The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2 ตอนที่ 9

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2 ตอนที่ 9
หมวดหมู่ The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 24 ม.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


ป่าโบราณ ฉวีจิ่ง มณฑลยูนนาน

มุมมองสายตา  นาตาลี

ตุลาคม ค.ศ.2020

สมองของฉันคิดซ้ำ ๆ วนเวียน ฉันตายไม่ได้ ฉันมีภารกิจที่ต้องทำยังมีอีกหลายอย่างที่ค้างคา กินน้ำไปหลายอึกและกำลังจมลึกลงทุกขณะ เป้วัคซีนด้านหลังถ่วงน้ำหนัก ดำดิ่งลงไปเรื่อย ๆ

ตูม!!!!” แรงสั่นสะเทือนของน้ำเหมือนของใหญ่ตกลงมา ก่อนที่มือใครบางคนเข้ามาคว้าแขนดึงขึ้น ความรู้สึกเลือนรางลงทุกขณะจิต ร่างกายเหมือนโดนฉุดลากขึ้นชายฝั่งก่อนสติดับวูบ...

 “.........”

 เฮือก!!” น้ำพุ่งพรวดจากปาก สติสัมปชัญญะกลับมา หัวสมองมึนสายตาพร่ามัว แสงสว่างจ้าจนตาหยี ลมหายใจหอบถี่หัวใจเต้นตุบตับ
             ใบหน้าของใครบางคนอยู่ตรงหน้าดูเลือนราง ฉันรู้สึกเจ็บแปลบ กะโหลกกรามลั่น...
              “เพี๊ยะ! ๆ ๆ ใบหน้าของฉันสะบัดตามแรงตบ
             “เฮ้!..เป็นอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มก้องของผู้ชาย ความรู้สึกเจ็บมากที่แก้มซ้ายขวา ภาพด้านหน้าค่อยๆเห็นชัดมากขึ้น...
             แทน! ฉันโผเข้ากอดเมื่อเห็นว่าเขาคือแทน โจทย์เก่าของเรานี่เอง ในใจทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจและขอบคุณสุดซึ้ง ความโกรธเกลียดที่มีต่อเขา ถูกลืมไปชั่วขณะ พักรบกันไว้ก่อน ความตายน่ากลัวกว่า
             “ขอบคุณมาก ๆ ๆ ๆ ฉันละล่ำละลัก ใบหน้าเจ็บระบม

เขานั่งนิ่งเมินไม่มองหน้า ท่าทางของเขาไม่แยแสฉันเลย สักพักก็ผลักฉันออก แล้วเดินไปหาไป่ไป๋ที่นอนยืดยาวขาวผ่องกลางลานหินริมน้ำสังเกตเห็นว่าเขาพยายามวางมือ ไม่ให้โดนหน้าอกของเธอแล้วปั้ม เพื่อทำ CPR ประกบปากเป่าลมผายปอดช่วยชีวิตเธอ อย่างคล่องแคล่ว

“เฮ้อ! ฉันปลดเป้วัคซีนออกจากหลัง นอนเหยียดยาวมองขึ้นไปยอดเขา

จุดที่เราตกลงมา ก็ไม่เห็นจะสูงเท่าไหร่นี่นา มองจากด้านบนลงมา ทำไมมันสูงจัง? ยอดเขาสูงโอบล้อมรอบตัว ใบไม้ป่าเปลี่ยนสีเหลืองส้ม สายลมพัดโชยกลิ่นน้ำฉ่ำปอด

ตอนนี้เท่ากับว่า พวกเราอยู่ในร่องเขาลึก ถ้าน้ำป่าไหลหลากตอนนี้ก็ตายอย่างเดียว ลำธารเล็กไหลแยกออกจากกันเป็นสองสายอ้อมชายหาดที่เรานั่งกันอยู่ 

ฉันฉุกคิด...แล้วนายแทนมาจากตรงไหนกัน? ถึงมาช่วยพวกเราทันเวลาพอดี แล้วจระเข้ล่ะ?

เฮือก!” ไป่ไป๋ทะลึ่งพรวดน้ำพุ่งออกจากปาก นั่งหอบหายใจแรงลำตัวโยน เขาเข้าไปลูบหลังให้เธอเบา ๆ 
           “ไป่ไป๋คุณปลอดภัยแล้ว หายใจลึก ๆ ครับ เขาปลอบเสียงอบอุ่น บีบแขนบีบขาให้เธอไปด้วย

ไป่ไป๋ตาเหลือกโผเข้ากอด เขาลูบหลังปลอบเบา ๆ

คุณเก่งมาก แทนปลอบไม่ขาดปาก

ฉันรีบถลาเข้าไปหา...           

ไป่ไป๋! ไม่เป็นไรนะ! ไม่เป็นไรแล้วลูบหน้าลูบหลังอย่างเป็นห่วง

เธอหันหน้ามาเบะปากร้อง

ฮือ!ๆๆ คิดถึงหม่าม้า! ฮือ!ฮือ!ฮือ!” เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น

น้ำตาของเธอบดขยี้ใจ ทำให้ฉันรู้สึกตัวว่าได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ คำว่าหม่าม้า สะท้อนในอก รู้สึกผิดและเสียใจที่เกือบทำให้น้องต้องตาย

แทนกอดเธอไว้แนบอก...

คุณไม่เป็นอะไรแล้ว เขาลูบหลังปลอบเธออย่างอ่อนโยน

ฉันขอโทษนะคะ ฉันผิดเอง ฉันเข้าสวมกอดเธอด้วยความรู้สึกเสียใจ

“พักกันไปก่อนนะ!” เขาลุกยืนแล้วถอยออกห่าง ก้มเก็บสัมภาระของตัวเองแล้วหมุนตัวจะเดินไปต่อ...

จะไปไหนคะ?” ฉันร้องถาม

เขาหยุดหันกลับมามองเหมือนชั่งใจ...

เรื่องของผม!” ว่าแล้วเขาก็หมุนตัวเดินไป

แหม...งอนเป็นผู้หญิงไปเลยนะ ฉันลุกขึ้นยืนแกะเสื้อแขนยาวที่มัดเอวไว้ห่อตัวให้ไป่ไป๋...

รอเดี๋ยวนะคะ ฉันไปคุยกับเขาก่อนฉันบอกแล้วรีบลุกวิ่งตามเขาไป ท้องไส้เสียดไปหมด นายแทนเดินตัวโย่งไปตามก้อนหินกรวดริมลำธาร

นี่คุณ! จะไปไหน? คุยกันก่อนสิ!” ฉันวิ่งไปกระชากแขน เขาถือไม้กอล์ฟและเศษผ้าอะไรไม่รู้ไว้ในมือ

เรื่องของผม!” เขาสะบัดแขนเดินต่อไป ฉันวิ่งตามไม่ลดละ ฉุดชายเสื้อให้เขาหยุดเดิน

“เหนื่อย!” ฉันทรุดนั่งหมดแรงหายใจไม่ทัน...

คุณจะไม่ช่วยพวกเราเหรอ? ไม่เห็นหรือไงว่า เราต้องการความช่วยเหลือ?” ฉันหายใจหอบแรง เขาหันมามองแวบเดียวแล้วสะบัดหน้าเดินต่อ

โห!..ผู้ชายอะไร ขี้งอนด้วย? ในใจของฉันต้องการจะง้อเขาให้ได้ คลานสี่ขาตามไป /เหนื่อยฉิบหายเลย/

“ฉันผิดไปแล้ว ให้อภัยฉันเถอะนะ...คะ” สู้ชีวิตน่าดู

ไม่อ่ะ! ผมไม่มีคุณสมบัติพอที่จะช่วยเหลือคนอื่น คุณทำให้ผมลังเลที่คิดจะช่วยคนเขาจะก้าวเดินต่อไป ฉันเห็นว่าไม่ทันแน่แล้ว ต้องใช้ไม้ตายทิ้งตัวลงพื้น

ฉันขอโทษนะคะที่เคยต่อว่าคุณ เคยดูถูกคุณ ลืมมันไปนะคะ ขอโทษนะคะ ฉันขอสำนึกผิดฉันคุกเข่าก้มหน้า ผู้ชายคนนี้ช่วยชีวิตของเรา 2 คนไว้ อย่างน้อยฉันต้องขอโทษและขอบคุณ ไม่ติดใจกับเขาแล้ว แต่ดูท่าเขายังติดใจอยู่ ไม่หันมามองหน้ากันเลย

อือ!...ลืมก็ได้เขาบอกแล้วเดินไปต่อ

อ้าว! ลืมแล้วจะหนีไปไหนอีก กลับมาสิ!” ฉันรีบลุกวิ่งเข้าไปหา อย่าเล่นตัวนักสิ เหนื่อยนะ!...

คุณจะไม่รับผิดชอบพวกเราเหรอ ที่ฉันต้องมาอยู่ตรงนี้ก็เพราะว่าคุณขับรถตกลงมานะ ฉันดึงแขน อย่าจากฉันไป อย่าทิ้งฉันไป...ได้โปรด

“เฮ้อ!” เขาทำหน้าระอา หันมาแกะมือออก ฉันหน้าชาที่เขาปฏิเสธ

คุณจะใช้คำว่ารับผิดชอบไม่ได้นะครับ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกอย่าง! ผมรับผิดชอบชีวิตใครไม่ไหวหรอกครับ แค่คนขับสิบล้อ ขอบคุณนะครับที่พูดเตือนสติเขาพูดเรียบ ๆ หันมามองสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก

ฉันเจ็บจี๊ดในใจรีบหลุบตาลง รู้สึกผิดและอายแทบแทรกแผ่นดิน แค้นฝังหุ่นซะด้วย

ก็ฉันขอโทษจากใจไปแล้วไงคะ หายโกรธกันนะ

ไม่!” เขาสะบัดมือแล้วก้าวขาเดินไต่ไปตามโขดหินริมธารน้ำไหล

ฉันไม่ละความพยายามเดินตามทุกย่างก้าว ดูท่าเขาไม่ยอมแน่ ๆ หันกลับไปมองไป่ไป๋นั่งอยู่ไกล ๆ สงสารน้องก็สงสาร กลัวก็เริ่มกลัว จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นตายยังไงนายก็ต้องอยู่กับฉัน           

คุณทิ้งฉันไม่ได้นะ คุณไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้ คุณต้องช่วยผู้หญิงอ่อนแอสองคนที่กำลังเดือดร้อน ฉันร้องอ้อนวอน

ผมมีสิทธิ์เลือกว่า จะช่วยหรือไม่ช่วยก็ได้เขาเดินต่อไม่หันมามอง

คุณดูฉันสิ! เห็นไหมทั้งเจ็บตัว ทั้งหิว ทั้งเปียก นะคะ! ช่วยหน่อยนะคะ!” ฉันไม่ละความพยายาม เดินโซซัดโซเซบนก้อนหินกรวดริมลำธารตามไปง้อ

ฉันจ้างคุณก็ได้ ฉันจ้าง! ฉันมีเงิน!” ฉันวิ่งเข้าไปดึงแขนอีกครั้ง

ใช่สิ!ฉันเงินมีเยอะแยะ….

อยากได้เงินหรือเปล่า? ฉันจะจ้าง ฉันจ้างคุณก็ได้ ฉันยื่นข้อเสนอ

พวกทุนนิยม จะใช้เงินฟาดหัวคนเหรอ? ถ้าจะจ้างก็จ่ายมาเดี๋ยวนี้! ตอนนี้!” เขาหันมาแบมือ ตอบด้วยเสียงยียวน

คุณคิดค่าจ้างเท่าไหร่ล่ะ? ฉันจะจ่ายให้

สำหรับคุณคนเดียว 200,000 เหรียญสหรัฐ ไป่ไป๋ฟรี!”เขายังมองด้วยสายตาเย็นชา แบมือกระดิกนิ้วขอเงิน ลำเอียงชัด ๆ

ตกลง! แต่ฉันจะจ่ายให้เมื่อออกจากป่านะ ตอนนี้ไม่มีเงินสดก็แค่เนี้ยะ!...ฉันขยับจะเดินกลับ...

งั้น!...ก็ช่วยตัวเองไปเถอะ ไม่มีเงินอย่าขี้โม้ ไม่ชอบ!” เขาต่อว่าแล้วหมุนตัวเดินหนี

มันจะดูถูกกันมากไปแล้วนะ...

ได้! คุณมีเครื่องรูดบัตรมั้ย? ฉันจะจ่ายให้เดี๋ยวนี้เลย ฉันอยากจะเอาบัตรเครดิตรูดปากเขาจริง ๆ

เขาชะงักหน้าเปลี่ยนสี...           

ไม่ใช่เพื่อน! อย่ามาตลก!” เขาหันมาทำสายตาดุใส่

เอ้า!...ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะกวนคุณนะ คุณอยากได้เงินตอนนี้เลยไม่ใช่เหรอ? /ได้แต่แอบคิดในใจ/

ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันมีแต่บัตรเครดิตฉันมองหน้าเขาอย่างจริงใจ คิดในใจก็คุณอยากทวงนี่นา ตัวเองพูดโง่ ๆ ออกมาก่อนนี่           

ไปเล่นขายของที่อื่นไป...เด็กน้อย!” เขาไล่หน้าตาเฉย ขาก็ไม่หยุดเดิน

“หึ๋ย! วืดเลย โคตรเกลียดคนที่เรียกฉันว่าเด็กน้อย ฉันจบดอกเตอร์มานะโว้ย ที่หน้าตายังเด็กก็เพราะฉันเก่ง โกรธมากอยากจะเอาหินทุบหัวสักที

ถ้าไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ฉันไม่ยอมเรื่องนี้แน่ แต่ตอนนี้ก็ต้องกัดฟันอดทนเอาไว้ เหลือไม้ตายสุดท้ายแล้ว..

ฟ้าจะมืดแล้ว ก่อไฟก็ไม่เป็น ข้าวก็ยังไม่ได้กิน เสื้อผ้าขาดหมดแล้ว เมื่อกี๊! เจอตัวอะไรก็ไม่รู้มันจะกัด ฮือ ๆ ๆ ไป่ไป๋จะอยู่ได้ยังไง?ฉันทิ้งตัวลงพื้นร้องไห้ ใช้ท่าไม้ตายของเด็กหวังว่าจะได้ผล แต่เขาเดินหนีไปอีก

ฉันต้องเอาเหยื่อเข้าล่อ แล้วเพิ่มเสียงดังขึ้นอีก

“ไม่ต้องช่วยฉันก็ได้ ช่วยไป่ไป๋ก็พอ”

เขาเดินไปไม่กี่ก้าวก็หยุด ฉันรีบก้มหน้าร้องไห้เสียงดัง แต่ใบหน้ายิ้มมาก รู้สึกเบิกบาน เสร็จฉันล่ะ! ปลากินเหยื่อแล้ว เขาเดินก้มเก็บเศษไม้ ผ่านหลังของฉันไปหาไป่ไป๋ ฉันเลยแหกปากร้องซะอีก 1 ชุดดัง ๆ เพื่อให้สมจริง ดีใจจังเลย

........................................................................

ฟ้าดับมืดลง กองไฟลุกโชนริมชายหาดหิน สายน้ำตกส่งเสียงดังกล่อมไพรตลอดเวลา มวลอากาศเริ่มเย็นมากขึ้นทุกวัน กำลังจะสิ้นสุดฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! แทนกับไป่ไป๋นั่งคุยริมลำธาร หัวเราะเสียงใส           
           ส่วนฉัน...อ้าปากจะไม่ขึ้นอยู่แล้ว ระบมจากแรงตบเรียกสติหลังจมน้ำ สงสัยเขาคงล้างแค้น ตบหน้าฉันซะแรงเชียว กรามโยกไปหมด
           
ได้แล้ว!ได้แล้ว! ได้แล้ว! ” ไป่ไป๋สดใสยิ้มกว้าง ดีใจลุกขึ้นปรบมือ เมื่อแทนตวัดปลาตัวเขื่องขึ้นจากน้ำ

เธอทำท่าจะตะครุบ แต่..

อย่าครับ! เดี๋ยวเบ็ดมันแทงมือเขาร้องห้ามแล้วเอาหินทุบหัวปลาเลือดสาด โคตรโหดเลย

หนูเอาเสียบไม้ให้ เธอยิ้มขยับเอาไม้ยาวไปเสียบปากปลายังดิ้นกะแด่ว ๆ แล้วเอาเข้ากองไฟ ยายเด็กจีนสวยโหดกินทุกอย่างเลย

ปลาย่างสุกจนไหม้เกล็ดดำหลายตัว เสียบไม้ส่งกลิ่นหอมน้ำลายสอปาก แอบมองด้วยความหิว แต่...ฉันยังนั่งเซ็งกับตัวเองและอึดอัดกับพฤติกรรมของเขา ง้ออย่างไร? เขาก็ไม่คุยด้วย ยังดีที่มีไป่ไป๋เป็นคนกลางคอยสานสัมพันธ์ให้ ฉันขอโทษแล้ว แต่เขาใจดำมากที่ไม่ยอมให้อภัยเลย

นี่คุณ!...กินนี่สิ ตรงนี้อร่อย มันดี นุ่มปากจังเขาชี้ชวนแล้วแกะเนื้อปลาขาวฟู ใส่ห่อใบไม้ทำเป็นกระทงให้ไป่ไป๋ กลิ่นปลาย่างหอมยั่วน้ำลาย               

ฉันแสบท้องได้แต่กลืนน้ำลายมองตาปริบ ๆ ความหิวกัดกินศักดิ์ศรีไปทีละนิด เพราะอย่างนี้นี่เอง ที่คนจำเป็นต้องยอมทำงานที่ต่ำต้อย ฉันก็ไม่ได้รับการยกเว้น ทนหิวไม่ไหวแล้ว เขาจะด่าว่าอะไรก็ช่าง ฉันไม่สนแล้ว...

ขอฉันกินมั่งสิ!” ฉันอ้อนผ่านไป่ไป๋

“นี่ค่ะ!” เธอยิ้มหวานยื่นห่อเนื้อปลามาให้ ฉันดีใจมากผวาเอื้อมมือไปรับ แต่ช้าไป...

เอามานี่!” เขามาพรากมันไปจากมือ

“ของผม ๆ จับมา หิวก็ไปหากินเอง ไป่ไป๋อิ่มแล้วเหรอ? ผมยังไม่อิ่มเลย เขายัดเนื้อปลาทั้งหมดเข้าปาก คนอะไรจะใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้

ย่าห์!” ไอ้...ไอ้...ฉันโกรธมากที่มาแย่งปลาของฉัน

ทำไม? ลืมตัวเหรอ? ไหนบอกว่าสำนึกแล้วไง? ผมจะลงโทษคุณให้อดอาหาร 1 วัน เขาเสียงห้วนหันมามอง ใบหน้าดุ

คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย ฉันทำผิดอะไร ถึงมาลงโทษฉัน?” ฉันไม่ง้อก็ได้ ในใจเดือดปุด ๆ โกรธมาก ลุกขึ้นไปหยิบเบ็ดของเขาไปนั่งริมธาร หย่อนเบ็ดลงน้ำ

เสียงสองของไป่ไป๋อ้อนออเซาะ....

แทนคะ! ขอให้อนนี่นิดนึงสิ เธอยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน ตัวเล็กนิดเดียวกินไม่เยอะหรอกเธอเข้าไปเกาะแขน

“เชอะ!” ฉันหากินเองก็ได้ ไม่สนใจหรอก พอทำดีด้วยหน่อย ทำเป็นเหลิง ฉันไม่ง้อคุณหรอก

ผมไม่ใช่ลูกผู้ชาย นิสัยไม่ดี ใจดำ คนปากดีขนาดนั้น ให้หากินเองดีแล้ว คุณอิ่มหรือยังเดี๋ยวผมแกะให้อีกนะ?”เขาเอาใจเธอน่าดู ปล่อยไว้ไม่ดีแน่ เดี๋ยวยายนี่แปรพักตร์หนีไปกับเขาแล้วทิ้งฉัน... ซวยเลยคราวนี้
          
ไป่ไป๋คะ มานั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ!” ฉันตีพื้นรีบเรียกเธอให้แยกออกจากกัน

ไป่ไป๋ของฉัน...เอาคืนมาเลย ยอมโดนยายน้องลวนลามดีกว่าโดนทิ้งไว้ในป่าคนเดียว

“ลูก Iceland Poppy ล่ะคะ? ฉันหาปลาเองก็ได้” ฉันจะเอามาเบื่อปลา

“ตกน้ำหมดไปแล้ว” เธอยิ้มกว้างเดินมานั่งข้าง 

“เฮ้อ! ตกเองก็ได้” หมดหวังจริง ๆ

อนนี่ตกปลาเป็นด้วยเหรอคะ?ยายน้องถามจี้จุด

สายน้ำเชี่ยวไหลแตกฟอง เสียงธรรมชาติกล่อมไพรมีมนต์เสน่ห์ แต่ฉันตกปลาไม่เป็น ฉันต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่ยอมเสียฟอร์มต่อหน้าเขาอีก          

ใครก็ตกได้ แค่นี้ไม่นับว่าเก่งหรอกฉันหมั่นไส้เขาเต็มทน ขอโทษก็แล้ว ยังไม่ยอมคุยกับฉันอีก หรือต้องคุกเข่าขอขมา...อีตาบ้าเอ๊ย!เอาเครื่องเซ่นด้วยมั้ยล่ะ?

ฉันต้องแสดงความแข็งแกร่งให้ไป่ไป๋เห็นว่าฉันเป็นที่พึ่งได้ สามารถเลี้ยงดูเธอได้ แต่ก็แอบเสียวลึก ๆ ในใจ กลัวเธอเปลี่ยนใจย้ายขั้ว ยายนี่ก็สนิทกับเขาง่ายจริง ๆ ดูจะชอบเขาไปเสียหมดทุกอย่าง

เสียงเขาเดินเหยียบก้อนหินกำลังมา...

ไป่ไป๋ครับ กินอีกไหม ผมจะแกะเนื้อปลาให้ ยังเหลืออ้วน ๆ อีกตั้ง 5 ตัวแน่ะเขาทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน

เขาทำราวผึ่งกางเกงยีนไว้ข้างกองไฟ ส่วนของฉันกับน้อง ถอดผ้าตรงนี้ไม่ได้ ใส่กันเปียก ๆ แบบนี้แหละ...คันตูดฉิบหาย

กินสิ! อร่อยจะตายเธอหันไปโบกมือ อีตานี่! ลำเอียงตลอด ฉันเมินไม่สนใจ เดี๋ยวก็ได้ปลาแล้ว

เขาลุกเดินมานั่งข้างไป่ไป๋แล้วยื่นห่อปลามาให้ กลิ่นมันช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน ฉันเหล่มองด้วยหางตา...       

กินระวังนะคะไป่ไป๋! ก้างมันแข็ง ติดคอถึงตายเลยนะ ฉันเตือนน้องด้วยความหวังดี ในใจก็อยากจะได้สักคำ แอบกลืนน้ำลาย           

ผมแกะก้างออกหมดแล้ว กินได้เลยหวานดี กินอิ่มแล้วที่เหลือก็ทิ้งน้ำไปนะครับ อย่าให้เหลือบนพื้นเดี๋ยวมดขึ้น เขาคุยกับเธออย่างสนิทปาก ฉันไม่สน..นั่งรอปลามากินเบ็ด ถึงจะหิวแต่ก็ยังไม่ตาย ฉันคิดบวกไว้ก่อน

เราจะออกไปได้ใช่มั๊ยคะ?” เธอยิ้มหวานดวงตากลมโตแววตาเป็นประกายคุยเสียงใส / ฉันไม่สน! ฉันจะรอปลา! ฉันจะจับปลากินเอง! ฉันหิว!

ผมก็ไม่รู้! แต่นั่นมันคือความหวังของเราไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้น ก็คงต้องตอบว่า ออกไปได้แน่นอนไอ้ขี้โม้เอ้ย ไป่ไป๋นั่งบิดยิ้มอายอยู่ข้างเขา

แทนคะ! ไม่มีเหยื่อ ปลาจะกินเบ็ดไหมคะ?” เธอหันไปถาม ฉันเอียงหูฟังทุกการเคลื่อนไหว ต้องคอยระวังระแวงเธอจะเบี่ยงเบนไปสวามิภักดิ์กับเขา 

ปลามันคงไม่โง่มากินเหล็กหรอก แต่...อาจจะมีคนโง่กว่า ที่คิดว่าปลาโง่น้ำเสียงเยาะเย้ยถากถาง

สิ้นเสียงของเขา ฉันแอบยกคันเบ็ดเอาขึ้นมาดู ไม่มีเหยื่อจริง ๆ ด้วย แต่จะทำไงได้คุยโม้กับไป่ไป๋ไปแล้ว โยนเบ็ดลงน้ำไปก่อน ไม่ให้เธอจับพิรุธ

ยัยน้องลุกมายกคันเบ็ดขึ้น...

อนนี่! รออีก 5ปีมันก็ไม่กินเบ็ดนี้หรอก เอาขึ้นเถอะ! กินนี่ดีกว่าเธอยิ้มส่ายหัวแล้วยื่นห่อปลามาให้ พร้อมเสียงบ่น

ไม่เป็น ก็ยอมรับไปเลยว่าไม่เป็น ไม่เห็นต้องโกหก ยอมคนอื่นซะบ้างก็ไม่เสียหายหรอก คนเราไม่ได้เก่งไปทุกอย่างนี่นา เธอบ่นแล้วหันไปยิ้มกับแทน ตอนนี้รักกันจังเลยนะ ฉันเสียวสันหลังวาบ กลัวเธอทิ้งจริง ๆ ต้องอดทน ๆ

ถ้าขอผมดี ๆ ผมก็ให้ แต่คุณเคยพูดขอผมสักคำหรือยัง? จะให้ผมชวนคุณกิน ผมคงทำไม่ได้ กลัวเนื้อปลาไม่ถูกปากเขานั่งแกะเนื้อปลาใส่ห่อใบไม้ // ก็ฉันขอโทษแล้วเห็นเดินหนีตลอด ฉันก็สมเพชตัวเองเหมือนกัน ขอใหม่ก็ได้…//

แทนคะ ฉันหิว ขอเนื้อปลากินหน่อยนะคะ” ฉันขออย่างสุภาพที่สุดแล้วนะ หัวโค้งแทบจะติดพื้น อ้อนวอนสุดชีวิต ถ้าคราวนี้เขาให้ฉันกินนะ ฉันลืมทุกอย่าง จะหายโกรธและจะพยายามทำดีกับเขา เหลือบมองปลาในมือของเขาแล้วกลืนน้ำลาย

กินน้ำไปตั้งเยอะแล้ว ยังหิวอีกเหรอครับ?” โอย..จะกวนประสาทไปถึงไหน เขายิ้มกวนแล้วหันไปตีมือกับไป่ไป๋ 

ฉันรู้สึกถึงความกดดันและสมเพชตัวเอง ฉันไม่เคยต้องง้อใครถึงขนาดนี้ ปรกติแค่มองก็มีคนเอามาถวายให้แล้ว ฉันพูดเมื่อไหร่ก็ตามจะต้องมีคนหยุดฟัง ทุกคนให้การยอมรับในความสำเร็จของฉัน

แต่การกระทำของเขา ช่างหยามเกียรติกัน สถานะของเขาตอนนี้อยู่เหนือกว่าฉันทุกกรณี ฉันเป็นเพียงตัวตลกในสายตาของเขา เหตุการณ์นี้มันก็สอนบางอย่างให้ฉัน

เขาแกะเนื้อปลาขาวฟูควันฉุย หอมกรุ่น หันมองมา

ผมมีเรื่องอยากจะบอกคุณ ผมรู้ตัวว่าด้อยกว่า รู้ว่าหาเงินเก่งสู้คุณไม่ได้ รู้ว่าเรียนต่ำกว่า รู้ว่าลำบากยากจนกว่า แต่คนจนอย่างพวกเรา ก็มีความสุขกับการที่พวกเราขาด พวกเราต่างพึ่งพากันเติมเต็มให้กันและกัน ยอมรับว่าคนเราเกิดมามีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่ากัน ไม่เอาฐานะหรือการศึกษามาวัดคุณค่าของคน อาชีพมันแค่เป็นตัวบอกรายได้เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือยังคงแกะเนื้อปลาให้

ฉันไม่อยากฟังในสิ่งที่เขาบอกหรอก ฉันหิว...ฉันอยากกินปลา ไป่ไป๋ขมวดคิ้วยื่นหน้ามา...

เก่งกว่า! ทำงานดีกว่า! ก็ต้องเหนือกว่าสิ! ไม่ถูกหรือไง?” ไป่ไป๋เสนอหน้ามาช่วย ดีมากสาวน้อยของฉัน

ฉันรวยกว่าต้องเหนือกว่าอยู่แล้ว ไม่งั้น!...เขาจะดิ้นรนเพื่อเป็นหมอกันไปทำไม? ทำงานหนักเพื่อความรวยกันทำไม?” ฉันตอบกลับเสียงเรียบเช่นกัน ฉันว่าเขานั่นแหละ! ไม่เข้าใจโลกมากกว่า ไพร่จะมาตีตนเสมอท่านไม่ได้ คนไม่เท่ามาตั้งแต่เป็นอสุจิแล้ว

คนอย่างคุณคงไม่เคยคิดช่วยคนตาบอดข้ามถนนเลยสินะ หรือคุณจะบอกว่าช่วยไม่ได้ อยากเกิดมาตาบอดเองอย่างนั้นหรือครับ? คุณรู้ไหมครับ ธรรมชาติให้คนเรามีมือสองมือ เพื่ออะไรกัน?” เขายังใจเย็นพูดไปเรื่อย มันเกี่ยวกันตรงไหน?

ฉันไม่อยากจะสวนว่า ความคิดอย่างนั้นมันเอาไว้ปลอบใจพวกคนจน คนที่ขาดถึงต้องช่วยเหลือกันไง โด่!...แค่นี้ก็คิดไม่ได้ /สายตาของฉันก็จ้องแต่ปลาในมือ เริ่มเข้าใจความรู้สึกของหมา เวลานั่งคอยอาหารจากนายแล้ว เมื่อไหร่จะให้กินสักที จะสอนอะไรนักหนา ฉันเรียนจบดอกเตอร์นะ/

ไป่ไป๋นั่งยิ้มมองเขาพูดอย่างสนใจ...           

ทำไมคะ! หนูก็ไม่เคยสงสัยในสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมา?เธอยิ้มหวาน ฉันรู้สึกขัดใจ จะไปถามให้เรื่องมากทำไม ฉันหิว!

เขายืดอกพูดต่อ ไอ้นี่ก็ขี้คุย เริ่มมือไม้ออกแล้วสงสัยจะคุยยาว...

มือหนึ่งยกสูงขึ้นเพื่อให้คนข้างบนดึงขึ้นไป ส่งอีกมือลงไปดึงคนที่ต่ำกว่าขึ้นมา คนที่ต้องการความช่วยเหลือยังมีอีกมากมาย แค่เขาโชคร้ายเกิดมาแล้วขาดมากกว่า แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า เขาชั่วกว่านะครับ ถึงคนจะจนแค่ไหน? เขาก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคุณ มีหัวใจ มีคนรักและครอบครัวเหมือนคุณเขาจ้องมองมาที่ฉันโดยตรง เหมือนตั้งใจจะเมมโมรี่ใส่หัวให้ฉันจำไปถึงชาติหน้าเลยมั้ง?

ฉันได้แต่ก้มหน้าก้มตาฟัง ๆ ไป ฉันไม่มีความจำเป็นต้องไปมองแบบนั้น ชีวิตใครก็ชีวิตมันสิ!อยากได้อะไรก็ไปดิ้นรนเอาเอง

“จ๊อก...กก! ครืด...ดด! ท้องก็ร้องไม่ไว้หน้ากันเลย เมื่อไหร่เขาจะพล่ามจบสักทีวะ ฉันหิว? สายตาก็แอบมองแต่ห่อปลา เมื่อไหร่จะส่งมาให้สักที

ไป่ไป๋ขยับอีก โอ้ย!ฉันจะบ้าตาย           

หนูเห็นด้วย! คนจนไม่ใช่คนเลว แต่คนรวยหรือคนมียศก็ไม่ใช่คนเลว ต้องได้รับเกียรติก่อนสิถึงจะถูก เนอะอนนี่?เธอก็คุยไปสิ จะส่งมาให้ฉันทำไม? ฉันไม่เนอะด้วยหรอก ฉันหิวจะกินปลา

ถ้าเราต้องเสียสละอะไรสักอย่าง คุณจะเสียสละให้ใครระหว่าง ลูกเศรษฐีแต่งตัวโก้ที่บอกว่า รีบไม่มีเวลา กับคุณป้าแก่ ๆ ที่ถือถุงแกงเดินงก ๆ เงิ่น ๆ ไม่มีลูกหลานคอยจูงมือครับ เขาถามไป่ไป๋

ช่วยป้า!” เธอบิดตัวยิ้มอาย.

ช่วยทำไม? คุณป้าจนและไม่มีเกียรติด้วย เขาเลิกคิ้วยิ้มมองเธอ สายตาของเขาดูอบอุ่นดี จะว่าไป ความคิดของหมอนี่ก็ดีเหมือนกันนะ

แต่ทำไม...ทีกับฉันถึงไม่ช่วยฟรี ๆ เรียกค่าแรงตั้ง 200,000 มันแพงมากนะ เขาหันมามองฉันอย่างไร้ความหมาย ฉันรำคาญสายตาของเขามาก อยู่ใต้แรงกดดันมันอึดอัดอย่างนี้นี่เอง            

อยู่ในป่า ความรู้ เงินหรือเกียรติยศของคุณ ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างครับ?” เขามองมาฉันรีบก้มหน้าหลบสายตา /ก็คุยกันไปสิ! มามองฉันทำไม? ฉันไม่ตอบถ้าตอบผิดหู ก็อดกินปลาพอดี/

ไป่ไป๋ขยับอีก ยายนี่จะอยากรู้ไปถึงไหนกันนะ?...

แต่ออกไปแล้ว ก็ใช้ได้ เธอก็จะชวนเขาคุยทำไมนักหนา ฉันหิว

นั่นก็หมายความว่า ทั้งเกียรติยศ ความรวย และอาชีพที่สูงส่ง มันต้องอยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่ได้ใช้ได้กับทุกที่และทุกเวลา แต่ถ้าคุณรู้จักคำว่า น้ำใจมันใช้ได้ทุกที่นะครับ คนยิ่งจนยิ่งมีน้ำใจเพราะพวกเขารู้ว่า ความยากจน ความหิว มันเป็นอย่างไร? มันโหดร้ายแค่ไหน?” เมื่อไหร่นายจะหยุดพูดสักที ฉันหิวและรู้แล้วว่าความหวมันน่ากลัว

“อย่าเอาอาชีพหรือฐานะมาวัดคุณค่าของความเป็นคนเลยครับ ถอดเสื้อผ้าออกหมด พวกเราแทบจะไม่แตกต่างกันเลย เขาบอกแล้วหันไปยิ้มยักคิ้วกับไป่ไป๋ ยายนั่นก็เข้าข้างเขาเหลือเกิน พยักหน้ายิ้มไม่หยุด

เขาหันมามองหน้าฉันอีกแล้ว เมื่อไหร่จะจบวะ?...

การที่คุณกล้าขอผมกิน ก็หมายความว่า ศักดิ์ศรีมันไม่มีอยู่จริง คุณแค่คิดไปเอง กินให้อิ่มนะครับ ขอตัวก่อน!” เขาบอกแล้วลุกเดินกลับไปนอนข้างกองไฟ ฉันรีบหยิบเนื้อปลาหย่อนเข้าปาก ไม่ได้ใส่ใจฟังปาฐกถา พยักหน้ารับไปส่ง ๆ อย่างนั้นเอง

ไป่ไป๋ขยับมาหยิบกินด้วย...

อนนี่คะ! ไม่ว่าอนนี่จะตัดสินใจยังไง? หนูก็เลือกข้างอนนี่นะคะ เพื่อนตายคนนี้เปลี่ยนข้างทันที น่ารักจังเลยคลานมาแอบกระซิบกระซาบ

“อือ! แต่ขอกินก่อนนะ หิวจนตาลายแล้วอย่าพึ่งมากวนใจตอนนี้

ถ้าดีกันได้ก็ดีนะ หนูก็สบายใจ มีผู้ชายอยู่ด้วยสักคนก็ยังอุ่นใจ ดูสิ! เขามีของกินดีกว่าด้วย อีกอย่างหนูคิดว่าเขาก็ดีนะ หนูชอบความคิดของเขานะคะเธอพูดพลางหันไปมองเขาที่ข้างกองไฟ 

อืม!..ฉันก็ชอบความคิดเขาเหมือนกัน คนอย่างนี้หลอกง่ายดี พวกคนโง่ชอบช่วยคนอื่น แต่ตัวเองต้องลำบาก โอเค! เห็นด้วย! กินก่อนล่ะ!...

ฉันไม่ได้มีปัญหาแล้ว เขาต่างหากล่ะที่ยังมีเนื้อปลาสดนี่ พอเผาแล้วหวานไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มเลย

แต่ถ้าเป็นหนู ๆ ก็โกรธว่ะ! อนนี่พูดซะแรงเลย

“หือ! ฉันหันขวับไปมองหน้า นี่!...ตกลงเธอย้ายข้างไปแล้วใช่ไหม? บอกกับตัวเองให้อดทนไว้ ๆ อย่าผลีผลาม กินให้มีแรงก่อน

ไป่ไป๋ลุกหนีไปนั่งข้างกองไฟ

แทนคะ! เมื่อตอนเย็นคุณอยู่ตรงไหน ถึงได้ช่วยหนูได้ทันเวลาพอดี?” เธอถามพร้อมโยนเศษไม้ลงกองไฟ

เขานอนพลิกตัวหันกลับ...           

ผมเดินข้ามไปก่อนคุณไม่นาน นอนพักอยู่อีกฟาก ได้ยินเสียงร้องเลยย้อนกลับมาดู เห็นไม้หักรู้เลยว่าเป็นคุณสองคน เขาคุยกับน้องอย่างใจเย็น ไป่ไป๋ยิ้มกว้างพยักหน้าหงึก

หนูขอบคุณมากเลยนะคะ คุณกระโดดจากบนโน้นลงมาเหมือนกันเหรอคะ?” เธอชี้ขึ้นไปยอดน้ำตกด้านบน

“ครับ!” เขาพยักหน้าแต่ฉันใจหายวาบ นี่เขากล้าบ้าบิ่นขนาดนี้เชียวหรือ? เขาตั้งใจกระโดดลงมาช่วยเลยหรือ? สิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งเดียวกัน ผู้ชายคนนี้ก็มีดีเหมือนกัน

ฉันเจ็บร้าวไปทั่วใบหน้า ลุกเอาเศษอาหารโยนลงน้ำ ล้างมือ ล้างปาก แล้วเดินไปนั่งคุยด้วย พอเขาหันมาเห็นก็พลิกตัวหันหลังทันที

ฉันนั่งลงหันไปยิ้มเก้อกับไป่ไป๋...           

ฉันก็ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตฉันไว้นะคะ แล้วจระเข้ล่ะ? ฉันเห็นจระเข้ด้วย ฉันพูดใส่หลังของเขา

“...........” เขานอนนิ่งเฉยไม่หันกลับมา เหมือนฉันนั่งพูดกับก้อนหิน

ไป่ไป๋นั่งอมยิ้ม...

นอนเถอะค่ะ! ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว แทนคะ! มีจระเข้ด้วยเหรอ? เธอหันมาดึงฉันลงไปนอนกอด

เขาหันขวับ...

“จระเข้กินปลาตัวเล็ก มันตกใจหนีไปแล้ว กินคนไม่ได้หรอกครับ” ทีไป่ไป๋ถามรีบตอบเลยนะ อย่างนี้ไม่ใช่ลำเอียงแล้ว มันรังเกียจกันนี่หว่า
            นอนบนก้อนหินกรวดแข็ง มันแทงหลัง นอนไม่ถนัดเจ็บทั้งตัว เจ็บไปทั้งใบหน้า ฉันอดทนกับความเจ็บมาตั้งแต่ตอนเย็น มันเริ่มเจ็บมาก เคี้ยวอาหารก็เจ็บ ไม่เคยมีใครมาตบหน้าฉัน ถามเขาให้หายข้องใจกันไปเลยดีกว่า เกลียดอะไรฉันนักหนา

คุณตบหน้าฉันแรงขนาดนั้น คิดอะไรในใจรึป่าว?” เรานอนคนละฟากกองไฟ เขาหันมามองนิ่งแล้วหันกลับ...

            ขอโทษ! ตอนนั้นผมแค่เป็นห่วงคุณ เขาตอบงึมงำ

ถ้ามีคราวหน้าอีก รบกวนแค่เขย่าตัวก็พอนะคะ เจ็บหน้าไปหมดแล้วนี่  ฮือฮือ!” ฉันร้องไห้นอนกอดไป่ไป๋ ทำไมต้องตบหน้าแรงขนาดนั้นด้วย

…………………………………………………………….

ดึกสงัด...กองไฟลุกโชนสว่างกลางชายหาด ทะเลหมอกเข้าปกคลุมหุบเขาขาวโพลน เสียงเรไรร้องระงม ละอองน้ำตกกระเซ็นโดนผิวชุ่ม

ฮือ!ฮือ!ฮือ!” ฉันตกใจตื่นขึ้นมาเมื่อได้เสียงน่าสยองเหมือนคนร้องไห้ดังมาจากแนวป่าด้านบน ขนลุกซู่พยายามเพ่งสายตา มองผ่านม่านหมอก

ไป่ไป๋! เสียงตัวอะไรก็ไม่รู้น่ากลัวจังเลยฉันสะกิดเรียกแล้วหันไปมองนายแทน เขานอนหลับบนผ้าปูนอนสีขาว มีผ้าห่มด้วย สบายกว่าใครเลย ฉันต้องทนนอนคันก้นกับกางเกงยีนที่เปียกน้ำ

ไป่ไป๋งัวเงียลืมตาขึ้นมานั่งฟัง...

ฮือ!ฮือ!ฮือ!”เสียงนั้นร้องอีกครั้ง ฉันขยับเข้ากอด

แต่...เธอลุกเดินข้ามกองไฟไปนอนข้างนายแทนเฉยเลย ฉันหันมองซ้ายขวารีบคลานไปนอนต่อจากเธอ เอาหลังเข้ากองไฟ       

ฮือ!ฮือ!ฮือ!” เสียงดังใกล้หู ฉันสะกิดไป่ไป๋

เธอขยับตัวงัวเงีย

“อีตาบ้าแทน! นอนละเมอ” เสียงเธออู้อี้

ศักดิ์ศรีที่เหนือกว่าไม่มีจริง ๆ นั่นแหละ คนอุปโลกน์มันขึ้นมาเองเพื่อเอาไปกดขี่คนอื่น ฉันขอให้ผ่านคืนนี้ไปเถอะนะจะเปลี่ยนนิสัยใหม่...

                      ...........................................................................................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม