หมวดหมู่ | The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 1 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 24 ม.ค. 2567 |
ซุนยี่ มณฑลกุ้ยโจว
มุมมองสายตา ชเว จูยอน
กันยายน ค.ศ.2021
ศาลาริมทางหลังคากระเบื้องโค้งทรงจีน หันหน้าเดียวดายไปทิศตะวันออก สิงโตหินคู่นั่งเป็นเพื่อนซ้ายขวา กระถางบัวแกะสลักรายรอบศาลา สายลมพัดเย็นสบาย ท้องฟ้าระยิบระยับไปด้วยเหล่าดวงดาวที่ปราศจากดวงเดือนเคียงข้าง กลิ่นควันไฟอ่อน ๆ และขี้หมูโชยมาเตะจมูก
บนถนนใหญ่ไร้สิ่งเคลื่อนไหว มีเพียงใบไม้ที่ปลิดปลิวตามกระแสลมพัดผ่านเท่านั้น พวกเราลงจากรถทั้งสองคันรวมเจ็ดคน ฉันรู้สึกประหม่านิดหน่อยเพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน
“โอย!...โคตรเมื่อยเลย” ต่างคนต่างเดินบิดตัวไล่ความปวดเมื่อย เข้าไปนั่งบนม้านั่งปูนยาว จากเสาหน้าถึงเสาหลังคนละฝั่งของศาลา
ซอนคนขับรถของฉัน ยืนขึ้นยกมือเป็นนัยว่า ให้พวกเราเงียบแล้วฟังเขาพูด...
“มาแนะนำตัวกันก่อน ใครเป็นใครกันมั่งวะเนี่ย? ผมเวียนหัวไปหมด มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราวะพี่ตุ๋ย?” ซอนยืนเอามือเกาคางแกรกแกรก หันไปทางผู้ชายผมยาวใบหน้าคมเข้มหล่อตัวสูง
ฉันสะดุดตากับชายคนนี้ที่สุด เห็นตั้งแต่ถือปืนอูซี่วิ่งไปยิงกับพวกมังกรอู่ฮั่นแล้ว เขาสวมบูทหนังแกะสลักครึ่งหน้าแข้ง ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นหัวหน้าแน่ ๆ เพราะซอนให้ความเกรงใจ เขาดูเท่มาก ฉันชอบผู้ชายไว้ผมยาวที่เกาหลีเหนือบ้านของฉัน หาผู้ชายไว้ผมยาวไม่ได้เลย โดนบังคับทรงผมไม่กี่แบบ ส่วนใหญ่โดนตัดสั้นทรงทหาร
ซอนยิ้มหวานเสน่ห์แรง มีลักยิ้มหล่อไม่แพ้กันพูดต่อ...
“นี่แทน! ลูอิส! ตุ๋ย! ผมชื่อซอน!” ซอนพูดเสียงดังแล้วชี้ไปทีละคน ลูอิสลุกขึ้นเดินมาที่ฉันแล้วแนะนำ..
“นี่!...ชเว จู ยอน สาวเกาหลีเหนือ เพื่อนผมเอง” ลูอิสมองไปที่เด็กหนุ่มตัวสูงหน้าตาดีที่ชื่อแทน คนผมยาวชื่อตุ๋ยและผู้หญิงผิวขาวชาวจีนอีกสองคนที่ยิ้มมาให้ ดูเป็นมิตรดีจังยังไม่บอกชื่อ
“หนูแนะนำตัวบ้างค่ะ!”
วัยรุ่นหญิงแววตาเป็นประกาย ผมสั้นหน้าม้ามัดจุกผมที่ด้านหลัง คิ้วเข้มรับกับใบหน้าขาวผ่องได้รูป พวงแก้มยุ้ยท่าทางทะมัดทะแมง มั่นใจตัวเอง หุ่นของเธอสะดุดตาทีเดียว เธอกระโดดมายืนตรงกลางศาลาแล้วโค้งหัวนอบน้อม พอได้เห็นใบหน้าชัด ๆ แล้วต้องร้อง...โอ้โห!
“หนีห่าว!..หนูชื่อไป่ไป๋ ชาวอู่ฮั่น จบการแสดง อายุ 20 ปีค่า” เธอแนะนำตัวเองเสียงใสทำน่ารักด้วยท่าซารางเฮโย แล้วขยับไปแนะนำผู้หญิงสาวสวยอีกคนที่นั่งยิ้มอยู่ ทั้งสองคนจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ออร่าเปล่งประกาย
“นี่พี่สาวฉันชื่อนาตาลีพัคค่ะ” พูดจบเธอก็ดึงมือพี่สาวให้ยืนขึ้น ทำให้เห็นว่า ทั้งสองรูปร่างใกล้เคียงกัน หุ่นบาดใจชายหนุ่มด้วยกันทั้งคู่ หน้าตาสวยเก๋ไก๋ไม่แพ้กันเลย เป็นดาราหรือเปล่าเนี่ย ทำไมสวยขนาดนี้?
ซอนมองตะลึงเสียอาการ รีบหันไปหาตุ๋ย...
“พี่! ช่วยผมหน่อย เสียงอะไรไม่รู้ ดังแถวใต้ท้องรถ ดูหน้ารถผมสิ พรุนเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซอนหัวเราะร่วน แต่สายตายังมองสองสาวไม่กะพริบ
“รถเป็นอะไร?”
“ก็บอกแล้วว่าเปนอะไรไม่รู้?” เขาอมยิ้มวิ่งนำตุ๋ยออกไปดูรถที่จอดอยู่ข้าง ๆ เขาไม่ได้บ่นเสียดายรถยนต์แม้แต่คำเดียว ซอนเป็นคนนิ่งมาก แต่พออยู่กับตุ๋ยกลับเหมือนเด็ก
เหลือพวกเรานั่งในศาลาห้าคน หันมองไปที่รถบรรทุกแล้วสงสารเหมือนกัน มีแต่รอยกระสุนทั้งหน้ากระจังและประตูข้าง วิถีกระสุนมันต่ำโชคดีนะที่กระจกไม่แตกไปด้วย ไม่อยากจะเชื่อว่า จะมียิงกันอย่างนี้ในต่างประเทศด้วย
“มานี่หน่อยค่ะ!” ไปไป๋เดินมาดึงมือให้ไปนั่งข้าง ๆ นาตาลี โดยมีแทนและลูอิสซึ่งนั่งอยู่คนละฝั่งหันมองตาม
“สองคนนี้ต้องรู้จักกันไว้นะคะ คุณจูยอนคะ! พัคอนนี่เป็นคนเกาหลีใต้ เป็นนักวิทยาศาสตร์ค่ะ” เธอพูดจบฉันยื่นมือออกไปจับมือของนาตาลีที่ยื่นมาก่อนแล้ว เราโค้งหัวและยิ้มให้กันอย่างสุภาพ
“ดูเหมือนว่า พวกเราจะเหมือนกันนะคะ แอบขึ้นรถเขามา” ฉันเริ่มเจรจาก่อนและหัวเราะเบา ๆ ท่าทางทั้งสองสาวเป็นมิตรมาก
“ฉันหนีพวกนักเลงมาค่ะ คุณล่ะหนีอะไรมา?” ไป่ไป๋ขำกับสิ่งที่ตัวเองพูดไป สองหนุ่มนั่งมองเราอย่างสนใจ
“ฉันหนีมาจากเกาหลีเหนือค่ะ ต้องคอยหลบซ่อนตัวตลอด” ฉันตอบแล้วยิ้มให้ สาวน้อยผมสั้นเด้งตาโตเท่าไข่เค็ม...
“ฮ๋า!!” เพื่อนใหม่ประสานเสียงดังดวงตาลุกโต
ลูอิสช่วยเสริม...
“เธอออกจากประเทศมาได้เดือนกว่าแล้ว ผมไปรับมา” เขาท่าทางแปลก ๆ ยังไงชอบกล บอกไม่ถูก แต่ฉันก็ขอบคุณที่เขามาช่วยในยามที่ลำบาก
“รับมาจากตรงไหนครับ?”
“เฉิน ปิน เป่า จิ๋วเตี้ยน!” ลูอิสตอบยิ้ม ๆ เช่นกัน
“อ๋อ!...ผมเข้าใจแล้ว” แทนขมวดคิ้วจ้องหน้าฉัน แล้วพยักหน้าอมยิ้ม…
“ไม่ใช่ อย่างที่คุณเข้าใจหรอกแทน ไม่ใช่!..อย่าคิด” ลูอิสยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมาตรงหน้าแทนแล้วหัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะของลูอิสเยือกเย็นชวนขนลุก
“ไหนดูหน่อยสิคะ เป็นอย่างไงบ้าง?” ไป่ไป๋ลุกมาดึงให้ยืนขึ้น นาตาลีลุกขึ้นตาม ทั้งสองลูบไล้ไปตามเนื้อตัวจนจั๊กกะเดี๋ยม
“เจ็บมากมั้ยคะ?” ไป่ไป๋เอามือมาลูบที่ขาฉัน นาตาลีก็ลูบไปตามแขนบีบเบา ๆ
ฉันรู้สึกอบอุ่นใจกับการแสดงออกของสองสาวนี้มาก การได้รับความสนใจและห่วงใยจากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มันรู้สึกปลาบปลื้ม ซาบซึ้ง
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ หายดีแล้ว ตอนออกมาแรก ๆ ระบมไปทั้งตัว” ฉันแตะแขนนาตาลีและสบตาคู่สวย
“ทำไมฉันไม่รู้สึกถึงการต่อต้านจากคุณเลย แปลกจัง?” ฉันอดแปลกใจไม่ได้ที่สามารถรับรู้ความจริงใจของนาตาลีผ่านดวงตา
“เอ๋!...ยังไงคะ?” นาตาลีทำหน้าฉงน
“ปรกติคนเกาหลีใต้ ไม่ค่อยต้อนรับพวกฉันหรอก ฉันเคยผิดหวังมาแล้ว เคยไปงานรวมญาติ 100 ครอบครัว ที่สองประเทศจัดขึ้นครั้งแรก ฉันคิดว่า พวกเราเป็นพี่น้องที่ถูกพรากจากกัน พอมีโอกาสได้เจอกัน ฉันดีใจมากเลยนะ แต่พวกเขาไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย พวกฉันคงเป็นพี่น้องที่ถูกลืม หรือเราคิดไปเองฝ่ายเดียวว่า เป็นพี่น้องกับพวกเขา” ฉันบอกตามความรู้สึกน้อยใจที่มีไปตรง ๆ กับนาตาลี
“จูยอนชี่! ฉันขอโทษแทนพวกเขาด้วยนะ ฉันเองก็โตที่อเมริการู้สึกเหมือนถูกทิ้งเหมือนกัน บางครั้งฉันก็เหงาค่ะ” นาตาลีดึงไปกอด ฉันยิ้มออกและพยักหน้าเข้าใจ
“แล้วนี่! หนีออกมาได้ยังไงครับ? ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิครับ ผมทึ่งมากเลย!” แทนโยนคำถามเข้ามา ดวงตาเขาเป็นประกายแบบคนใจดี ใบหน้าเนียนเป็นผู้ชายที่หล่อมากคนหนึ่งทีเดียว รูปร่างสมาร์ทกว่าทุกคน สูงพอ ๆ กับลูอิสฝรั่งตัวโต
“ให้ลูอิสเล่าเถอะค่ะ เขาเป็นคนวางแผนทั้งหมด” ฉันโยนไปให้ลูอิสที่นั่งฝั่งตรงข้ามเป็นคนเล่า
ฉันไม่เข้าใจเลย ยังแปลกใจไม่หาย ทำไมเขาถึงพามานั่งรถบรรทุกหนี แต่จะเรื่องมากก็ไม่ได้ เขามาช่วยก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว
“ผมได้ทราบเรื่องของจูยอนจาก ดร.เหยียนลี่เหมิน ให้มารับจูยอนในจีนครับ” ลูอิสขยับตัวลุกขึ้นยืนบอกกับทุกคน
นาตาลียกมือดัก...
“เดี๋ยวค่ะ ดร.เหยียนลี่เหมิน นักชีวเคมีจุลภาคเหรอคะ?” นาตาลีถามขัดจังหวะ ทุกคนหันไปมองที่เธอ…
“คุณรู้จักด้วยเหรอคะ/ครับ?” ฉันกับแทนพูดพร้อมกัน
ไป่ไป๋หันไปมองหน้านาตาลีและทำหน้าฉงนคิ้วขมวด โดยเฉพาะนายแทน ที่นั่งฝั่งตรงข้ามสีหน้าท่าทางเขาสงสัยมากกว่าใคร แววตาดื้อซนเหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น
“ค่ะ เราเคยทำงานในห้องทดลองฯด้วยกัน ก่อนที่เธอจะย้ายออกไป เราเคยสนิทกันมาก แล้วจูยอนกับลูอิสไปรู้จักกับเธอได้อย่างไรคะ” นาตาลีเอียงคอคุยเสียงใส ยื่นมือมาแตะแขนฉัน
ฉันหันไปมองทางลูอิสเป็นเชิงให้ตอบ
“ผมขอตอบก่อนนะครับ ผมยังไม่ได้บอกกับคุณเลย ผมเป็นนักข่าวภูมิภาคเอเชียของ FOX NEWS เมื่อประมาณปลายปี 2019 ผมได้รับการติดต่อจากดร.เหยียนลี่เหมิน ให้เผยแพร่ข้อเท็จจริงเรื่อง การกำเนิดไวรัสโควิด-19ไม่ทราบว่าเคยเห็นข่าวนี้มั้ยครับ?” ลูอิสเอามือพับแขนเสื้อเชิ้ตสีเทาขึ้นมาถึงศอกทั้งสองข้างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วจิ้มจึ้กจึ้ก ส่งให้แทนดูแล้วส่งกลับมาให้ไป่ไป๋ ส่งสายตามองไปทีละคนรอคำตอบ
“ผมเคยเห็นนะ แต่ที่บ้านผมมันเอาไปทำ TIKTOK ดีสเครดิตเลยไม่มีคนให้ความสนใจ คนในประเทศของผมส่วนใหญ่เชื่อว่า โควิดมาจากค้างคาว รัฐบาลจีนบอกว่าอย่างนั้น อาจจะเป็นการแก้ข่าวช่วยจีนก็ได้” แทนพูดจบหันไปมองหน้านาตาลีที่ยิ้มมุมปากเยาะเย้ยอยู่ คู่นี้คงงัดข้อกันมาแน่
“หนูก็ไม่เคยเห็นเลย คลิปอย่างนี้รัฐบาลแบนแน่นอน ไม่ปล่อยไว้หรอกค่ะ”ไป่ไป๋ดูคลิป แล้วส่งต่อ นาตาลีรับมาดูแต่ไม่ได้พูดอะไร ส่งโทรศัพท์คืนไปให้ลูอิส
“นั่นเรื่องจริงนะครับ กองทัพจีนเป็นคนสร้างโควิด-19ขึ้นมา และคลิป TIKTOK ที่คุณเห็นเพื่อหลบการตรวจสอบ ทำให้มันดูว่าเป็นของหลอกเด็ก แต่แท้ที่จริงแล้ว พวกเขากำลังส่งข่าวบอกกับชาวโลก” ลูอิสพูดขึงขัง แทนกับไป่ไป๋อ้าปากค้าง
นาตาลีพูดเสริม...
“ฉันทดลองเชื้อไวรัสโคโลนากับสัตว์ทุกชนิดแล้วค่ะ เชื้อไวรัสมันตายหมด เชื้อสามารถอยู่ได้เฉพาะในคนเท่านั้น” นาตาลีเสริมข้อมูลทำให้หลักฐานของลูอิสดูน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก
“แล้วคุณจูยอนล่ะครับ รู้จักดร.เหยียนลี่เหมินได้อย่างไร?”แทนมองมาถามฉัน
“ฉันเป็นคนให้ข้อมูลเบื้องต้นเองค่ะ”ฉันตอบไปตรงๆ ตามนิสัยของคนเกาหลีเหนือ
“ฮ๋า!” ไป่ไป๋เสียงดังกว่าเพื่อน นาตาลีและแทนก็อุทานพร้อมกัน เสียงดังไปถึงซอนกับตุ๋ยที่นั่งทำรถอยู่ข้างศาลา
“ฉันเป็นคนจัดสถานที่การประชุมผู้นำ เลยได้ยินทุกอย่าง ฉันแอบถ่ายคลิปแล้วส่งไปหา ดร.เหยียนลี่เหมินที่เป็นเพื่อนเคยเรียนอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ด้วยกันค่ะ” ฉันให้ข้อมูล นาตาลีพยักหน้าเข้าใจ มีแต่แทนและไป่ไป๋ที่ดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ
นาตาลีขยับ...
“เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันและดร.คิมมินยอง ท่านเคยเป็น ผอ.ทำงานด้วยกันที่เมืองอู่ฮั่น ได้รับข้อมูลจากดร.เหยียนลี่เหมิน ให้หาข้อมูลทางลับแล้วพบว่า มันเป็นไวรัสแปลงพันธุกรรม ZC45 และ ZXC21 หลุดจากห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ดร.คิมมินยอง ก็โดนฆ่าปิดปากไปแล้วและฉันเองก็เป็นที่เพ่งเล็งของพวกนั้น” เสียงนาตาลีแผ่วลงเม้มริมฝีปาก
“ฉันเคยได้ยินว่า วัคซีนไม่ได้ช่วยป้องกันโรค จริงมั้ยคะ?” ฉันหันไปถามนาตาลี
“จริงค่ะ! มันยังไม่ได้ผล มันไม่ครอบคลุม เพราะไวรัสพวกนี้จะพัฒนาตามสายเลือดของคนแต่ละประเทศ” นาตาลีขยับตัวนั่งให้สบายขึ้น
“อนนี่ยิ่งพูด หนูยิ่งไม่เข้าใจ วัคซีนใช้ไม่ได้แล้วเอามาฉีดกันทำไมคะ?” ไป่ไป๋หันมองหน้านั้นทีคนนี้ที
นาตาลีขยับพูด...
“เคยได้ยินไวรัสสายพันธ์ อังกฤษ อิตาลี อินเดีย กัมพูชา หรือประเทศอื่น ๆ ทำนองเดียวกันบ้างมั้ยคะ?” พวกเราพยักหน้าพร้อมกัน หงึกหงึก
“นั่นคือคำตอบว่า มันพัฒนาตัวเองได้และวัคซีนต้องผลิตเฉพาะพื้นที่นั้นเท่านั้น การเอาวัคซีนที่มีอยู่ในท้องตลาดวันนี้ไปฉีด จึงไม่เป็นผล แต่มันไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอกค่ะ” นาตาลีตอบฉะฉานจนฉันรู้สึกหวั่นใจและกลัวมากขึ้นกว่าเดิมอีก
“เรื่องใหญ่นะครับนี่ มีวิธีแก้มั้ยครับ?” ลูอิสร้องถามไปที่นาตาลี
“อย่างแรกที่ต้องทำคือ หยุดการฉีดวัคซีนที่ได้รับจากจีนทั้งหมดก่อนค่ะ มันมีบางอย่างถูกผสมลงไป” นาตาลีหันไปทางลูอิสที่ถามแล้วก้มหน้าดูแต่โทรศัพท์
“แล้วจะทำยังไงล่ะคะ อนนี่?” ไป่ไป๋เกาะแขนนาตาลี
“ถ้าฉันรอดไปได้โลกก็ปลอดภัยค่ะ ฉันต้องไปที่ WHOsให้ได้” นาตาลีท่าทางมุ่งมั่น พูดเสียงหนักแน่น
เรื่องแปลก ๆ พวกนี้มาปะติดปะต่อกันโดยบังเอิญ หรือเป็นความตั้งใจของใครบางคนกันแน่
แทนขยับยกมือ...
“เอาไว้ก่อนเถอะครับ หาทางออกจากจีนให้ได้ก่อนเถอะ” แทนออกความเห็นมาน่าสนใจ ดูเขากระตือรือร้นมาก
ฉันหันมองไปที่รถบรรทุก ทั้งสองคนยังง่วนอยู่กับการซ่อม เคาะโป๊กเป๊ก ไป่ไป๋หันมายิ้มหวาน...
“คุณจูยอนเป็นทหารเหรอคะ?”
“เอ๋..รู้ได้ยังไงคะ? ฉันไม่ได้บอกใครเลยนี่คะ” ฉันเบิกตาหันมองไปทางลูอิสแทนคำถามหรือเขาเป็นคนบอก? ลูอิสส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
ไป่ไป๋ลุก ยืนแข็งขัน ยืดอกตั้งเลียนแบบทหาร...
“เวลาคุณจูยอนยืนหรือนั่ง ตัวตรงเป๊ะเลยค่า มันชัดมาก เวลาพูดก็ชัดถ้อยชัดคำเหมือนรายงานตัวค่ะ” ไป่ไป๋พูดเสร็จทุกคนก็หัวเราะกันครืน
“เดี๋ยวหนู จะสอนให้เดินอย่างนางแบบเลยนะคะ หนูเก่งเรื่องพวกนี้” ไป่ไป๋อาสาจะสอนทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก ถึงแม้จะรู้ว่าพูดเพื่อมารยาทแต่ก็รู้สึกขอบคุณ ฉันเชื่อเธอนะ! ท่าทางของเธอดูสง่างามทุกกระเบียดนิ้ว จะนั่ง จะยืน จะเดินดูงดงามไปหมด ออร่าแรงมากด้วย
แทนยกมือ...
“ผมสงสัยเรื่องหนึ่งครับ มันย้อนแย้งในความรู้สึกของผม ทำไมคุณเอาข้อมูลโควิดไปบอกดร.เหยียนลี่เหมิน คุณมีเหตุผลอะไรถึงทำอย่างนั้นครับ อะไรเป็นแรงจูงใจเรื่องพวกนี้มันเกิดในจีนนี่ครับ ไม่เกี่ยวกับเกาหลีเหนือสักหน่อย?” แทนถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทุกคนก็หันมามองรอคำตอบ ไป่ไป๋ลุกขึ้นมาประคองให้นั่งลงข้างนาตาลี
ฉันไม่อยากพูดเรื่องเศร้านี้เลย แต่ถ้าไม่บอกพวกเขาก็คงสงสัย...
“เมื่อคราวโควิด-19ระบาดใหม่ ๆ ใครเคยได้ยินข่าวเรื่องเกาหลีเหนือมีวิธีจัดการโควิด-19ได้เร็วที่สุดในโลกมั้ยคะ?” ฉันตั้งคำถามกับทุกคน ทั้งหมดส่ายหน้า
ยกเว้นแทนคนเดียวที่ยกมือ...
“ผมเคยได้ยิน ถ้าจำไม่ผิดมีข่าวชาวเกาหลีเหนือสองคนผัวเมีย ถูกตรวจพบโควิดตอนเช้า ตอนบ่ายท่านผู้นำสูงสุดก็ออกมาแถลงการณ์บอกกับชาวโลกว่า โควิดเป็นศูนย์ไปแล้ว ไม่มีคนติดโควิดในเกาหลีเหนือ” แทนคงเป็นคนที่ชอบดูข่าวถึงได้รอบรู้ไปทุกเรื่อง
“สองคนนั้น เป็นคุณพ่อกับคุณแม่ของฉันค่ะ”
“หือ!” ทั้งหมดร้องพร้อมกันหน้าเหรอหรา
“คุณพ่อเป็นนายทหารเดินทางไปราชการที่ประเทศจีนพร้อมกับคุณแม่ที่เป็นพยาบาล พอกลับมาในวันนั้นทั้งสองก็ป่วยได้รับการตรวจที่โรงพยาบาล ผลออกมาเป็นบวก” ฉันหยุดพูดเพราะเหมือนมีก้อนอะไรมาอุดคอให้พูดไม่ได้ น้ำตาก็เอ่อขึ้นมา ทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นรีบกระพริบตาถี่ ๆ ไล่น้ำตา
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” นาตาลีถามขึ้นมา
ฉันยังไม่สามารถตอบได้ในทันที พยายามกันฟันข่มใจให้เป็นปรกติ ไปไป๋เข้ามานั่งแล้วกอดเอวเอาหน้ามาซบพิงที่ไหล่ นาตาลีเอื้อมมือมากุมมือฉัน น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้มันพรั่งพรูออกมา ฉันขมขื่นใจและเจ็บปวดมากกับเรื่องนี้ มันตามหลอกหลอนมาตลอด
“ท่านโดนยิงทิ้งทั้งคู่ค่ะ!” ฉันกัดริมฝีปากจากเจ็บจนกลายเป็นด้านชา พยายามแสดงความเข้มแข็ง
“ฮือฮือ!” แต่สุดท้ายมันก็ระเบิดออกมามันสุดที่จะทานทนได้ น้ำตาตาไหลร้องไห้อย่างหนักต่อหน้าทุกคน ฉันไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว
“ถ้าฉันมีโอกาส มีอำนาจ ฉันจะรับมันไว้โดยไม่ลังเล และคนแรกที่ฉันจะกลับไปหาคือท่านผู้นำ” ฉันไม่สามารถให้อภัยได้ แค้นนี้ถ้ามีโอกาสจะกลับไปเอาคืน และถ้าปลดปล่อยชาวบ้านได้จะทำทันที
“............” บนศาลาเงียบสนิทไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา จนแทนขยับตัว...
“ผมขอโทษนะครับ ผมไม่น่าถามคำถามนี้เลย” หลังจากที่นิ่งเงียบกันไปพักใหญ่ แทนก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ แล้วก้าวเดินมาแตะฝ่ามือก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม
ฉันส่ายหน้าเป็นเชิงว่า ไม่เป็นไร ฉันรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วที่ได้บอกความจริงออกไป มันอาจจะทำให้ทุกคนเข้าใจฉันมากขึ้นก็ได้
ฉันค่อย ๆ เอามือจับไปที่หัวไป่ไป๋ที่หน้าซบลงมาตรงอกให้เงยขึ้น ดวงตาไป่ไป๋แดงช้ำ น้ำตาไหลพรากสะอื้นเบา ๆ ปากสั่นระริก เด็กคนนี้จิตใจดีจังเลย
“ใจร้ายมาก”เธอโผกลับมากอดแน่นขึ้น ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้น จนนาตาลีต้องลุกมาแกะเธออกแล้วกอดเธอไว้แทน
เด็กที่ต้นทุนจิตใจสวยงามจะเข้าใจผู้อื่นได้ง่าย ฉันหันไปมองทั้งสองมีคราบน้ำตาเหมือนกัน ฉันยังเยาว์นักกับโลกภายนอกประเทศ แต่ดีใจมากที่เจอเด็กทั้งสองคนนี้
ฉันไม่เคยได้รับความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเช่นนี้ในบ้านเกิด พวกเราอยู่ด้วยกันแต่ก็ต้องคอยระแวงกันเอง แต่สำหรับที่นี่กับคนแปลกหน้ากลุ่มนี้ มันช่างอบอุ่นในจิตใจเหลือเกิน เขาเรียกการกระทำเช่นนี้ว่าอย่างไร? ทำไมไม่มีสอนในเกาหลีเหนือ? พวกเรานั่งเงียบกันไปพักใหญ่
“แต่ที่หนีออกมา เพราะฉันทำงานผิดพลาดค่ะ ถ้าไม่หนีก็อาจจะถูกยิงเป้าหรือส่งไปเป็นกรรมกรในเหมือง มันมีค่าเท่ากันค่ะ! อย่างไรก็ตาย” ฉันนึกย้อนกลับไป มันช่างเจ็บปวดใจอะไรเช่นนี้ ฉันคิดถึงบ้านมาก ป่านนี้มันคงเหงาน่าดู ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนอีกแล้ว
“เรื่องหนีมาทางไหน เจอลูอิสได้อย่างไร เรื่องมันยาว ไว้จะเล่าให้ฟังวันหลังนะคะ ถ้ามีโอกาส ฉันอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจังเลย ไม่ได้อาบน้ำมาสองวันแล้ว” ฉันบอกความต้องการเพราะเหนียวตัวไปหมดแล้ว
นาตาลีมองนิ่งไปที่ลูอิส...
“แต่ฉันคุ้นหน้าคุณมากเลยนะคะ ลูอิส” นาตาลีทิ้งปริศนาไว้
............................................................................................................................................................
หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |