกาหลียังโฉบเฉี่ยวลงมาคุ้มครอง
กลุ่มเดอะแก๊งขยับสะพายเป้เตรียมพร้อม ผมชั่งใจครั้งสุดท้ายมองไปกลางน้ำแล้วตัดสินใจส่งคนที่เก่งที่สุดออกไป...
“ซนบ๊กซู! ข้ามไปปฎิบัติการตามแผนเลย”
“เย่!” ไม่มีอิดออดไม่มียึกยัก...
“แว๊น!แว๊น!แว๊น!...” ทีมของซนพรวดออกไปเป็นชุดแรก
ผมยกวิทยุ...
“ทีมต่อไปเตรียมตัว รถยิงขีปนาวุธขนาดเล็ก! รถเรดาร์! รถหุ้มเกราะไปข้ามสะพานที่ 3 จอดรถเรียงเป็นรูปตัววีเปิดช่องตรงกลางวิ่งไว้ด้วย”
“ปั้ลลี่! ปั้ลลี่!” เสียงเร่งเร้าให้ทุกคนเร่งรีบ
“บรื้น!บรื้น!” คันแล้วคันเล่าวิ่งต่อเนื่องไม่ขาดสาย
“รถโมบายล์! รถลำโพง! ข้ามไป เร็ว!!” ผมอมยิ้มถูกใจกับรถแห่ทรงบึกบึนของเกาหลีเหนือแล่นตามไป
สงครามไม่มีความปรานี การสูญเสีย การพลัดพราก บ้านเรือนพังทลาย ลูกกำพร้า พ่อม่ายแม่ม่ายและพิการเกิดขึ้นแน่นอน สำหรับเดอะแก๊งมีเหตุผลเพียงพอที่ต้องสู้
ผมขับรถมอเตอร์ไซด์มาสนามด้านหลังกองรถบรรทุกทหาร กองทัพลับของผมจะได้เข้าร่วมสงครามครั้งแรก
โจจินกูหัวหน้าทีมยิ้มหน้าบานเดินเข้ามาหา...
“เซมครับ!” เขาวิ่งเข้ามากอดเอว เราไม่ค่อยได้เจอหน้ากันบ่อยนัก
“จินกูพันจังนีม! พร้อมมั้ย?” ผมกอดคอหัวหน้าทีมจรวดทางเรียบ
“พร้อมมากครับ”
“ความหวังของผมอยู่ที่สหายนะ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด” ผมมองรถทหารคันสุดท้ายขึ้นตลิ่งฝั่งตรงข้าม
“ไปเตรียมพร้อม” หมากตัวสุดท้ายของผมถึงเวลาเดินแล้ว
“เย่!”
แสงแรกสลัดเมื่อวานไปเป็นอดีตและพรุ่งนี้กำลังจะกลายเป็นวันนี้แสงสดใสกำลังนำพามนุษย์กลุ่มสุดท้ายเข้าสู่สงครามอนาคตข้างหน้านี้ ไม่มีใครหลีกเลี่ยงฤดูฝนได้ เมื่อฝนมาก็ต้องเปียกไม่มากก็น้อยอย่าให้โดนฟ้าผ่าเป็นพอ
โจจินกูชูมือเรียกนักรบวัยรุ่นกลุ่มสุดท้าย...
“เดอะแก๊งจรวดทางเรียบ!...”
“เย่!”
“ถึงเวลาจี๊ดแล้ว!...”
“ไป!” จินกูโบกมือ
“ปี๊ปปี๊ป!คลึ่กคลั่ก!” พื้นสั่นสะเทือนเมื่อพวกเขาดึงผ้าปิดแล้วตบตูด นกกระจอกเทศทั้งฝูงวิ่งกรูไปลงสะพาน ไฟบนหลังระยิบระยับเหมือนฝูงหิ่งห้อยในความมืด
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!” ผมยิงปืนขึ้นฟ้ากระตุ้นให้นกวิ่งเร็วขึ้น ฝูงนกวิ่งเบียดกันตกน้ำกระจาย...
“ทีมมอเตอร์ไซด์ ไป!”
“แว๊น! แว๊น!แว๊น!แว๊น!” เสียงมอเตอร์ไซด์ยิ่งดังยิ่งทำให้นกเพิ่มความเร็ว
“อย่าขับช้า! อย่าเกาะกลุ่ม! เคลื่อนไหวให้เร็วหนีจรวดให้ทัน บุกตะลุยขึ้นภูเขาไปจนกว่าจะเจอทหารจีน”
“แว๊น! แว๊น!แว๊น!แว๊น!” ฝูงมอเตอร์ไซด์ของเดอะแก๊งพุ่งทะยานข้ามแม่น้ำผ่านหน้า
จินกูหันมายิ้ม...
“ผมต้องไปแล้วครับเซม!” เขาเดินเข้าไปกอดนกกระจอกเทศในชุดนักรบ โอบกอดอย่างแสนรักลูบไล้ตั้งแต่ลำคอจนถึงปลายหาง
“มันจู!วิ่งสุดชีวิตเลยนะ” เขากระตุกผ้าปิดตาตบตูดนกแล้วคว้ามอเตอร์ไซด์บิดตามไป
เจ้าแทนยกนิ้วโป้งยิ้มกว้าง...
“โคตรเจ๋งเลยว่ะ เอาใจผมไปเลย!”
“โดรนบินได้แค่ชั่วคราวไปได้แค่ 4 กิโล แต่จรวดทางเรียบของกูวิ่งได้ทั้งวัน แบตฯไม่มีหมด หากินเองเป็นด้วย” ยักคิ้วใส่ซะหนึ่งที... บอกแล้วว่ารู้จักไทใหญ่น้อยไป
“ชอบ! ชอบ!” ผบ.หัวเราะร่า
“แทน! กูจะกลับบ้านพร้อมกับมึงนะ ระวังตัวด้วย กูไปก่อนนะ!” ผมบอกแล้วหันไปกระโดดซ้อนมอเตอร์ไซด์ทหาร
ทุกวินาทีบีบคั้น หนทางยาวไกลชัยชนะยังมองไม่เห็น ถ้าหากไม่ได้ก้าวขาออกไปก็ไม่อาจจะรู้ผลของโชคชะตา
.........................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,886 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 11,002 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 2 ต.ค. 2568 |