The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 1 ตอนที่ 2

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 1 ตอนที่ 2
หมวดหมู่ The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 1
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 16 ม.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


พยองยาง  เกาหลีเหนือ

สิงหาคม ค.ศ.2020

โรงแรมกยูรยองสูงเสียดฟ้า ซ่อนปลายยอดไว้ในม่านเมฆ  ตั้งเด่นตระหง่านกลางกรุงพยองยางเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ  รอบโรงแรมคลาคล่ำไปด้วยหน่วยอารักขาของชาติต่างๆเต็มอัตราศึก  รถยนต์ส่วนตัวและรถยนต์โดยสารถูกกันไม่ให้เข้าใกล้สถานที่จัดงานในวันนี้                   ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ชั้น 99  เสียงอื้ออึงจากผู้นำประเทศและตัวแทนที่ได้รับเชิญมาจาก 150 ประเทศ  เข้าร่วมประชุมสัมมนารายงานความคืบหน้าของงานวิจัยวัคซีน Tame26 ของ Isaiah Biotech  ทยอยกันเข้านั่งประจำที่ตามขั้นลดหลั่นลงมา  แสงไฟจากเพดานภายในห้องค่อยๆหรี่ลงจนมืดสนิทเป็นสัญญาณว่าพิธีการกำลังเริ่มขึ้น...
            ดวงไฟฟอลโล่ไลท์กลมพุ่งจับไปที่โพเดียมด้านขวาของเวทีใหญ่ พิธีกรสาวผมสีทองยาวสลวยโดดเด่นด้วยแว่นสายตาทรงกลมบนใบหน้ารูปไข่ที่ถูกแต่งแต้มสวยงาม  ท่าทางทะมัดทะแมงในชุดสูทสีดำกล่าวเชิญวิทยากรขึ้นบนเวที              
            “ทุกท่านคะ!....โมเสส จาก Isaiah Biotech สิ้นเสียงพิธีกรสาว  เสียงดนตรีระทึกใจดังกระหึ่ม ดวงไฟฟอลโลไลท์กลมสว่างจ้าพุ่งจับไปที่ชายชาวยุโรป เส้นผมสีทองรูปร่างอ้วนใหญ่ในสูทสีดำ กำลังเดินอุ้ยอ้ายขาเบียดจากด้านขวากำลังเดินมากลางเวที                       
           “ยินดีต้อนรับท่านผู้นำทุกท่าน เราเจอกันอีกครั้งแล้วนะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับท่านผู้นำที่รัก ท่ามกลางสภาวะวิกฤติโควิด-19 คงทำให้ท่านพอได้แสดงบทเป็นพระเอกได้บ้างนะครับเสียงปรบมือต้อนรับดังขึ้นหลังสิ้นเสียงโมเสส ก้มหัวลงแล้วภายมือออก                    
            “ทาง Isaiah Biotech ได้พัฒนาวัคซีนต่อต้านเชื้อไวรัสโควิดสำเร็จแล้ว และวันนี้มีข่าวดีมาแจ้งให้ทราบกับทุกประเทศที่เข้ามารร่วมการสัมมนาในวันนี้ โมเสสตัวอ้วนสูงใหญ่เดินวนไปมาบนเวทีอย่างสุขุม        
             "วัคซีนตัวใหม่ของ
Isaiah Biotech ของเราค้นพบว่ามีวิธีการป้องกันได้ 100เปอร์เซ็นต์และจะไม่กลับไปติดเชื้ออีกครั้ง ของบริษัทอื่นแค่ป้องกันยังไม่ถึง100เปอร์เซ็นต์เลย ฉีดไปก็กลับมาติดเชื้ออีกเสียเงินซื้อซ้ำโมเสสเริ่มโจมตี เสียงผู้เข้าร่วมประชุมอื้ออึงขึ้นมา                 
            “โดยทั่วไปการผลิตวัคซีนจะใช้เทคนิคไม่เหมือนกัน บางชนิดใช้ไวรัสมาแปลงพันธุกรรมเป็นพาหะ บางชนิดใช้เชื้อตาย บางชนิดใช้รหัสพันธุกรรมแต่ Tame26 ของเราไม่ได้ใช้วิธีเหมือนกับเจ้าอื่น  
              ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะมีผู้ที่เกิดมาผิดปรกติเสมอ นักวิจัยของเราค้นพบว่าไวรัสที่เกิดมาพิการมักจะดุร้ายกว่าตัวอื่น พวกนี้แบ่งเซลล์ขยายพันธ์ไม่ได้ กินจุและตัวใหญ่ ทีมนักวิจัยจึงคัดเอาเฉพาะตัวที่ผิดปรกติมาเลี้ยงไว้ เสียงข้างล่างฮือฮาดังเริ่มหันหน้าคุยกัน      
              โมเสสเดินมาหยุดกลางเวที ส่งสายตาลงไปด้านล่างแล้วยกมือปรามให้เงียบ            
             “วัคซีนของเรา ฉีดแค่ครั้งเดียวปล่อยเชื้อเข้าไปไว้ในร่างกายตลอดไปจนสิ้นอายุขัย เชื้อTame26 จะไปดักจับเชื้อไวรัสสายพันธ์เดียวกันกินจนหมด แล้วยังแฝงในร่างกายคอยดักจับไวรัสใหม่เข้ามาได้ด้วย จากนี้ไปแม้แต่ไข้หวัดก็สูญพันธ์
             เสียงข้างล่างกลับมาดังขรมขึ้นเหมือนเดิม...
            “จริงเหรอ คุณเคยได้ยินมั้ย?”
             “ผมว่าน่าสนใจนะ” เสียงผู้ไม่รู้ดังมั่วไปหมด               
            “Isaiah Biotech ภูมิใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในครั้งนี้ ผมยินดีที่จะบอกกับทุกท่านในที่นี้ว่า นี่คือวาระสุดท้ายของเชื้อโควิด วัคซีนจะผลิตให้กับท่านที่ลงทะเบียนแสดงความจำนงไว้ ผมจะรีบจัดส่งให้ทันทีที่ผลิตเสร็จ โมเสสยิ้มแก้มแดง   ร่างกายอ้วนใหญ่เดินส่ายมามุมขวาของเวที เสียงผู้เข้าร่วมประชุมท้วงขึ้นจากด้านล่าง...                   
           “ปัญหาการฉีดวัคซีนยังแก้ไม่ตกเลยครับ จะบังคับยังไงให้ฉีดครบทุกคน ใครมีวิธีดีๆบ้างไหมครับ? ผู้นำคาซัคสถานพูดผ่านไมโครโฟนเสียงดังฟังชัด             
            “จับปรับสิ ผมเห็นประเทศเพื่อนบ้านของผมออกกฎหมายจับปรับเงิน แค่ไม่สวมแมสยังลงโทษได้ ถ้าไม่ฉีดวัคซีนนี่จับข้อหากบฏก็ได้ เพราะทำลายความมั่นคงของชาติ รู้สึกว่าวันนี้ท่านก็มาร่วมประชุมกับพวกเรานะครับเดี๋ยวลองถามท่านดู ตัวแทนจากประเทศลาวเสริมเข้าวงสนทนา ผู้แทนจากอินเดียยกมือ...        
           “ตีสิครับ!  เอาไม้ตะพดตีหลังเลย อีนี้!บ้านฉานทำกันอย่างนี้ ผู้แทนอินเดียโยกคอตอบตามสไตล์               
           “ออกโฆษณาชวนเชื่อไปไม่ดีกว่าเหรอครับ? ถ้าไม่ฉีด..เชื้อโควิดมันจะเข้าตัว เพราะคนจำนวนมากมีภูมิคุ้มกันหมดแล้ว ให้สื่อทีวีขู่ทุกวันเดี๋ยวก็ยอม ตัวแทนสิงค์โปรออกความเห็นฉีกไปอีกแนว ไม่พยายามบังคับ                     
            “จ้างฉีดไปเลย!” เสียงดังฟังชัดจากผู้ร่วมประชุมรายหนึ่งพูดโพล่งออกมา   
            “...........” ทั้งห้องเงียบกริบแล้วมองไปหาต้นเสียง ไฟเพดานค่อยๆสว่างขึ้นทำให้เห็นหน้าเห็นตาของผู้เข้าร่วมประชุม            
             นั่นไง!...ชายร่างสูงท้วมในสูทดำยืนขึ้นแล้ว ท่านแสดงอาการหลุกหลิกเหมือนลิงโดนกะปิอยู่ด้านหลังห้องประชุม ใบหน้ากลมผมเป๋หัวเถิกคิ้วเข้มสวมแว่นสายตาดูท่าจะมีอายุ ยิ้มหน้าแป้นหมุนตัวโบกมือไปทั่วห้องประชุมพร้อมเอ่ยเสียงดัง                   
             “แจกเงินจ้างให้อยู่บ้านเฉยๆ ยังทำมาแล้วเขาพูดต่อท่าทางมั่นใจ ผู้เข้าร่วมประชุมปรบมือเสียงกึกก้อง ผู้นำท่านนั้นยืนโค้งรอบตัวเป็นนักมวยก่อนชกเลย            
             “ถ้าแจกเงินแล้ว ชาวบ้านยังไม่ยอมฉีดอีกล่ะ จะทำยังไง?” ผู้แทนจากกานาถามไปที่ผู้นำคนเมื่อสักครู่                      
            “ปั๊ดโธ่!...โยนความผิดไปก่อน ยัดข้อหาพวกมันเข้าไปสิ  แล้วออกกฎหมายจับเลย เอาไว้ทำไมล่ะจ๊ะ?” ผู้แทนท่านนั้นยิ้มแป้นยักคิ้วเข้มด้วยความภูมิใจในคำตอบอันแสนฉลาดล้ำลึกของตนเอง
            “เขามาจากไหนนะ?” เริ่มมีคนสนใจ
             “นั่นไง!…ป้ายชื่อประเทศ KLD มาจาก Kala Democracy นี่เอง"  ผู้แทนจากเมียนมา ยกมือถามไปยังท่านผู้แสนฉลาดนั้น
             “ปรึกษานิดครับท่าน
            “มีอะไรรึ หือ?” เขาหน้าตึงยืนขึ้นถามเสียงห้วนดัง  
            “เอ่อ!..บ้านผมไม่รวยอย่างท่าน จะเอาเงินที่ไหนมาแจกประชาชน?” สิ้นเสียงผู้แทนเมียนมาห้องประชุมก็ฮือฮาขึ้นมาอีก
            “เออ! ใช่! จะเอาเงินมาจากไหน?” ที่ประชุมส่งเสียงปรึกษากันเซ็งแซ่
               “เงียบ! เสียงมีอำนาจตวาดลั่น เหลียวมองไปทางผู้นำเมียนมา                 
             “ประเทศผม ก็ไม่ได้ร่ำรวย พวกท่านอย่าเข้าใจผิด เพื่อพี่น้อง...กู้เอาสิครับ กู้มาแจกไง! คิดสิคิด!” เขาเสียงดังแล้วเอานิ้วจิ้มหัวตัวเองตามจังหวะ                         
              สีหน้าของเขาเริ่มไม่ค่อยพอใจ สายตาเริ่มขวางแล้ว คงขัดอารมณ์ที่โดนถามถึงวิธีการ ท่าทางท่านขี้หงุดหงิด ถามมากก็ไม่ได้
             “กู้มากขนาดนั้นจะใช้คืนเขาได้อย่างไร? ผมคิดไม่ออกจริงๆ  กรุณาสอนหน่อยนะครับ ผู้แทนเมียนมานอบน้อมเสียงอ่อย ท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัวถามไม่กล้าสบตา
            ตัวแทนจาก KLD เม้มปาก             
            “อ้าว!..จะไปสนทำไมว่าใครจะใช้หนี้ คุณจะอยู่ถึงวันใช้หนี้เหรอ?”                 
            “ผมต้องอยู่แก้ไขปัญหาอีกนาน สิ่งที่ผมตัดสินใจทำในวันนี้ มันจะผูกพันไปจนกว่าผมจะหมดอำนาจ ผมต้องพัฒนาประเทศให้ได้ เพื่อให้ประชาชนยอมรับเพราะผมยึดอำนาจเขามา ผู้แทนเมียนมาตอบเสียงอ่อยเมื่อต้องพูดถึงคำว่ายึดอำนาจ 
            “อ้าว! เผด็จการมีเงินไม่ใช่เหรอ? ไม่งั้นจะยึดอำนาจทำไม?”
            “มันมีเงินคนเดียว คนอื่นจนหมด ใครจะเอาเงินตัวเองมาแจก ไม่มีหรอก” เสียงฮือฮาจ๊อกแจ๊กจอแจหนาหูดังขึ้นในห้องประชุม
             ท่านผู้นำจาก KLD หันไปจ้องหน้า...               
            “ผมก็ยึดอำนาจมา!” เขายืดอกอย่างมั่นใจ....              
             “อ้าว!  ทั้งห้องร้องพร้อมกัน               
            “ออกกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเองไว้สิ ปั้ดโธ่!..แค่นี้ก็คิดไม่ได้ เป็นนายกฯได้ยังไงวะ? ต้องให้สอน คิดสิคิด! เขาเริ่มเกี้ยวกราดชี้หน้ามั่ว
            “ใจเย็น ๆ ครับท่าน” เลขาฯ คนสนิทรีบเขาประกบ ก่อนท่านจะทำอะไรที่ฉลาดมากกว่านี้
            “ขอประทานโทษด้วยครับ!” ลูกน้องอีกหลายคนเริ่มเดินไปโค้งศีรษะขอโทษให้ผู้เข้าร่วมประชุมรายอื่น                      
           “ผู้นำของผมถามมากไม่ได้ครับ?”  ห้องประชุมเริ่มแบ่งฝ่ายเถียงกันเสียงอื้ออึง ผู้แทนจากประเทศไทยยกมือถาม...             
             “ทำไมครับ? ทำไมถึงถามมากไม่ได้? พวกเราต้องการคำอธิบายเขายิงคำถามตรงไปที่ท่านผู้นำจาก KLD                       
              “อ๋อ!..ถ้าอยากพูด ท่านจะพูดเองครับ ห้ามถาม!” ลูกน้องก้มหน้าตอบไม่เต็มปาก
บนเวที...         
             “ทุกท่าน!..ฟังผมอีกครั้งนะครับ โมเสสส่งสัญญาณจะพูดต่อ  เสียงในห้องประชุมขนาดกลางค่อย ๆ เงียบลงจนสนิท          
             “ท่านต้องกลับไปจัดการตามวิธีของท่าน ผมจะคอยจัดเตรียมวัคซีนไว้ให้พอเพียง เดี๋ยวหลังจากเลิกประชุม ท่านใดต้องการวัคซีนไปลงชื่อรับได้เลย ท่านเข้าใจที่ผมพูดมั้ยครับ? ใครสงสัยตรงไหนมั้ยครับ?”โมเสสกล่าวกับผู้เช้าร่วมประชุม           
            “ขอทราบราคาด้วย?” ผู้แทนจากฟิลิปปินส์เอ่ยถาม
            “Isaiah Biotech ขอมอบให้ท่านฟรี ท่านเสียค่าขนส่งกันเอาเอง มารับได้ที่ The 3 temple อู่ฮั่น หวังว่าคงช่วยท่านได้ไม่มากก็น้อย แบ่งเบาภาระการเงินของท่านลงไปมาก ไม่ต้องไปกู้นะครับ โมเสสหยุดเดินแล้วสูดหายใจยาว มองไปหลังห้องประชุม                      
             “ถ้าไม่มีใครถามอะไรแล้ว ผมจะขอปิดประชุมนะครับ เขาโค้งหัวให้เสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมประชุม
ทันใดนั้น....                
                “โพล๊ะ!หลอดไฟบนฝ้าเพดาน ระเบิดเสียงดังเศษกระจกแตกจากหลอดไฟเพดานร่วงกราวลงพื้น จากหลังห้องประชุมมาหน้าเวที
              “พรึบ! ไฟค่อย ๆ ดับมืด
             บอดี้การ์ดวิ่งเข้าปกป้องนายของตัวเองกันโกลาหล               
              “โครม! เพล้ง!”
              เสียงสนั่นห้องประชุม โคมไฟห้อยระย้า Chandelierประดับตกแต่งด้วยเม็ดคริสตัลวาววับหรูหราอลังการร่วงลงมาที่หน้าเวที เม็ดคริสตัลกระจายเต็มพื้น
            “เหวอ!” ผู้เข้าร่วมประชุมที่กำลังลนลานหนีเหยียบโดนเม็ดละเอียดลื่นหงายท้องหงายไส้ ล้มลุกคุกคลาน หนีตายกันไปอย่างทุลักทุเล

                                                                    .......................................................................

พยองยาง เกาหลีเหนือ
มุมมองสายตา ชเว จู ยอน
สิงหาคม ค.ศ.2020
              การประชุมสัมมนาจบลงด้วยความทุลักทุเล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์หรืออุบัติเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจรกันแน่  สมองมึนจิตใจปั่นป่วนสับสน ความกลัวเข้าครอบงำความคิด
             ฉันนั่งดื่มเบียร์ย้อมใจที่ล็อบบี้ชั้นล่างของโรงแรม ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาในวันนี้ ฉันตรวจสอบทุกอย่างแล้ว ไม่พบร่องรอยหลักฐานใดๆเลย ถ้าเป็นการสร้างสถานการณ์ คนลงมือต้องรู้จักสถานที่เป็นอย่างดี
                
             แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุ ก็ถือว่าเป็นความซวยของพวกเรา ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยนี้จะมีเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนืออย่างน้อย 3 คนจะถูกลงโทษสถานหนักและหนึ่งในนั้นคือฉัน
            “สหายผู้กอง!ครับ ขอนั่งด้วยนะครับ!
            ซอนแจและซังอา เพื่อนร่วมทีมผู้ชายสองคนเดินมาคุยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ความเครียดปรากฏชัดบนใบหน้าของทั้งสองคน ดูเหมือนทั้งสองจะดื่มมาบ้างแล้ว                   
            “เช็คกล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้วใช่มั้ยครับ? ไม่เห็นใครเลยเหรอครับ?” คังซังอาถามด้วยอาการร้อนลนสีหน้าอมทุกข์
ฉันส่ายหน้า
              “ฉันเช็คดูหมดทุกกล้องแล้ว แต่มันไม่มีอะไรน่าสงสัย มันคงเป็นอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ในหัวตอนนี้คิดวนเวียนสับสนหาทางออก กฎหมายของที่นี่ ความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับท่านผู้นำ มีบทลงโทษสถานเดียว             
             “แล้วเราจะทำยังไงกันต่อล่ะ? พรุ่งนี้โดนเรียกเข้ากรมแล้ว?ซอน แจ แสดงความกังวล                    
            “โทษคืออะไร พวกสหายรู้แล้วใช่มั้ย?” ฉันถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
              "โดนยิงเป้า! โทษฐานทำให้ผู้นำสูงสุดได้รับความอับอาย ลีซอนแจเอ่ยเสียงอ่อยใบหน้าขาวซีดแววตากังวลใจ ร่างสูงโย่งในชุดสูทสีดำดูร้อนรนกระสับกระส่าย บ่งบอกถึงความกลัว อายุของเราอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน เขาถูกส่งมาอยู่ในทีมเมื่อ 2 ปีก่อน
             คังซังอาใบหน้าโทรม ดวงตาปรือเงยหน้าขึ้นพูด...                  
             “ปีที่แล้ว! มีทหารในค่ายกองพันที่16 ยองนัม แค่เปิดเพลงผิด ก็โดนยิงเป้า ผมเป็นห่วงสหายผู้กอง ทำไมโชคร้ายกว่าเพื่อน?” คังซังอาหนุ่มน้อยมองด้วยสายตาเศร้า
             เขาเป็นเด็กที่สุดในกลุ่มเป็นน้องเล็กของทีม ตัดผมสั้นหน้ากลมแววตาใสซื่ออายุเพิ่ง 19 ปีเอง มาจากบ้านนอกแถบเทือกเขาแบคดูเป็นลูกกำพร้า ติดตามฉันมาตั้งแต่อยู่กับทีมลาซาลัส เราสนิทกันมากที่สุดและฉันก็รักเขาเหมือนน้องชายแท้ ๆ              
             “วันนี้เราสามคนมาดื่มให้มันสุด ๆ กันไปเลยดีกว่า พรุ่งนี้เราจะได้รับเกียรติสูงสุดของชีวิตกันแล้ว ฉันพูดประชดแล้วสั่งเครื่องดื่มมาเพิ่ม หันไปชนแก้วกับทหารสองคนด้วยสีหน้าเศร้าหมองกันถ้วนหน้า เป็นการกินเบียร์ที่มีแต่ความขมขื่น ไม่มีใครยินดีกับความตายกันหรอก  
             “ความอายเท่ากับความตาย สหายผู้กองครับ! คิดว่ามันยุติธรรมแล้วหรือครับ? พวกเราก็ตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อท่านผู้นำแล้ว เหตุไม่คาดฝันมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลานี่ครับ ซังอา หนุ่มน้อยของฉันถามด้วยใบหน้าเศร้า ในดวงตาเศร้าน้ำตาคลอ
             ซอนแจ หุนหันคว้าคอเสื้อกระชากเข้ามาประจันหน้ากัน                 
            “พูดอย่างนี้! สหายอยากตายทั้งตระกูลเหรอ ซังอา เราทำให้ท่านผู้นำสูงสุดอับอายนะ ” แต่แล้วเขาก็ปล่อยมือเหมือนคิดอะไรได้  มันเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบอัตโนมัติของคนเกาหลีเหนือ ทุกคนที่นี่จะโกรธอย่างไร้เหตุผล ถ้าใครดูถูกท่านผู้นำสูงสุด                
            “ความตายคือความยุติธรรมอย่างนั้นแหรอ?  ตายวันนี้กับพรุ่งนี้ต่างกันตรงไหน? ยังไงก็ต้องตาย แต่ผมว่ามันไม่ถูกต้อง มันอึดอัดใจ!” ซัง อา ร้องไห้โฮออกมาอย่างน่าสงสาร เขาสะอื้นจนตัวโยน ฉันเอื้อมมือไปตบไหล่ปลอบใจและเข้าใจในหัวอกผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน                                 ตายเพื่อท่านผู้นำ!” ซอนแจ ยกแก้วเบียร์ชูขึ้นเหนือหัว แล้วกระดกแก้วเข้าปาก                
           “ถ้าออกไปรบกับศัตรูแล้วตาย ผมจะไม่เสียดายชีวิตเลย ตายแบบนี้ไร้ค่า” ซังอา ยังสะอื้นน้ำตานอง           
             ภายในใจของฉันมีแต่ความกังวลใจและกลัวตายไม่ต่างเพื่อนทั้งสอง แต่ฉันจะไม่ยอมจำนนให้ชีวิตต้องมาจบแบบไร้ค่าเช่นนี้ ชีวิตในวัยเด็กของฉันเคยมีโอกาสไปเรียนเมืองนอก ได้รู้จักโลกเสรีและรู้ว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่ไพศาลขนาดไหน ข้างนอกยังมีที่ยืนอีกมากมาย        
             ช่วงที่ทำงานกับทีมลาซาลัส (ทีมแฮกเกอร์เบอร์ 1 ของโลก) ฉันรับรู้โลกภายนอกผ่านการเจาะระบบป้องกันของเกาหลีเหนือ เพื่อติดตามข่าวสารต่าง ๆ มีโอกาสได้เห็นการปกครองของชาติต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตและฉันไม่เคยงมงายกับโฆษณาชวนเชื่อว่าโลกภายนอกเกาหลีเหนือมีแต่เชื้อโรคร้ายและสงคราม  
            “ฉันว่าสหายซังอาพูดถูก ตายวันนี้กับวันพรุ่งนี้ไม่ต่างกัน ถ้าอีกอาทิตย์หนึ่งตายจะต่างกันไหม? แล้วถ้าอีก2ปีตายล่ะจะดีกว่าหรือเปล่า? เราอาจจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะตายได้ อย่างน้อยการตายก็เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของเรา ให้เราได้ตัดสินใจตายเองเถอะ” ฉันหันไปหาลีซอนแจที่นั่งคอตกอยู่ข้างๆ เขาคงต่อสู้กับความจงรักภักดีในใจตัวเอง คังซังอาเงยหน้า...                   
             “ใช่ครับ! สหายผู้กองพูดถูก ผมเห็นด้วย! ผมยังไม่อยากตาย ผมพึ่งโตพึ่งได้งาน ยังไม่มีครอบครัวเลย คนรักของผมหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ ซังอาสะอื้นหงึก ๆ ก้มหน้าซบโต๊ะสะท้อนใจ
             ฉันเองก็อยู่ในวัยที่ต้องแต่งงานเหมือนกัน ยังไม่เคยมีแฟน ยังไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีคนรัก รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา เสียดายอาหารที่กินเข้าไป ยังไม่ได้สร้างคุณค่าให้โลกใบนี้เลย ฉันไม่ยอมรับโทษบ้า ๆ นี่ด้วยชีวิตของฉันแน่            
             “ฉันจะหนี!” ฉันก้มหน้าลงลดเสียงพูด
ฉันไม่มีใครให้ต้องคิดถึงและเป็นห่วงที่น่าเป็นห่วงที่สุดน่าจะเป็นตัวเองมากกว่า ถ้าต้องตายอย่างไร้ค่าก็ขอหนีออกไปตายที่อื่นดีกว่า          
            “ทำได้เหรอครับ? หนีได้จริงเหรอ?” ซอนแจหันขวับแล้วขยับมาใกล้               
             “ก็อย่างที่สหายซังอาบอก ตายวันนี้กับพรุ่งนี้ไม่ต่างกัน หนีไปตายดาบหน้าดีกว่า ฉันขอเลือกตายวิธีนี้ ฉันบอกเสียงเบาให้ได้ยินแค่ในกลุ่ม หันมองไปรอบ ๆ ไม่มีแขกนั่งในบาร์แล้ว มีเพียงพนักงานสาวสองคนยืนตัวตรง คอยรับแขกอยู่หน้าประตู 
             คังซังอาคว้ามือไปกุม                      
             “สหายผู้กองอย่าทิ้งผมนะ ผมติดตามสหายมาเพราะเชื่อว่าสหายเป็นคนดี ครั้งนี้สหายก็ไม่ผิดเขาสะอึกสะอื้น 
             ฉันมองลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ด้วยความสงสาร...โถ!! หนุ่มน้อย ถึงฉันจะเคยเห็นสหายซังอา สวมเครื่องแบบทหารอันทรงเกียรติแต่จริง ๆ แล้ว เขายังเป็นเด็กใสใจซื่ออยู่เลย
             ฉันค่อย ๆ แกะมือออก ขยับให้เขานั่งดีๆ                 
             “ตกลงหนีไปกับฉันนะ!” ฉันจ้องไปที่ดวงตาใสซื่อเขายิ้มพยักหน้ารัว แล้วหันไปหาซอน แจ ..            
             “สหายว่าไง?” ฉันค่อยไม่เชื่อใจกับซอนแจสักเท่าไหร่
              เย่!” เขายืดอกพูดดังฟังชัด ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้เพื่อนร่วมทางหลบหนี        
             ฉันตัดสินใจเด็ดขาด ถ้าต้องการมีลมหายใจก็จำใจต้องหนีจากบ้านเกิด  บ้านที่คิดว่าปลอดภัยกลับกลายเป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับพวกเรา ฉันหันไปหาซอนแจ...              
             “ขึ้นไปเก็บของแล้วไปเอารถมารับฉันที่หน้าโรงแรม อีก 10 นาทีเจอกันฉันออกคำสั่งแล้วดึงตัวสหายซังอาลุกขึ้นยืนโยกเยกด้วยฤทธิ์เมา              หนีไปทางไหนครับ?” สหาย ซังอา ถามเสียงอ้อแอ้ทำให้ซอนแจหยุดยืนรอฟังคำตอบ
ฉันสูดลมหายใจสุดปอด ก่อนปล่อยพรวดออกมา...
 จีน   
  เมื่อรางวัลของการทุ่มเททำงานมีแค่เงินเดือนน้อยนิด แต่โทษฐานของความผิดคือความตาย มันไม่ยุติธรรมกับชีวิตของใครทั้งสิ้น
การที่ต้องมาตายไปเพียงเพราะแค่ความอับอายของใครบางคนแล้ว รู้สึกสมเพชชีวิตของตัวเองมาก ไม่มีคุณค่าของความเป็นมนุษย์เลย  ไม่มีราคาในสายตาของผู้ปกครอง กฎหมายขี้ขลาดพวกนี้ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อคุ้มครองตัวเอง ปิดปากผู้อื่น ห้ามคิด ห้ามพูด ห้ามวิจารณ์ ห้ามสงสัย อยู่ก็โดนกดขี่ หนีก็ตาย ฯลฯ  
ฉันไม่ต้องการให้การโดนยิงเป้า เป็นภาพของการข่มขู่คุกคามให้กับคนรุ่นหลังต้องหวาดกลัวอำนาจมืดจากระบอบที่ครอบงำ ฉันขอใช้สิทธิ์ในการมีชีวิตด้วยการหนี.   
                                                            ...................................................  

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม