หมวดหมู่ | the last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 11 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 15 ต.ค. 2568 |
ถังซาน ประเทศจีน
มุมมองสายตา ซอน
“ว๊าก!” ผมเหมือนโดนบีบหัวใจ อึดอัด สิ้นหวัง หดหู่ รู้สึกคลั่งแค้นแหกปากระบายความอัดอั้น...
“ชาติหน้าเจอกันใหม่นะน้องสาว ไม่ต้องกลัวเหงา ผมจะส่งพวกมันไปเป็นเพื่อนอีก ผมจะฆ่าแม่งให้หมดประเทศเลย” ความแค้นในใจทวีคูณเป็นร้อยล้านเท่า
“ฮือ!ฮือ! ทำไมคนที่ผมรักต้องทิ้งผมไปทุกคน ทำไมต้องให้ผมเป็นคนทรมานใจทุกครั้ง” แทนร้องไห้ตัวโยน เขาผ่านการสูญเสียคนที่รักไปทีละคน
ถ้าผมเสียขวัญไปด้วยกองทหารจะพัง…
“รอดมาได้ แต่ก็มาได้อีกไม่ไกล” ผมเดินเข้าไปตบไหล่เจ้าแทน เตือนใจให้เขารู้ว่ายังมีคนสำคัญอีกคนที่ต้องปกป้อง...
“นาตาลีเป็นยังไงบ้าง กูเป็นห่วงจัง” ผมต้องไล่ความรู้สึกอาวรณ์ออกไปให้ไวอยู่ในสนามรบความกังวลใจไม่ช่วยให้ชนะสงคราม
“ผมลองติดต่อหน่อยดีกว่า!” แทนยกวิทยุสายตากังวล
ใครบอกว่ามีเมียสองคนเป็นเรื่องดี ถ้าต้องเสียใจพร้อมกันทั้งสองครั้งคงไม่ไหวแน่
ทันใดนั้นเสียงวิทยุดังลั่นพร้อมกันทั้งของผมและแทน...
“ซอน!... แทน!... รอดแล้ว!...พวกรอดแล้ว” เสียงไป่ไป๋แหวมาในวิทยุของแทน
“เซม...มม!!! !...” สหายโกตะโกนแข่ง...
“มันด้านครับ…ระเบิดด้าน! ทุกคนรอดแล้ว!” น้ำเสียงดีใจสุดขีดดังในวิทยุของผม
“ย้าฮู่ว์!” ผมกระโดดสุดตัวกับข่าวดี
“เย้...วู้ว…วว!!” กลุ่มทหารกระโดดเฮตัวลอย
“เทพีแห่งโชคหันมามองเราแล้ว ถึงเวลาแห่งชัยชนะแล้ว”
“ฐานรายงานสถานการณ์ด้วย” ความมั่นใจของผมกลับมาเกินร้อยอีกครั้ง
“เดอะแก๊งถล่มกองเรือบรรทุกเครื่องบินฝูเจี้ยนได้แล้วครับ บนจอไม่มีสัญญาณเครื่องบินรบขึ้นจากทางทะเลแล้ว ตอนนี้ท้องฟ้าเกาหลีโล่งแล้วครับ” สหายโกน้ำเสียงตื่นเต้น
“เดอะแก๊งเหรอ?” ผมขนลุกซู่ไม่เชื่อหู เรือบรรทุกเครื่องบินเบอร์ต้น ๆ ของโลกล่มเพราะเด็กเหรอ?
“ใช่ครับ! ฝีมือของเดอะแก๊ง 2 คนครับ” เมื่อได้รับคำยืนยัน ผมจุกอกตื้นตันใจเวลาที่ทุ่มเทลงไปได้สร้างวีรบุรุษขึ้นมาแล้ว
“ส่งเครื่องบินมาถล่มถังซาน...จบสงครามกันเถอะ”
“เย่!”
ผมหันมองเจ้าแทนน้องรัก หนุ่มน้อยจิตใจดีโดนคดีการเมืองซัดสาดพัดพาออกจากบ้านเกิดนั่งร้องไห้กระซิกคุยวิทยุกับไป่ไป๋ ผมเข้าใจความรู้สึกที่ปวดร้าวในใจของคนที่ไร้ที่พึ่งพา ชีวิตที่ไม่มีใครเดินมาไกลจนพบรักแท้ ผู้หญิงที่รักทั้งสองคนคือสมบัติล้ำค่าที่เขาต้องปกป้อง น้ำตาที่ไหลออกมานั้นไม่ใช่เพราะอ่อนแอ แต่มันแทนคำพูดจากใจได้เป็นล้านคำและแทนคำพูดว่า รัก ได้อย่างชัดเจนที่สุด
“แทนสั่งทหารให้ถอยออกจากที่มั่นเครื่องบินรบกำลังมา เสร็จตรงนี้แล้วเราไปตามหาแอนนากับนาตาลีที่ปักกิ่งด้วยกัน”
“เย่!” เขาวิ่งนำทหารออกไปทันที
ผมมาถึงหมู่บ้านรูปปั้นดินเผาของศิลปินจีนที่บรรจงปั้นก้อนดินโดยจำลองแบบมาจากภาพวาดโบราณ รูปปั้นดินเผาเท่าตัวจริงในวิถีชีวิตชนบทที่เงียบสงบ บ้านเรือนพักอาศัยการค้าขายทางน้ำและลาเทียมเกวียนของพ่อค้าสมัยก่อนดูเหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
เจ้าซนบ๊กซูเดินยิ้มไม่หุบ แบกปืนยิงเฮลิคอปเตอร์ FN6 ไว้บนไหล่สะพายปืนกลไว้ด้านหลัง คอคล้องกล้องส่องทางไกล ปืนสั้นและลูกระเบิด M26 ห้อยเต็มเอวพะลุงพะลังวิ่งหลังตามมา
“ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!”
เสียงปืนดังจากอาคารซินหัวที่มั่นสุดท้ายของทหารจีน กระสุนปืนปลิวว่อนสภาพอาคารดินเผาและหุ่นปั้นถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น
“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!!” ผมยิงโต้วิ่งข้ามสะพานโค้งผ่านรูปปั้นคุณแม่อุ้มลูกน้อยยืนซื้อของกับแป๊ะหนวดยาวที่เข็นรถขนาดเท่าของจริง
เจ้าซนวิ่งตามติด
“โครม!...”
ผมหันกลับไปมองปลายกระบอกปืน AK74 ของเจ้าซนเกี่ยวเข้ากับกระบี่ของรูปปั้นนักรบหนุ่มรูปงามหัก เจ้าซนเสียจังหวะโดนน้ำหนักปืนกดหัวทิ่มถลาลงไปกองกับพื้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สหายทำกระบี่จอมยุทธ์หักจะโดนตัดหัว”
“งั้นผมประหารมันก่อนดีกว่าจะได้ไม่ต้องระแวงหัว” เจ้าซนดึงปืนสั้นออกมารัวยิงใส่จนจอมยุทธคอขาด
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ซนบ๊กซูได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เดอะแก๊งไม่ใช่พวกจิ๊กโก๋กิโลเดียวที่เก่งแต่แถวบ้าน ถ้าเขารอดจากสงครามนี้ได้ต่อไปเกาหลีก็หมดห่วง เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้จะสร้างประเทศที่สวยงามขึ้นมาใหม่พร้อมกับลูกหลานของพวกเขา
“เข้าไปหลบในบ้านนี้ก่อน” ผมชี้ไปที่บ้านดินเผาหลังใหญ่ริมคลองติดกับโรงสีจำลองปล่องไฟสูง
“เย่!”
ภายในบ้านดินศิลปินบรรจงปั้นแต่งเรียบเนียนด้วยดินเผาสีแดง ตกแต่งเหมือนโรงเตี๊ยมที่เคยเห็นในหนังจีนจอมยุทธ โต๊ะเก้าอี้พร้อมถ้วยน้ำชา
“รายงานมา! สถานการณ์ของเดอะแก๊งเป็นยังไงมั่ง?”
“ทีมโดรนเจอคลื่นตัดสัญญานร่วงหมด ที่เหลือก็แบตเตอรี่หมดวิ่งหนีระเบิดกันหัวซุกหัวซุนชาร์ตแบตเตอรี่ก็ไม่ได้ ผมสั่งให้กลับบ้านไปเกือบหมดแล้วเหลือแต่ทีมจรวดทางเรียบยังไล่ตามนกกระจอกเทศอยู่ แต่ตอนนี้นกหายไปหมดแล้วครับ!” เจ้าซนยืดอกรายงาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ผมสะใจมาก...
“ดีมากสหาย! เพื่อน ๆ เจ็บหลายคนไหม?”
“นิดหน่อยครับ! กุหลาบดินเบ่งบานปกคลุมเกาหลีแล้วครับต่อไปพวกเราจะทำงานต่อจากเซมเอง หลังจากนี้เซมไม่ต้องเหนื่อยอีกแล้วคอยเป็นที่ปรึกษาก็พอ” เจ้าซนยืดอกยิ้มฟันขาวใบหน้ามอมแมมไปด้วยดินโคลน คำพูดของเขาช้อนหัวใจให้พองฟู
“คนเก่งต้องคิดอย่างนี้สิสหาย!” ผมตบไหล่ชื่นชม เขาโตพอที่พร้อมจะรับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้นแล้ว
“ฐานบอกว่าเดอะแก๊ง 2 คนไปจมเรือบรรทุกเครื่องบิน สหายรู้มั้ยว่าใคร?” ผมสงสัยใครกันถึงดื้อได้ใจขนาดนั้น
“จองอุงอิลกับลีซุกอึนครับ”
“อุงอิลพันจังน่ะเหรอ?” ผมไม่อยากจะเชื่อหู เจ้านี่ 2 ครั้งแล้วที่ช่วยพวกเรา
จองอุงอิลเป็นเด็กเรียบร้อยนุ่มนวลและไม่ฝักไฝ่สงคราม เขาชอบงานบริหารจัดการมากกว่าการเป็นทหาร
“เย่! เกินความคาดหมายมากครับ ผมอึ้งตั้งแต่เขากับแทจุนเข้าไปช่วยสหายจูยอนแล้ว ผมเห็นเขาเป็นคนเรียบร้อยมาตลอดไม่คิดว่าจะกล้าตายขนาดนี้ นับถือจริง ๆ”
“แล้วอีกคนคือใคร ผมไม่เคยได้ยินชื่อเลย?”
“ลีซุกอึนเป็นเด็กชาร์ตแบตเตอรี่ชั้นลูกเจี๊ยบครับ อ่านหนังสือไม่ออก ตัวเล็กนิดเดียว ไม่มีเพื่อน ไม่สุงสิงกับใคร ดื้อรั้น หัวแข็ง หัวหมอ แหกกฎ พูดเก่งและกวนตีนที่สุดเลยครับ เขาหาว่าผมเป็นเผด็จการย้ายหนีไปอยู่กับจองอุงอิล” เจ้าซนพูดถึงโจทย์เก่าด้วยรอยยิ้ม แสดงถึงจิตใจที่เปิดกว้างและไม่แค้นอาฆาตในขณะที่เขามีอำนาจ
“แสบขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมน่าจะได้ผู้นำที่ยิ่งใหญ่อีกคนแน่ ๆ โดยนิสัยแล้วอุงอิลไม่กล้าทำผิดกฎ ม้าป่าที่พยศถ้าจับมาฝึกให้ดีอาจจะเป็น Bucephalus ม้าของนโปเลียนมหาราชก็ได้
“ทั้งสองคนบาดเจ็บสาหัสครับ ผมภาวนาให้เขารอดชีวิต ถ้าเซมไม่ว่าอะไรกลับไปถึงบ้านผมอยากจัดงานยกย่อง 2 คนนี้ให้เป็นฮีโร่ของเดอะแก๊งครับ เขาต้องได้รับเกียรติจากเพื่อน ๆ” เขาเป็นลูกผู้ชายตัวจริงไม่มีความอิจฉาเพื่อนแม้แต่น้อย
ในสงครามนี้ไม่มีใครไม่เสี่ยง เดอะแก๊งกระตือรือร้นแย่งกันเข้าสู่สงครามสมควรได้เป็นวีรบุรุษทุกคนและคนที่ทำให้เดอะแก๊งยิ่งใหญ่เป็นที่ยอมรับก็มาจากเจ้าเด็กคนนี้...ซนบ๊กซู
“สหายอยากทำอย่างนั้นเหรอ?” ผมยินดีสนับสนุนเต็มที่
“เย่! เพื่อเป็นของขวัญให้กับทุกคนด้วย คนที่บาดเจ็บจะได้มีรอยยิ้มครับ”
“งั้น! ผมจะจัดงานเฉลิมฉลองให้ยิ่งใหญ่สมกับที่สหายเหน็ดเหนื่อยกัน เอามั้ย?”
“เอาเมย์เดย์สเตเดี้ยมที่เดิมนะ งานนี้ขอกินมักกอลลีด้วยนะครับ” เจ้าซนขอกินเหล้าซะแล้ว
“ได้เลย! เดี๋ยวผมจะทำถั่วเน่าให้กิน อร่อยมว้าก!” เน้นเสียงอีกตะหาก อาหารประจำชาติของผมต้องถูกปากคนเกาหลีแน่ ๆ
“โคตรรักเซมเลย...เนกาเจอิลจัลนาก้า” เจ้าซนลุกดิ้นดีใจ
ผมชอบงานคอนเสิร์ตครั้งก่อนมาก คราวนี้มาดูสิใครจะบ้ากว่ากันระหว่างครูกับลูกศิษย์ ผมเล่นกับพวกเขาได้ทุกคน ความเข้าใจกันทำให้กำแพงของอายุไร้ความหมาย เด็กไม่ได้รู้สึกเกร็งหรือกลัวเมื่ออยู่ใกล้มีแต่แย่งกันเข้ามาเดินเคียงข้าง
ครั้งหนึ่งผมเดินกลับบ้านเพราะอยากเดินชมบ้านของประธานคิมอิลซุง เดอะแก๊งเป็นฝูงเดินตามมาแน่นถนนวุ่ยวายจนผมไม่ดูอย่างที่ตั้งใจ หลังจากนั้นผมไม่กล้าเดินถนนอีกเลย พึ่งจะเข้าใจหัวอกของซูเปอร์สตาร์ก็ตอนนั้น เข้าใจไมเคิลแจ็กสันมากขึ้นอีกนิด
“เซม! เป็นไอ้ด่องของผม” เขาเอียงหัวประจบ
ผมสะดุ้งเฮือก...
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! กูไม่ใช่กะเจี๊ยวนะ เขาเรียกว่า ไอดอล!”
“ไอดอลเหรอ ผมก็เรียกไอ้ด่องมาตั้งนาน” เจ้าซนยิ้มอายม้วน
“ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!ตรึ่ด!” เสียงปืนยังยิงกันไม่เลิก
“นินจาเซมยังไม่มาอีกเหรอครับ?”
“เดี๋ยวก็มา เขาไปสั่งให้ทหารถอยห่างจากรัศมีระเบิด”
“เซมครับ!..บิอันนิดะ!”เขาโค้งศีรษะขอโทษก่อนจะพูดต่อ...
“เซมมาจากที่ไหนครับ ผมไม่เคยรู้เลยว่าผู้มีพระคุณที่มาช่วยพวกเรามาจากที่ไหนกันบ้าง? รู้แค่ว่าซาจังนีมเป็นคนเกาหลีใต้ แอนนาพันจังนีมกับไป่ไป๋เซมมาจากจีน แต่เซมทั้งสามคนไม่เหมือนคนจีนเลย ผมดีใจมากที่ได้รู้จักกับเซม”
ผมจึ้งกับคำถามง่าย ๆ ของเขา นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่พวกเราอยู่ช่วยจูยอน ชาวเกาหลีเหนือจิตใจอ่อนโยนเป็นมิตรรู้จักบุญคุณของคน แต่ถูกกดด้วยกระบอกปืนและกฎหมายจนดูเหมือนพวกเขาไม่เป็นมิตร
ผมตอบคำถามด้วยความภูมิใจ...
“ผมมาจากดินแดนแห่งขุนเขา ที่ที่มีแต่คนน้ำใจงาม ฉานสเตท!...ผมเป็นคนไทใหญ่ เท่! หล่อ! เริ่ด! สุดยอด!” ของอย่างนี้มันต้องอวด
แต่...
“ผมไม่รู้จักเลยประเทศฉานสเตทอยู่ที่ไหนครับ?” คำถามนี้ทำให้ผมรู้สึกสะดุดใจนิดหน่อย...
“อีกไม่นานสหายจะได้เห็นอาณาจักรฉานและชนชาติไทใหญ่ที่เกรียงไกร”
ผมมีของขวัญกลับไปมอบให้ถิ่นกำเนิดแล้ว ต่อไปธงชาติของเราจะสะบัดบนยอดเสาสูงสุด เพลงของเราจะดังกลบทุกชาติ ฉานจะยืนหยัดยืนยงอย่างทระนงด้วยฝีมือของเด็กรุ่นใหม่
“เซมมาอยู่กับพวกเราตั้งนานไม่คิดถึงบ้านเหรอ?”
“คิดถึงสิ! คิดถึงมากด้วย” ผมคิดถึงบ้านบ่อยมาก
ถึงชีวิตผมจะมีแต่เรื่องเถื่อน ๆ แต่เมื่อยู่บ้านผมก็ตักบาตรและไปทำบุญที่วัดตามประเพณี ผมเคยตั้งใจจะให้ลูกชายเข้าพิธีส่างลองแต่ก็เกิดเหตุให้ต้องลาจากบ้านมาเสียก่อน เมื่อต้องจากสถานที่คุ้นเคยก็จะโหยหาเป็นธรรมดา
“ผมจะจดจำชื่อฉานสเตทและชนชาติไทใหญ่ไว้ในใจ เมื่อไหร่ก็ตามถ้าผมเจอกับพวกเขา ผมจะขอบคุณและช่วยเหลืออย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกับที่เซมช่วยพวกผม”
ผมนึกขอบคุณในใจ กุหลาบดินของผมผลิบานสวยงามแล้ว
“สักวัน! เราจะกลับไปสร้างอาณาจักรฉานด้วยกัน สหายไปด้วยมั้ยผมจะพาไปเที่ยวที่สะพานรถไฟก๊กเท็ก?”
“ผมขอเป็นกองหน้าครับ” เจ้าซนพูดไม่มีสะดุดเลย
“พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!” เสียงเฮลิคอปเตอร์บินมา
ซนบ๊กซูคลานศอกไปแอบข้างหน้าต่าง...
“ฮ.ทหารจีนมาครับเซม”
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!” ลูกกระสุนจากเฮลิคอปเตอร์เข้าทำลายรูปปั้นคนเกี่ยวข้าวบนลานพังพินาศ
“เซม! ทหารจีนมาเต็มเลย” เจ้าซนลนลานชี้ไปที่กลุ่มทหารจีน พวกเขากำลังย่องเงียบรุกเข้ามา
ผมส่งสัญญาณมือให้หมอบ แอบชะโงกหน้าออกไปมองทหารจีนยิงสวนกลับมาทันที...
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!”
“เพล้ง!” กระจกตู้โชว์ภาชนะเครื่องใช้ใบราณแตกกระจาย
ผมกลิ้งไปแอบหน้าประตูรอจังหวะต่อสู้ประชิดตัว...
“ซนไปแอบข้างเสา”
ทหารจีน 5 นายวิ่งข้ามมาจากอาคารต้อนรับนักท่องเที่ยวแยกกระจายมาฝั่งละสองคน เดินย่องตรงเข้ามาที่ประตู 1 คนพร้อมปืนกลยาว
ผมส่งสัญญาณหมอบให้เจ้าซนและรออย่างใจจดจ่อ
พอปลายปืนยาวของทหารจีนยื่นพ้นขอบประตู ผมคว้ากระชากเข้ามา
“เฮ้ย!” เขาเสียจังหวะเซตามมาเป็นโล่กำบัง...
“ปัง!ปัง!” ทหารด้านขวา 2 นายถลำพรวดตามเข้ามายิงเข้ากลางหลังตัวประกัน
“ปัง!ปัง!” ผมยิงปืนใส่คนแรกหงายท้องแล้วผลักศพตัวประกันโถมตัวไปหาทหารอีกคน...
“ปังปัง” ยิงสวนแล้วพลิกตัวกลิ้งกลับไปหน้าประตูสบตากับทหารจีนที่ยึกยักลังเลไม่กล้าเข้า...
“ปังปัง!” ผมช่วยตัดสินใจแล้วคว้าเก้าอี้โยนออกไป
ผมหงายหลังทิ้งตัวลงพื้นยิงทหารอีกคนที่เงอะงะลังเลแอบด้านซ้าย...
“ปังปังปัง”
“ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด! ตรึ่ด!!” กลุ่มทหารจีนเติมเข้ามา
“ปัง!ปัง! แชะ!แชะ!” ผมขว้างปืนทิ้งกลิ้งตัวหลบ
“เซม!...ฮึบ!” เจ้าซนผลักปืน AK74 มาให้ เขาคงมองผมอยู่ตลอดเวลา
“ซน! นอนหมอบกับพื้น อย่าเงยหัวขึ้นมานะ” ผมต้องออกจากกระท่อมดินนี้ให้เร็วที่สุด
“บึ้ม!” ระเบิดมือดังฝาผนังดินเผาร้าว
“วี๊ด!!!...” เสียงปีกจรวดเสียดหู
“เซม!...จรวด...” เจ้าซนลุกขึ้นวิ่งพุ่งตัวมากอด หลังคาดินเผาแตกร้าวตกลงมาอาคารโยกเยกกำลังจะพัง
ผมหันมองหน้าต่างด้านหลังติดลำคลอง ตัดสินใจลุกคว้าแขนพาซนบ๊กซูวิ่งแล้วผลักอย่างแรง...
“กระโดดหน้าต่าง!”
“ฟิ้ว!..” เจ้าซนพุ่งหลาวไปทั้งที่ปืน FN6 ยังสะพายหลัง
ผมกระโดดตามลงไป...
“ตูม!” น้ำคลองเย็นเฉียบตัวชา
“บรึ้ม!...โครม! โครม!...” ปล่องไฟโรงสีดินเผาโอนเอน
“ฮ่า!” เจ้าซนพรวดขึ้นจากน้ำในจังหวะที่ปล่องไฟล้มฟาดลงมา
ผมรีบตะโกน...
“ซน! ดำน้ำ!”
“ตูม!”
“โอ๊ย!” มันถึงผมก่อน เสาพาดทับโดนแผ่นหลังแล้วดึงตัวลงต่ำ
ผมพยายามดิ้นสุดกำลังแต่เหมือนจะมีบางอย่างเกี่ยวเสื้อไว้ ตั้งสติเอื้อมมือไปชักมีดสั้นมาตัดสายบางอย่างออกแล้วดำน้ำต่อข้ามไปอีกฝั่ง
“ฮ่า!...” ผมโผล่ริมตลิ่งอีกฝั่ง รู้สึกปวดหลังจี๊ด
“เซม! เซม!..ล้ม!..” เจ้าซนร้อนรนชี้มาด้านหลังของผม
พอแหงนหน้าขึ้นมองก็ได้แต่อุทานเสียงหลง...
“เฮ้ย!” แผ่นผนังบ้านดินเผาพังทับลงมาเต็มตัว
ผมจมน้ำลงไปอีกครั้ง เจ็บระบมไปทั้งร่าง พยายามดันผนังขึ้นมาหายใจแต่หลังปวดจนแขนไม่มีแรงช่วยตัวเองไม่ได้ ใบหน้าของผมทะลึ่งขึ้นปริ่มน้ำแล้วจมลงไปอีกครั้ง
“เซม! เซม!อดทนหน่อยนะ” ซนเสียงสั่นเครือคุ้ยเศษซากปรักหักพังออก ผมรับรู้ถึงความร้อนใจของเขาแต่ผมตัวขยับไม่ได้
“เซม!เซม! อีกนิดเดียว” เขาละมือมายกหัวให้ผมหายใจแล้วคุ้ยต่อ
“เซม!...”
ผมพยายามยืดคอขึ้นหายใจ แต่ช่วงล่างยังโดนดึงจมน้ำลงไปจนความอดทนมาถึงเฮือกสุดท้าย
เขายกหัวขึ้นพ้นน้ำอีกครั้ง...
“ฮ่า!”
“เซม! ยกหัวหายใจก่อน ผมจะช่วยออกมาเอง เซม! ต้องไม่เป็นอะไร” เจ้าซนยกก้อนอิฐออกให้พ้นทาง ช้อนหัวของผมให้พ้นน้ำ
“พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!” เฮลิคอปเตอร์เห็นเราแล้วบินวนกลับมา ผมรู้ชะตากรรมรีบไล่เจ้าซนออกไป...
“ซน!..หนี...ไป รีบ...หนีไป”
“ไม่! ผมไม่หนี” เขาไม่สนใจคอยประคองหัวของผมไม่ให้จมน้ำ
ถ้าอยู่นานเขาจะหนีไม่พ้น...
“ซน...หนี...ไป!”
“ผมไปไม่ได้ เซมจะจมน้ำ” เจ้าซนกัดฟันน้ำตาไหลพราก
“ไป!..” น้ำหนักของแผ่นผนังด้านล่างฉุดผมลงไปทีละนิด
“ให้ผมช่วยเซมก่อน ผมไม่กลัวพวกมันหรอก” เขาสะอื้นน้ำมูกน้ำตานองไม่ยอมปล่อยมือ
“พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!” เฮลิคอปเตอร์ยิ่งมาใกล้เจ้าซนยิ่งไม่รอด
“ซน…นี่คือ..คำสั่ง หนีไป...เดี๋ยวนี้”
“ไม่ไป! ฮือฮือ!!” เขาใจเด็ดมากนั่งประคองหัวไว้
ถึงอยู่ก็ช่วยไม่ได้จะมาตายอย่างไร้ค่าไม่ได้...
“จากนี้ไป...เรา...ขาดกัน”
“ฮือฮือ! เซม! ไม่เอาไม่พูดอย่างนี้สิ” พอเขาปล่อยมือใบหน้าของผมจมลงในน้ำ
หวนคิดถึงใบหน้าของเมียและลูกแล้วเศร้าใจ จากนี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
...........................................................................หน้าที่เข้าชม | 12,906 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 11,022 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 23 ต.ค. 2568 |