หมวดหมู่ | The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 1 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 24 ม.ค. 2567 |
ยี่ชาง มณฑลหูเป่ย
มุมมองสายตา ไป่ไป๋
กันยายน 2020
ฉันเดินกอดเอวบางของนาตาลีเดินอย่างสบายใจ ตามขบวนนักแข่งจักรยานกลุ่มใหญ่ กำลังไปที่โต๊ะอาหาร เสียงเพลงสากลจากลำโพงด้านในดังกระหึ่มทำให้บรรยากาศคึกคักครื้นเครง โคมแดงติดเรียงรายตามชายคาของร้านอาหารเป็นระเบียบสวยงาม
ทันใดนั้น...
“บรื้น…นน!!” รถยนต์สีแดงคาดลายมังกรสีเหลืองกับตัวอักษรจีน มังกรอู่ฮั่น คันที่คุ้นตาขับปาดหน้าทีมจักรยานเข้ามาจอดข้างรถบรรทุก
“หยุดก่อน!”ชายหัวโล้นก้าวลงจากรถพร้อมลูกน้อง 2 คน
ฉันจำได้ ไอ้มัมมี่หลอกับไอ้หมูอ้วน มันรีบสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้ ฉันเห็นท่าไม่ดี รีบดึงมือนาตาลีให้นั่งลงกับพื้น ใช้ความสูงของกลุ่มทุกคนช่วยเป็นกำบัง
“ขอความร่วมมืออีกครั้งนะ ทุกคนรวมกันอยู่ตรงนี้ก่อน อย่าพึ่งไปไหน อย่าพึ่งนั่ง อย่าพึ่งกิน” คนหัวโล้นออกคำสั่งเสียงดัง
“อะไรของมันอีกวะ?” เสียงจ้อกแจ้กของนักขี่เบาลง
พวกเขาหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทุกคนได้แต่ส่ายหัว แต่ไม่มีใครออกหน้าไปคุยกับมัน
หัวหน้าทีมตะโกน...
“เดินออกมาทีละคน แล้วไปยืนตรงนี้” ไอ้โล้นยืนหน้ารถแดงของตัวเองชี้มือไปข้างซ้ายที่ไอ้อ้วนกับไอ้มัมมี่หลอยืนอยู่
พวกเรายืนออกันอยู่กลางสนามหลังรถบรรทุก
“อาหลง! ลื้อไปยืนตรงโน้น” ไอ้โล้นชี้ไปด้านซ้ายของกลุ่มใกล้โต๊ะอาหารทางหน้าร้าน ท้ายกลุ่มของพวกเราติดท้ายรถบรรทุก พวกมันขนาบซ้าย-ขวา
“เร็ว ๆ!!!” ไอ้โล้นตวาดลั่น ทำเอาสะดุ้งกันเป็นแถว
เสียงสั่งของมันเหมือนดังมาจากนรก กระตุ้นให้ชายคนแรกตัวสั่นกล้า ๆ กลัว ๆ ก้าวเท้าไปหา มันชี้ให้ไปทางขวามือ คนอื่น ๆ ก็เดินตามไปทีละคน
“เอาไงดี ต้องหนีก่อน” ฉันกระซิบแบบขอความเห็น
ในใจของฉันมีแต่ตื่นเต้น ไม่ได้กลัวไอ้พวกนี้หรอก แต่สีหน้าของนาตาลีเครียดอย่างเห็นได้ชัด ฉันว่าเธอเป็นคนขี้กลัว ดูจะตกใจง่ายเหลือเกิน
“โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์สัตว์ 1.เยื่อหุ้มเซลล์ มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆประกอบด้วยโปรตีนและไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมเซลล์ให้คงรูปอยู่ได้และทำหน้าที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารบางอย่าง เช่น น้ำ อากาศ และสารละลายต่าง ๆ” อ้าว..พี่สาวฉันท่องอะไรเนี่ย..เสียสติไปแล้วเหรอ สายตาของเธอดูหวาดระแวง ใบหน้าขาวซีดมือน้อย ๆ สั่นเทา เห็นแล้วสงสารขึ้นมาจับใจ ยังไงก็ต้องพากันหนีให้ได้ก่อน
“ออกมา เร็ว!” คนในกลุ่มนักแข่งจักรยานค่อย ๆ เดินไปรายงานตัวทีละคน
ฉันคว้าข้อมือก้มหลังค่อย ๆ ขยับถอยไปทีละนิด ๆ เพื่อออกมาอยู่ข้างหลังกลุ่ม จำนวนคนฝั่งของเราเริ่มน้อยลงไปเรื่อย ๆ สอดสายตามองหาทางหนี พวกเราหลบไปทีโต๊ะก็ไม่ได้ ไอ้มัมมี่หลอยืนอยู่ วิ่งเข้าอาคารก็ไม่ได้ไอ้อ้วนยืนพุงห้อยดักอยู่เช่นกัน
ข้างหลังมีรถบรรทุกจอด มีทางเดียวต้องค่อย ๆ ก้ม เดินไปข้างซอกรถบรรทุก ใจฉันลุ้นระทึก ตุบ! ตุบ! ตุบ! เหมือนทหารกำลังลั่นกลองออกศึก ระยะแค่ไม่กี่ก้าวแค่นี้ แต่หัวใจมันแทบจะระเบิด ท้องไส้ปั่นป่วนพะอืดพะอมไปหมด ก้าวขาเตรียมย่องหนีอย่างยากเย็น อยากหายตัวได้จังเลย
“หยุด!” เสียงไอ้โล้นตะโกน เสียงสั่งเสียดใจวาบ
“เหวอ!” เราทั้งคู่สะดุ้งโหยง ขาก้าวค้าง
“ไอ๋หยา!” ฉันตกใจอ้าปากค้าง...แค่อีกก้าวเดียว...อีกก้าวเดียวแท้ ๆ ฉันก็หลบมุมท้ายรถได้แล้ว โธ่!...โดนจับได้ซะแล้ว
“โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์สัตว์ 1.เยื่อหุ้มเซลล์ มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆประกอบด้วยโปรตีนและไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมเซลล์ให้คงรูปอยู่ได้และทำหน้าที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารบางอย่าง เช่น น้ำ อากาศ และสารละลายต่าง ๆ” เสียงนาตาลีบริกรรมคาถาพึมพำ
ฉันยังยืนค้างตัวแข็งนิ่งในท่าก้มหลังมือข้างหนึ่งจับข้อแขนของเธอไว้ ซึ่งเธอก็แข็งอยู่ในท่าเดียวกัน
“เอาใหม่! เดินออกมาทีละ 5 คน ช้าอย่างนี้เมื่อไหร่จะหมด คนตั้งเยอะแยะ?”
“เฮ่อ!” เราสองคนถอนหายใจพรวดพร้อมกัน รีบดึงมือวิ่งต่อมุดเข้าซอกระหว่างรถบรรทุกไปทางคันไกลที่สุด
“ขึ้นไปแอบบนรถก่อน พวกเราวิ่งหนีไม่ทันแน่” ฉันพูดพร้อมปีนขึ้นไปดึงประตู
“เปิดประตูไม่ได้ ไปคันนู้น ๆ” ฉันกระโดดลงก้มหลังวิ่งตามไป โอย...ไม่ได้ดั่งใจเลย
“คันนี้ได้มั๊ย?” ฉันลุ้นอยู่ข้างล่าง เธอตะปีนขึ้นไปเปิดประตู
“ได้!...ได้แล้ว ขึ้นมา ๆ”เธอเบี่ยงตัวเปิดประตู แล้วยื่นมือลงมาดึงฉันขึ้นไป
“มุดลงไป” เราลงไปนั่งในช่องวางเท้าคนละฝั่งหลังเบาะที่ค่อนข้างมืด ฉันนั่งหลังคนขับมีเสื้อกันหนาวตัวใหญ่สองตัวคลุมได้พอดี
“อนนี่!” ฉันแง้มเสื้อขึ้นโผล่แต่ลูกตา
“มันกลับมาอีกได้ยังไง เมื่อเช้ามันก็มาหาไม่เจอไปรอบหนึ่งแล้ว?” ฉันกระซิบเบา ๆ
“ฉันคิดว่า เรื่องนี้ถึงตำรวจท้องที่แล้วล่ะ กล้อง CCTV ไง มันต้องเห็นจากกล้อง” เธอกระซิบกลับมา เธอเป็นคนพูดน้อย ถ้าฉันไม่ชวนคุยเธอจะนั่งเงียบไม่พูดอะไรเลย
ทันใดนั้น...
“ผลั้วะ!!” ประตูรถก็เปิดออก
เราสองคนรีบมุดกลับเข้าโปงอย่างเดิม เงียบฮึบแบบไม่หายใจกันเลยทีเดียว
“ผมขับเองนะพี่ตุ๋ย พี่นั่งพักไปเถอะ” เสียงผู้ชายคนขับ กระโดดขึ้นมาสตาร์ทรถก่อน สักพักประตูอีกข้างก็เปิดออกมีคนขึ้นมาอีกหนึ่งคน
“ตุ้บ!” เสียงปิดประตูรถดังขึ้น
ฉันรู้สึกเบาใจปลอดโปร่ง...เรารอดแล้ว
“บรื้น...นน!!” สักพักคนขับก็ออกรถ ใจชื้นมามาก แต่ก็ยังไม่หายตื่นเต้น ยังไงก็ขอออกไปให้พ้น ๆ จากตรงนี้ก่อน
เราสองคนนอนคุดคู้ใต้เสื้อกันหนาว ฟังเพลงในรถสลับกับเสียงคุยกันอย่างสบายใจของผู้ชายสองคน ยังดี...ที่ทั้งสองพูดอังกฤษเลยได้รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
“บรื้น...นน!!” รถออกมาจากลานจอดได้พักใหญ่แล้ว ไม่รู้เลยว่ารถคันนี้จะไปไหน นอนไปเงียบ ๆ แบบนี้ก่อนก็แล้วกัน
“ฟื้ด! ฟื้ด! ฟื้ด!” เสียงลมช่วยเบรกรถบรรทุกดังขึ้น รู้สึกว่ารถยนต์กำลังชะลอความเร็วลง
“เกิดอะไรขึ้นครับพี่ซอน?” เสียงคนขับ ถามไปทางวิทยุสื่อสาร
“มีรถจอดขวางทางว่ะ เหมือนกับไอ้คันสีแดงใน ทรี วัลเล่ย์ เมื่อกี๊เลย เดี๋ยวกูจัดการเอง”เสียงปลายทางตอบเรียบ ๆ น้ำเสียงปรกติไม่แสดงอาการตื่นเต้น โชคดีจริง ๆ ที่พวกเขาใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน
พอได้ยินว่าพวกมันตามมาอีก ฉันนอนเกร็งเยี่ยวเหนียวเลย ใจเต้นแรงโครมครามอีกครั้งอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น? รถบรรทุกจอดสนิท ทั้งสองคนกระโดดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ดับเครื่องยนต์
ฉันค่อย ๆ ขยับตัวทีละนิด โผล่หัวขึ้นมองไปข้างหน้า เอื้อมมือไปสะกิดนาตาลีก่อนจะกระโดดข้ามมานั่งที่คนขับ ส่วนนาตาลีก็ปีนข้ามมานั่งเบาะข้าง สีหน้าเธอแสดงอาการกังวลปนวิตก ส่วนฉันกำลังตื่นเต้นกับเรื่องราวข้างหน้ามากกว่า ฉันว่ารถบรรทุกนี่ดีจังเลย ด้วยความสูงทำให้มองเห็นข้างหน้าได้ในระยะไกล มองเห็นรถสีแดงคันเดิมของไอ้โล้นจอดอยู่ข้างทางชัดเจน บรรยากาศดูทึม ๆ มีเรื่องแน่
แสงไฟหน้ารถส่องสว่างกลางถนน ผู้ชายสองกลุ่มประจันหน้ากันฝ่ายไอ้โล้นมีสามคน ฝ่ายคนขับรถบรรทุกประมาณ 10 คน จากที่เห็นคุยกันธรรมดาเปลี่ยนเป็นเถียงกันมีผลักมีดันกัน ดูจากลักษณะอาการเหมือนทางไอ้อ้วนพยายามจะเดินมาที่รถบรรทุก แต่โดนแขกตัวอ้วนดำขวางไว้จึงเกิดการผลักและยื้อกันอยู่ สถานการณ์ชักเริ่มจะมีความรุนแรง
ฉันมองจากตรงนี้เห็นชัด แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่องว่าคุยอะไรกัน ดูท่าพวกนักเลงก็ใจถึงไม่เบาโดยเฉพาะไอ้อ้วน มันเดินเอาพุงกระแทกใส่กลุ่มคนขับรถบรรทุกอย่างไม่มีความเกรงกลัว
ในจังหวะนั้นเอง..ไอ้มัมมี่หลอก็ดึงปืนสั้นดำมะเมื่อม ออกมาจากเอว เล็งกระบอกปืนมาที่กลุ่มคนขับรถบรรทุก ใจหล่นวูบยกมือขึ้นปิดปากจ้องตาค้าง เดาว่าโดนแน่
“ผลั้วะ!!!” แต่ยังช้ากว่าผู้ชายผมยาวที่ยืนตรงนั้น เขาขว้างขวดน้ำในมือไปที่ปืนไอ้หลอ แม่นเหมือนจับวางปืนสะบัดไปนิดหนึ่ง ยังไม่ทันที่ไอ้หลอจะหันปืนกลับมา
“ผลั้วะ!!!” รองเท้าบูทคาวบอยก็นาบไปบนใบหน้าไอ้หลออย่างแรง ร่างของเขากระเด็นไปล้มลงข้างรถยนต์แดง
“ตุ่บตั่บ!ตุ่บตั่บ!” ด้านไอ้โล้นกับไอ้อ้วนก็โดนตะลุมบอน ป้องกันตัวกันพัลวัน
“ปัง!” เจ้าหนุ่มผมยาวยกปืนขึ้นฟ้าควันฉุย
เขาลดมือลงชี้ปืนไปที่หัวของไอ้โล้น ขยับเท้าเดินเข้าไปใกล้แล้วพูดอะไรบางอย่างที่ฉันไม่ได้ยิน สักพักไอ้พวกนั้นก็ฮึดฮัดขึ้นรถแล้วขับสวนกลับไป
นาตาลีพูดเสียงสั่น…
“นี่!...เราหนีเสือปะจระเข้รึป่าว? หนีจากรถคันนี้กันเถอะ พวกนี้น่ากลัวกว่าพวกนักเลงอีก หนีกันเถอะ” เธอแสดงสีหน้ากังวลมากขึ้น ใบหน้าซีดขาว ก็คงจะจริงอย่างที่เธอว่า พวกนี้โหดกว่าอีก
“พวกมันมาแล้ว แอบก่อนเหอะ!” ฉันรีบปีนข้ามเบาะมาลงหลุมด้านหลังที่เดิม
รถบรรทุกไหวยวบเมื่อทั้งสองคนกระโดดขึ้นมา รถยนต์เคลื่อนตัวอีกครั้ง ฉันกับนาตาลีก้มหน้าเงียบไม่สามารถเห็นหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหน้าได้ ยินแต่เสียงคุยกัน
“พี่มันมาหาอะไร? ผมฟังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่?” เสียงคนขับถาม
“ไอ้เจ็ทโด้! มันบอกว่า มีคนไปขโมยของมันมา แล้วมาโวยวายกล่าวหาว่า เราเป็นพวกเดียวกับขโมย ถ้ามันไม่ยอมกลับไปดี ๆ หัวกระจุยแน่ไอ้โล้น” เสียงเพื่อนอีกคนตอบออกมา
“ทำไมพี่ไม่ให้มันค้นรถล่ะ?” คนขับยังถามต่อ
“มันมีสิทธิ์อะไรมาค้นรถกู นี่เท่ากับรุกล้ำอธิปไตยเราเลยนะ ไอ้กระจอกเอ๋ย รถกูก็คันแค่เนี้ยะ จะซ่อนคนได้ไง?” สิ้นเสียงผู้ชายคนนั้น เสื้อกันหนาวที่คลุมตัวฉันอยู่ก็ถูกกระชากออก…
“พรึบ!” ซวยแล้วฉัน เยี่ยวปริบเลย
......................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |