หมวดหมู่ | The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2 |
ราคา | 0.00 บาท |
สถานะสินค้า | Pre-Order |
อัพเดทล่าสุด | 24 ม.ค. 2567 |
ป่าโบราณ ฉวีจิ่ง มณฑลยูนนาน
มุมมองสายตา ไป่ไป๋
ตุลาคม ค.ศ.2020
พวกเราเดินไต่ลงตามมาเรื่อย จนกระทั่งลำธารสิ้นสุดทิ้งตัวเป็นน้ำตกอีกครั้ง เส้นทางบังคับให้ขึ้นไปเดินบนสันเขา ทิ้งป่าทึบภูสูงไว้ด้านหลัง ลานหินโล่งยาวบนยอดเขาสุดลูกตา ท้องฟ้าใสเปิดโล่งสายลมเย็นพัดแรง แผ่นหินราบเรียบเป็นทางชัน เดินขึ้นยอดเขาอย่างสบาย ไม่มีหญ้าพันขา มองลงไปในเหวด้านล่าง ผืนป่าแออัดยัดเยียด แทนให้ไม้กอล์ฟมาคนละอันพอได้อุ่นใจ ฉันเดินปิดท้ายตามหลังพวกเขา...
“แทนคะ!คุณเอามันมาจากรถยนต์เหรอคะ?” ฉันชูไม้กอล์ฟในมือ เขาเดินหน้าสุดหันมายิ้มหวาน อีตานี่ก็ยิ้มเก่งจัง ใจดีเป็นบ้า
“ใช่ครับ! มันแข็งพอจะเป็นอาวุธได้” เขาบอกแล้วชี้ไปที่ห่อผลไม้ที่นาตาลีแบก
“ผ้านั่นก็ตัดมาจากถุงลมนิรภัย โชคดีได้ไฟแช็คมาด้วย ไม่ต้องแบกแบตเตอรี่หนัก ๆ” เขาบอกแล้วยิ้มขำ แทนเป็นคนใจเย็น ยิ้มเก่งและใจดี คอยทำโน่นนี่ให้ตลอด
ฉันเป็นหนี้บุญคุณผู้ชายคนนี้ใหญ่หลวง เขาเหมือนเทพมาโปรด ช่วยชีวิตไว้ได้อย่างหวุดหวิด เบาใจขึ้นมากที่ได้เห็นเขาเดินข้าง ๆ อย่างน้อยก็มีผู้ชายไว้สักคน ปัญหาตอนนี้มีอย่างเดียวคือคอยห้าม สองคนนั้นทะเลาะกัน
นาตาลีเดินกระฉับกระเฉงตามหลังแทน เธอโดนเขาแกล้งให้ถือผลไม้ ข้างหลังก็สะพายเป้ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง ใช้ไม้กอล์ฟดันพื้นเดินไปเรื่อย
“แทนคะ! เดี๋ยวเราต้องเดินลงไปข้างล่างอีกเหรอ?” ฉันวิ่งเข้าไปรวมกลุ่ม มองจากมุมนี้เหมือนเราอยู่จุดสูงสุดของโลก ปุยหมอกขาวพลิ้วเหมือนคลื่นน้ำ คลุมผืนป่าด้านล่าง
“ใช่ครับ! เรากำลังเดินลงไปเรื่อย ๆ หันไปมองข้างหลังสิ ขุนเขาพวกนั้นที่เราฝ่าฟันกันออกมา” เขาหันมาชี้ไปขุนเขาดำทะมึนด้านหลัง
“โอ้โห! เราเดินผ่านมันมาจริง ๆ เหรอคะ?”
เทือกเขาสูงตระหง่าน สลับซับซ้อนด้านหลังสีสวยลานตาของใบไม้ผลัดใบ เห็นแบบนี้แล้ว กำลังใจมาอีกมากโข เรามีความหวังที่จะรอดออกไป หายใจสะดวกดีจัง
“เราต้องเดินให้เจอถนน” เขาเดินนำหน้าแกว่งไม้กอล์ฟในมือ
“อนนี่หนักมั้ยคะ? หนูถือให้เองดีกว่า” ฉันหันไปดึงถุงผลไม้จากนาตาลีมาถือ เห็นว่าเธอถือมานานแล้ว
“ไม่ต้องค่ะ! ไม่หนัก!” นาตาลีก็น่ารัก พยายามสู้ชีวิตน่าดู เธอสงบปากลงไปเยอะ
“มือสั่นแล้วนะคะ” ฉันแหย่
“เอามานี่!” จู่ ๆ นายแทนมาคว้ามันไปสะพาย
เข้าทาง...ฉันรู้ว่า ถ้าฉันหยิบจับอะไร? เขาจะช่วยทุกครั้ง แต่ถ้านาตาลีทำอะไร? เขาจะมองเฉย ๆ
“เพื่อนของคุณจะรู้มั้ยนะว่า เราตกเขา? คุณคิดว่าพวกเขาจะตามหาเรามั้ย?” นาตาลีร้องถาม
“ผมไม่แน่ใจ แต่ผมส่งข้อความไปบอกแล้วว่า จะไปสิบสองปันนา พวกเขาต้องเอะใจกันบ้างล่ะ?”
ฉันดูโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลย ได้แต่เอามันมาถ่ายรูปวิวเก็บไว้ ไม่รู้จะได้พามันออกไปได้หรือเปล่า?
นาตาลีสะกิดแขนของแทน...
ฉันคิดว่า ถนนมันอยู่บนยอดเขามากกว่า เราเดินลงไปข้างล่าง มันก็ไม่เจอถนนน่ะสิ!” เธอให้ความเห็นตรงกันข้าม หันชี้ไปยอดเขาสูง
“คุณปีนไม่ไหวหรอก อีกอย่างที่สำคัญ เราต้องการน้ำ ยิ่งสูงยิ่งขาดน้ำ” เขายังตึงกับนาตาลี
แทนเก็บลูกน้ำเต้าแห้งมาทำเป็นกระติกน้ำให้พวกเราห้อยเอว เอาผ้าถุงลมนิรภัยทำถุงใส่ผลไม้ เศษผ้าที่เหลือก็เอามาให้ฉันพันหัวกันแดด
“เราต้องเดินกันอีกกี่วันเนี่ย?” นาตาลีก้มหน้าบ่นอุบอิบ
เขาหันขวับ...
“กี่วันก็ต้องเดิน!” เสียงห้วนทำให้นาตาลีหยุดตอแย
ฉันรีบเสนอหน้าเข้าหาเธอ.
“หนูสบายมาก หนูฝึกฝ่าหลุนต้าฝ่า แข็งแรงมาก หนูช่วยอนนี่ได้” ฉันเบ่งกล้ามอวด มีแฟนแล้วต้องโชว์หล่อซะหน่อย
นายแทนหน้าตื่นหันมองมา...
“อ้าว! ไป่ไป๋เป็นฝ่าหลุนกงเหรอ? ดีจังเลย” สีหน้าและแววตาของแทนเป็นประกาย ยิ้มกว้างท่าทางของเขาเปลี่ยนไป
“คุณรู้จักพวกเราด้วยเหรอคะ?” ฉันดีใจจังเลยที่เจอคนที่เข้าใจ
นาตาลีหันมามอง...
“ฉันก็สงสัยฝ่าหลุนกงของเธอเหมือนกัน มันคืออะไร?” เธอยังดูสดใสกระฉับกระเฉง
“พวกหนูทำกันแบบลับ ๆ พรรคคอมมิวนิสต์จีนมันกวาดล้างมาตั้งแต่ก่อนหนูเกิดอีก มันหาว่า พวกหนูเป็นภัยความมั่นคง”
ไอ้พรรคคอมมิวนิสต์มันออกโฆษณาชวนเชื่อไปทั่วโลกว่า ฝ่าหลุนกงเป็นลัทธิงมงาย เป็นพวกฝึกฝ่ามืออรหันต์ เพ้อเจ้อ และไร้การศึกษา
“จริง ๆ แล้วมันคืออะไรเหรอ?” แทนเดินเตะซี่โครงแห้งของสัตว์ใหญ่ให้พ้นทาง
บนสันเขาสูงแห่งนี้เต็มไปด้วยก้อนหินกลม กองกระดูกและกะโหลกสัตว์ป่ากระจายเกลื่อน เหมือนสุสานของสัตว์ป่า
“มันก็เป็นเพียงการฝึกตัวเองด้วยเคล็ดวิชาปรัชญา ไม่ใช่ศาสนาหรือลัทธินิกาย พวกเราไม่มีวิหาร ไม่มีวัด ไม่มีโบสถ์ ไม่มีนักบวช ไม่มีพิธีกรรม ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีการเข้ารีต ไม่มีสมาชิกภาพ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่มีพันธะผูกพันใด ๆ ทั้งสิ้น ใครจะฝึกหรือไม่ฝึกก็ได้ มีท่าฝึกออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างซ่อมแซมร่างกาย 4-5 ท่า หนูชอบท่า ฝ่ามือค้ำฟ้ามากที่สุด ฝึกเพื่อให้เลือดลมเดินดี” ฉันถือโอกาสแสดงท่าทางให้พวกเขาดู
“ฮ่าฮ่าฮ่า! คารวะท่านจอมยุทธ” แทนหัวเราะชอบใจ
นาตาลีเหล่ตาเอียงคอมอง…
“แล้วทำไมต้องโดนกวาดล้าง แค่ฝึกตนและออกกำลังกาย” เธอหันมาถามแล้วแหงนมองขึ้นฟ้า ฝูงนกใหญ่สีดำถลาลมอยู่เบื้องบน
“คำสอนมันไปย้อนแย้งกับอุดมการณ์ของพรรคฯ คิดกันคนละมุม หนูชอบวิถีแบบนี้ มันก็คล้ายกับเอาศาสนาพุทธและลัทธิเต๋ามายำรวมกัน ปฎิบัติแล้วรู้สึกเย็นสบายภายใน จิตใจมีความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หนูไม่อยากไปท่องจำอุดมการณ์บ้าบอ ของพรรคคอมมิวนิสต์”
“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!” แทนหัวเราะส่ายหน้า...
“พวกมันใช้อำนาจบังคับไม่ให้ฝักใฝ่ความเชื่ออื่น นี่แหละ! คอมมิวนิสต์ที่แท้ทรู แต่มีคนชื่นชอบนะ”
“ฉากหน้าที่มันสร้างขึ้นมาสวยหรู ลองมาอยู่ใต้อาณัติของมันสิ แล้วจะร้องไม่ออก กลับไปบอกพวกเขาด้วย อย่าโง่มาเลย” ถ้าห้ามได้ ฉันจะบอกว่า ไปติดต่อกับโลกเสรีเถอะ อย่าพามวลชนเข้าซอกเลย มันหายใจไม่ออก
“พวกผู้มีอำนาจ มันก็ลอกแบบไปใช้ ชาวบ้านไม่ได้ต้องการหรอก” นายแทนคงจะไม่ชอบเหมือนกัน น้ำเสียงเหมือนจะแอนตี้มาก
“พรึบพรับ!พรึบพรับ!” ฝูงนกใหญ่ลอยวนบนท้องฟ้า โฉบเล่นลมลงมา...
“นั่นนกอะไรคะ ตัวใหญ่จัง?” ฉันชี้ขึ้นไปนฟ้า
นาตาลีแหงนคอ เอามือป้องหน้า...
“นกแร้ง คอนดอร์ แอนดีส ปรกติมันจะอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดิสที่ทวีปอเมริกาใต้ หน้าตาคล้าย ๆ ไก่งวงลำคอขาว ปีกดำ เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์และเป็นนกบินที่ตัวใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ ปีกกว้างกว่า 3 เมตร มันสามารถยกของที่หนักกว่า 50 กิโลได้สบาย ๆ ความสามารถพิเศษอีกอย่างก็กระพือปีกครั้งเดียว ร่อนไปได้ 100 กิโลเมตรสบาย ๆ” เธอแหงนมองตามมัน
นี่ไง!...ความรู้ที่เธอมีก็ใช้ประโยชน์ได้ นาตาลีของฉันเหมือนตู้ตอบคำถามอัตโนมัติ ถามอะไรตอบได้หมดเลย ฉันสังเกตว่า นาตาลีรู้เรื่องสัตว์แปลก ๆ เยอะมาก ถามอะไรก็ตอบได้ ไม่แพ้นายแทนเหมือนกัน
แทนหันมา...
“อีแร้งมันไม่ทำร้ายคนหรอก ไม่ต้องกลัว ไป่ไป๋เล่าต่อสิ ฝ่าหลุนกงน่าสนใจกว่า” แทนไม่ให้ราคานกแร้งเลย
“พวกพรรคคอมมิวนิสต์มันกลัวไปเอง พวกเราก็แค่นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย ไม่เห็นมีอะไร หนูสรุปเองนะว่า คอมมิวนิสต์มันกลัว มันออกกฎหมายดัดหลังให้ฝ่าหลุนกงเป็นฝ่ายผิด ยัดเยียดความตายให้กับผู้ฝึก โหดร้ายมาก”
“มันกลัวอะไรเหรอ?” นาตาลีถามตาใสซื่อ
“จำนวนคนที่ฝึกฝ่าหลุนกงกระจายไปมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลกและเฉพาะในจีน ก็มีผู้ฝึกมากกว่า100 ล้านคน มากกว่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีแค่ 90 ล้านคนเอง มันกลัวว่า พวกเราจะยึดอำนาจการปกครองมั้ง? จึงป้ายสีให้เป็นปฏิปักษ์ ให้ลูกสมุนมาไล่ฆ่า มันกลัวจะเสียอำนาจ อย่าลืมว่าคนจีน1,400 ล้านคน ไม่ได้ชอบพรรคคอมมิวนิสต์ทุกคน พวกมันก็เป็นเพียงกลุ่มคนที่ใช้อาวุธและกฎหมายกำจัดคนเห็นต่าง พวกมันทำอะไรก็ไม่ผิด มันเลวมาก สองมาตรฐานชัด ๆ” ฉันเกลียดพวกมันมาก ยิ่งพูด ยิ่งขึ้น พวกเจ้าหน้าที่รัฐก็คอยกดขี่ชาวบ้าน
“พรรคคอมมิวนิสต์ เก่งเรื่องโฆษณาชวนเชื่ออยู่แล้ว ข่าวที่ผมได้ยินมามันกล่าวหาว่า พวกคนที่ฝึกเป็นพวกไร้สมอง คนยากจนไร้การศึกษา ผมก็ไม่เชื่อว่า ฝ่าหลุนกงไม่ดี มันต้องมีดี ไม่อย่างนั้นคนจะเข้ามาศรัทธากันขนาดนี้เหรอ? ผมเองก็ไม่ชอบเผด็จการ ถ้าไม่ยอมมันก็ฆ่า ถ้ายอมมันก็กดหัว ความรุนแรงมาจากรัฐสร้างสถานการณ์ทั้งสิ้น มันเข้าไปก่อกวนเขาก่อน พอเขาป้องกันตัวเอง มันเข้าบดขยี้ทันที อ้างว่าเป็นภัยความมั่นคง บ้านผมก็มีคล้าย ๆ กัน” แทนพูดอย่างนี้แสดงว่า เขาต้องชอบการเมืองแน่ ๆ เขาเข้าใจความรู้สึกของฉัน เหมือนเคยอยู่ที่นี่มาก่อน
“หนูก็ไม่ชอบ” ฉันชอบใจมากที่เขาเข้าใจ หันไปถามนาตาลีที่รัก...
“อนนี่ล่ะคะ?”
“ฉันขออยู่ฝ่ายรัฐ ฉันไม่สนใจการปกครอง ใครจะใหญ่ก็ช่างมัน เลี้ยงฉันให้สบายก็พอใจแล้ว” เธอตอบหน้าตาเฉย
แทนคิ้วขมวด หันมาเหล่มอง...
“ยังไงเหรอ แม่ชนชั้นสูง?” นายแทนเสียงสูงเดินปรี่มาเลย
“อ้าว! ก็ฉันไม่อยากวิ่ง ฉันเห็นมีการประท้วงทีไร ผู้ประท้วงต้องวิ่งทุกที ไม่มีการประท้วงไหน ที่ไม่มีคนตาย” นาตาลีตอบยิ้ม ๆ แล้วเมินหน้าหนี เหมือนตั้งใจจะกวนประสาทนายแทน
“หนูไม่ชอบมันหรอกพรรคอมมิวนิสต์ มันสองมาตรฐาน คนที่อยากไปเป็นราชการก็ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคของมัน ที่นี่กับเกาหลีเหนือไม่ได้ต่างกัน เพียงแต่ที่นี่มันกว้างกว่า ข่าวมันก็ออกไม่ทั่วถึงหรอก และส่วนใหญ่พรรคฯ มันเซนเซอร์ก่อนปล่อย”
“ผมเข้าใจ ที่บ้านผมก็มีอย่างนี้ รัฐใช้ทหารเข้าทำลายวัดและจัดการกับภิกษุที่มีคนศรัทธา โดยข้อกล่าวหามั่ว ๆ นักข่าวฝ่ายรัฐก็ช่วยกันประโคมตี สุดท้าย!...พระองค์นั้นเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้? หายไปเลย ถ้าผิดจริงทำไมไม่จับให้ได้ แต่ที่น่ากลัวแน่ ๆ ไม่ใช่พระ แต่เป็นทหารถืออาวุธมากกว่า ดูเหมือนตั้งใจเข้าปล้นเงินวัด ในมุมกลับกัน...พระไม่เคยเอาปืนไปจ่อหัวใครหรือบังคับให้ศรัทธา” แทนพูดแล้วพยักหน้าหงึก
พวกเราเดินข้ามสันเขามากว่าครึ่งทาง สันเขาราบเรียบเหมือนเขียงกว้างใหญ่ เริ่มมองเห็นแนวป่าอีกด้านไกล ๆ
“แต่หนู ไม่ได้ชอบการเมืองนะคะ หนูฝึกเพราะหนูว่ามันดีกับสุขภาพร่างกาย หนูนั่งสมาธิเป็นด้วยนะคะ” ฉันคิดแค่นั้นจริง ๆ
นาตาลีโพล่งออกมา...
“พวกผู้นำนั้นก็แค่คนธรรมดา มีครอบครัว มีความรักไม่ได้กินเนื้อมังกรเป็นอาหารสักหน่อย คุณลองไปเข้าใจฝ่ายรัฐบ้างสิ จะได้เข้าใจการปกครอง ถ้าเป็นผู้ปกครองแล้วต้องลำบากใครจะเป็น ใคร ๆก็ทำเพื่อครอบครัวทั้งนั้น” นาตาลีวางระเบิดแล้วเดินหลีกออกไป
นายแทนขบเขี้ยว หันมองตาม...
“อะไรของคุณ? พูดแปลก ๆ แบบนี้สองรอบแล้วนะ สงสัยพวกเดียวกับเจ็ทโด้ ไอ้พวกขวาจัด บ้าอำนาจ ขี้โกง” แทนหัวเสีย
แต่นาตาลีไม่สน หมุนหันมาหาฉัน...
“อ๋อ!...ที่เธออยากไปเกาหลี เพราะแบบนี้เอง”
“ใช่เลยค่ะ! ส่วนหนึ่งก็มาจากความเหลื่อมล้ำแหละค่ะ ที่ไหนมีความเหลื่อมล้ำ ที่นั่นไม่มีกฏกติกาที่เป็นธรรม”
“ที่ไหนมันก็มีความเหลื่อมล้ำ มันไม่ได้อยู่ที่ระบอบการปกครอง มันอยู่ที่จิตสำนึกของผู้นำ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่โทษเครื่องมือ” เธอเดินหนีไปอีก ในมุมของเธอก็ถูก
“ไปเกาหลีทำไมเหรอครับ?”
“ไปออดิชั่นเป็นเด็กฝึกค่ะ หนูอยากร้องเพลงบนเวทีสากล หนูจะร้องเพลงให้ก้องโลกไปเลย” ฉันยิ้มให้กับฝันของตัวเอง แล้วรู้สึกผิดปรกติบางอย่าง เงาดำจากด้านบนวูบลงมาทาบทับร่างของนาตาลีที่เดินแยกเดี่ยวออกไป
“พรึบ! พรึบ! พรึบ!” นกแร้งยักษ์ บินวนเหนือหัวของเธอ
ทันใดนั้น...
“เฮ้ย!” ก้อนหินกลมลอยละลิ่วลงมา ฉันวิ่งสุดชีวิต...
“อนนี่ระวัง!” เข้าไปผลักหลังของนาตาลี
“ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ!” ก้อนหินตกลงมาถี่ยิบเหมือนฝนดาวตก
“โอ๊ย!” แทนโดนหินตกเฉี่ยวหลัง เซถลา…
“วิ่ง!…งงง!!” เขาแหกปากลั่น วิ่งนำหน้าทุกคน
“วิ่งเร็ว อนนี่!”
“พรึบ!” นกแร้งใหญ่โฉบลงมา กรงเล็บเจาะที่ไหล่สองข้างของเธอ “ช่วยด้วย! อะไรอีกล่ะเนี่ย?” เธอร้องเสียงหลงดิ้นหนี กรงเล็บเกี่ยวติดกับเป้สะพายหลัง
“พรึบ! พรึบ! พรึบ!” ลำตัวของเธอกำลังลอยสูงจากพื้น
“จะไปไหน?” ฉันไม่รีรอกระโดดเข้ากอดเอวของเธอ
“วูบ!วูบ!” แรงกระพือปีกของมันมหาศาล ดึงเราสองคนลอยขึ้นจากพื้น
“เหวอ! แทนช่วยหนูด้วย” ขาฉันห้อยต่องแต่ง
“พรึบ! พรึบ! พรึบ!” มันกระพือปีกดึงชักกะเย่อกับเราสองคน
“ไปเลยนะพวกมึง!” เขาง้างไม้กอล์ฟ วิ่งเข้ามากระโดดใส่...
“โป๊ก!” เหล็กกระทบเกล็ดหน้าแข้งของมันดังสนั่น
“ว้าย! โอ๊ย!” เราร่วงลงมาพร้อมกัน
พอพลิกตัวแหงนมองขึ้นฟ้า เยี่ยวจะราด...
“โอ้โห!” ฟ้าดำมืดเลย ปีกใหญ่ยาวบินวนลงมาต่ำ
“ลุกเร็ว! ต้องวิ่ง” แทนยื่นสองมือมาดึงให้ลุกขึ้น
“ไป! ไป! ไป!”
“พรึบ” มันโฉบลงมาอีกครั้ง เขาง้างไม้กอล์ฟซัดเข้าเต็มปีก
“อั่ก!!” มันร่วงลงมาชักดิ้น
เขาหันมาชี้ไปที่ชายป่าอีกด้านของสันเขา...
“วิ่ง!….งงง!!!” เสียงของเขาสะท้อนก้องป่า ไม่ว่าพวกเราจะเดินไปทางไหนเป็นต้องได้แหกปากอย่างนี้ทุกที
“แทน!...ไหนคุณบอกว่า แร้งมันไม่ทำร้ายคนไงล่ะ?” ฉันวิ่งหนีเอาไม้กอล์ฟกวัดแกว่งไล่ฝูงนก พวกมันมากกว่า 30 ตัวผลัดกันโฉบลงมา เป้าหมายของพวกมันอยู่ที่นาตาลี เธอตัวเล็กที่สุด วิ่งหลบข้าง ๆ แทน
“ก็เคยดูในสารคดี เห็นว่ามันเป็นสัตว์กินแต่ซากศพ” เขาบอกเสียงสั่น ก้าวขาวิ่งคอยหันมาตีไม้ใส่นกแร้ง
นาตาลีหน้าตื่น วิ่งแหกปาก...
“มันเป็นสัตว์กินเนื้อ คุณไม่สังเกตบนพื้นที่เดินมาเหรอไง? มีแต่โครงกระดูก บนสันเขานี้คงจะเป็นโต๊ะอาหารของแร้งฝูงนี้ พวกเราหลงขึ้นโต๊ะมาเป็นอาหารให้มันน่ะสิ! คุณรับผิดชอบเลยนะ ไอ้ขี้โม้!!” เธอวิ่งโกยหน้าตั้ง
“ถึงว่าสิ! เส้นทางมันถึงบังคับให้เราเดินขึ้นมาเดินบนนี้ แปลกใจเหมือนกัน ทำไมไม่มีสัตว์ป่าเลย” นายแทนเสียงอ่อย จ๋อยแดกไปเลย
“เฮ้ย! ไปไกล ๆ เลย จับได้กูจะย่างมึงแดกให้หมดเลย” เขาวิ่งตามไปซัดไม้ใส่ที่แร้งที่กำลังจู่โจมนาตาลี
“อั่ก!!อั่ก!!อั่ก!!” เขาซัดไม้กอล์ฟเข้าเต็มลำคอ เจ้านกแร้งหัวหงอนร่วงไถลไปกับพื้น อีกตัวบินโฉบนาตาลี…
“โอ๊ย!” เธอล้มกลิ้ง ฉันผวาเข้าไป...
“อนนี่กอดคอหนูไว้ อีกไม่ไกลแล้ว” ฉันพยุงเธอวิ่งต่อ
“มาสิมึง! กูจะกินมึงมั่ง!” เขาโบกไม้คอยไล่ ไม่ให้มันโฉบลงมา
“โอ้ย! ตามไม่เลิกเลยนะ” เราสองคนทุลักทุเล วิ่งเซไปมา พวกมันเข้ารุมทึ้ง
“แทน!...ช่วยหนูด้วย” กลิ่นเหม็นสาบจากแรงกระพือปีกขมคอ
“ไป่ไป๋!...วิ่งเข้าป่าไป” แทนวิ่งเข้ามาคว้าตัวนาตาลีขึ้นอุ้ม
“เฮ้ย!” ฉันใจแวบ นายมาอุ้มนาตาลีของฉันได้ยังไง?
แต่สุดท้าย...เราก็หนีพวกมันพ้น เข้ามาแอบพักเหนื่อยหลังต้นไม้ใหญ่ มองย้อนกลับไปที่สันเขายาวที่ผ่านมา เจ้าแร้งตัวที่เขาตียังดิ้นกระแด่ว ๆ ไกลออกไปราว 100 เมตร
“แทนคะ! ข้อมูลของคุณไม่แม่นเลย มันจะกินพวกเราด้วย” ฉันต่อว่า กลัวจนใจสั่นไปหมด
เขาหันมา ยิ้มเก้อ...
“ผมก็ไม่รู้จักมันหรอก แค่เคยเห็นในสารคดี” เขาก้มหน้ายิ้มอาย เวลาทำผิดก็อายเป็นเหมือนกันนะ
นาตาลีจิ้มแขนของเขา....
“คุณคงไม่เคยเห็นที่มันจับสัตว์บินขึ้นไป แล้วทิ้งลงมาให้กระแทกพื้นตายก่อนจะกินซินะ นกพวกนี้เล่ห์เหลี่ยมเยอะมาก มันกินไส้พุงก่อนแล้วปล่อยให้เนื้อเน่า ค่อยกลับมากินซาก ไอ้พวกนี้มันใหญ่กว่า 3 เมตรที่ฉันบอกอีกนะเนี่ย!” นาตาลีพยายามเอียงคอมองดวงตาของเขา นายนั่นก็หลบเป็นลิง คงจะอายเพราะมั่วข้อมูล
“อนนี่ไม่เป็นอะไรแล้วนะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ?” ฉันเข้าสำรวจร่างกายให้เธอ ต้องเอาใจที่รักสักหน่อย ขวัญเสียหมดแล้ว
“เจ็บไหล่!” เธอเอนตัวมาอ้อน ฉันรีบเปิดเสื้อดู...
“ไม่เป็นอะไรค่ะ โดนข่วนนิดหน่อย”
“ฝ่ามือค้ำฟ้าของฝ่าหลุนกง ไม่ได้ช่วยอะไรเลย” นาตาลีบ่นเบา ๆ
“หนูลืม มัวแต่วิ่ง อิ!อิ!” ฉันอมยิ้มขำตัวเอง รอดตายมาได้อีกครั้งแล้วนะ แอบคิดในใจ...ถ้าออกไปได้ ฉันจะหันหลังให้กับกิจกรรมเดินป่าทุกชนิด โคตรเหนื่อยเลย
แทนเดินเข้ามาด้อม ๆ มอง ๆ นาตาลี สายตาของเขาเป็นห่วง ถึงแม้เขาจะแขวะเธอบ่อย ๆ ส่วนฉันเริ่มระแวงที่เขามาอุ้มเธอ ทะเลาะกันไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน นายเป็นอย่างนี้ต่อไปดีแล้ว ไม่ต้องมายุ่งกับแฟนของฉันเป็นดีที่สุด ฉันเองก็ยังไม่ได้รวบหัวรวบหางสักที ยังไม่เจอที่เหมาะเลย
“ไหวมั้ยคุณ?” เขาร้องถามแล้วแหงนมองฟ้า
นาตาลีไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แค่ถลอก…
“ไม่ไหวค่ะ” อ้าว!...เธอทิ้งตัวเฉยเลย
“ไป่ไป๋เดินลงไปทางนี้ ผมได้ยินเสียงลำธารข้างล่าง” เขาชี้ไปที่พุ่มไม้ด้านข้างมีทางเล็ก ๆ ลงไป ฉันเข้าประคองนาตาลีให้ลุกยืน
แต่...
“คุณลงไปก่อน เดี๋ยวผมอุ้มลงไปเอง”
ฉันผวาวูบ...
“ไม่ต้องเลย! หนูอุ้มไหว?” ฉันกางสุดแขน ของ ๆ ฉัน นายไม่ต้องมายุ่งเลย
“แน่ใจนะว่าไหว?” เขาอมยิ้ม
“อื้อไหว! คุณลงไปก่อนเถอะ” ฉันรีบไล่ให้ไปไกล ๆ เขาหันเอาไม้กอล์ฟตวัดยอดหญ้าเดินลงไป
“อนนี่ขี่คอหนูสิ!” ฉันตั้งหลักให้เธอขึ้นหลัง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเดินไหว แค่จะหลอกขี่คอไอ้หมอนั่นมัน กวนตีนนัก” นาตาลีอมยิ้ม
“ทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ! เราเป็นแฟนกันแล้ว จะไปขี่คอคนอื่นได้ยังไง? ดื้อเหมือนกันนะนี่” ฉันลูบหัวอย่างอ่อนโยน
“ตกลง เราเป็นแฟนกันแล้วจริง ๆ ใช่มะ?” เธอเงยหน้าสงสัย
“อื้อ!ใช่สิ” ฉันพุ่งเข้ากอดหอมแก้มรัวรัว มั่วไปก่อน
“เธอยังกัดปากฉันอยู่เลย จูบเป็นแล้วเหรอ?”
“บ้า! อายนะ ของอย่างนี้เขาไม่พูดกันหรอก แทน! รอหนูด้วย” ฉันใจเต้นโครมครามรีบเดินหนี ฉันก็จำ ๆ มา ทำไม่เป็นหรอกแค่อยากมีแฟน
เธอส่งเสียงตามมา ทำเอาฉันอยากจะบินหนี...
“แยกแยะระหว่างจูบกับทำ CPR ได้รึยัง มันไม่เหมือนกันนะ?”
“……….” บ้า ๆ ๆ ๆ นาตาลีบ้า โคตรอายเลย
“จะรีบไปไหน?” เธอวิ่งตามมาดึงเสื้อ อายจังเลย แต่ต้องแกล้งทำเก่งไว้ก่อน
“เออน่า ช่วยกันฝึกเดี๋ยวก็เป็นเองแหละ ไปกันเถอะ เดี๋ยวตามเขาไม่ทันนะ” ต้องเอาตัวรอดไปก่อน เราสองคนกอดเอวกันเดินลง
ฉันไม่ได้มีเป้าหมายเหมือนคนอื่น ฉันตามมาเพราะชอบนาตาลี เราต้องคอยช่วยเหลือกันในยามยาก ความรักของฉันเดิมพันสูงมาก ต้องเสี่ยงตายเหมือนกันกว่าจะได้มา ต้องหาวิธีรวบรัดจัดการนาตาลีเป็นของเราก่อน/ อย่าเผลอก็แล้วกัน...ฉันมั่วแน่
.......................................…………………………………………หน้าที่เข้าชม | 12,859 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,975 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |