The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2 ตอนที่ 18

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2 ตอนที่ 18
หมวดหมู่ The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 31 ม.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


ป่าโบราณ ฉวีจิ่ง
  มณฑลยูนนาน

มุมมองสายตา นาตาลี

ตุลาคม ค.ศ.2020

อนนี่! ซวยแล้ว ดูนั่นสิ! ตัวอะไรคะ เสียงตื่นตระหนกของไป่ไป๋ปลุกความตื่นตัว เธอขึ้นไปนั่งยองบนก้อนหิน ชี้นิ้วไปกลางหาดด้านซ้ายทางน้ำตก แสงจันทร์ทำให้เห็นเงาตะคุ่มของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่กำลังมาเยือน

หวาย!” ฉันนั่งแทะปลา รีบโยนทิ้งวิ่งไปตะปืนก้อนหินหนีตาย

ตัวอะไรคะ?” เธอคว้าแขนหน้าตื่น    

มังกรไร้หู ไอ้นี่แหละ!...มันเอาหางฟาดแทน หัวใจของฉันเริ่มรั่วความกลัวสุมหัว สายตาจ้องไปที่สัตว์เลื้อยคลาน 2 ตัวที่กำลังแลบลิ้นเดินเข้ามา         

มันมาตามไข่หรือเปล่า? แทนดื้อไปเอาของมันมาทำไม ก็ไม่รู้?” ไป่ไป๋หน้าตาตื่น       

ไข่ของมันอยู่ที่ไหนคะ? ฉันร้องถาม กวาดสายตามองไปที่พื้น ไข่สองใบที่แทนหิ้วมายังคงวางอยู่ด้านหน้าเพิง เจ้าสองตัวเดินเข้ามาช้า ๆ
           "
นั่งเงียบ ๆ นะ อย่าส่งเสียงหัวใจเต้นแทบระเบิด ก้มมองลงไปด้านล่าง แทนยังหลับไม่ได้สติ        

มันจะกินหนูหรือเปล่า? หนูกลัว!” ไป่ไป๋ลดเสียงกระซิบ  

มันคงมาเอาไข่ ฉันสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้ มันเดินทะมึนเข้ามาใกล้ เราสองคนกอดกันกลม ใจเต้นรัว

แทน! ฟื้นสักทีสิ หนูกลัว ไป่ไป๋พูดเสียงสั่นเบา ๆ

ทันใดนั้น...      

เฟี๊ยว! ” เสียงพู่หางพุ่งมาที่เรา ฉันกอดไป่ไป๋ทิ้งตัวหลบ หลังคาเพิงไหวยวบ...         

“เหวอ!!

โครม!!!!” หลังคาก้านมะพร้าวรับน้ำหนักไม่ไหว หักโครมลงไป ทับนายแทนที่นอนป่วยอยู่ด้านล่าง

ฉันต้องทำหน้าที่พี่ คิดได้อย่างเดียว ต้องหนี หันไปคว้ามือไป่ไป๋
           “เจ็บไหมคะ? วิ่งเร็ว! เดี๋ยวมันเข้ามาเราวิ่งจูงมือกันออกจากเพิงลงไปชายน้ำทางด้านขวา คันปากยิบอยากท่องคาถา                      

ไปไกล ๆ เลย!” ไป่ไป๋แหกปากลั่นวิ่งตาม 

“คลึก!คลึก! เจ้ายักษ์สี่ขาทั้งสองตัว ตีนตะกุยทรายกระจุย วิ่งตามมา         

ไป่ไป๋วิ่งหนีให้ไกลจากเพิงก่อน เดี๋ยวมันกินแทน ฉันหันกลับไปมอง เจ้าสองตัวทะยานเข้ามา

“จ๊าก!!!... เราวิ่งสุดกำลังเรียบชายน้ำไปทางเหนือ

อนนี่ทำไมมันวิ่งเร็วจังเลย ไป่ไป๋ร้องลั่นท้องน้ำ

“เราเก่งกว่า” ฉันสับขาอย่างไม่คิดชีวิต โดนวิ่งตลอดจนชินแล้ว
            แสงสลัวยามค่ำทิวไม้ป่าดำคลึ้ม มองเห็นฝูงสัตว์น้อยใหญ่ลงกินน้ำริมชายหาดลานตา...

กรรจ์!” เสียงสัตว์ใหญ่ขู่คำราม 

“ย่าห์! เราเบรกตัวโก่ง

“............” จ้องฝ่าความมืดไปที่ฝูงสัตว์ มองหาเจ้าของเสียง

“โฮก!

“หยาย!...เจอแล้ว! หมีควายตัวใหญ่ยืนสองขาดักหน้า ฉันอยากจะหายตัวได้จริง ๆ ก้าวถอยหลังเตรียมลี้...            

โอ๊ะ!” เท้าพลาดไปสะดุดขาไป่ไป๋ ล้มหงายท้องลงไปไม่เป็นท่า  ตัวสั่นใจสั่น หัวใจวูบคิดถึงความตาย หันกลับไปมองเจ้าสองตัววิ่งเข้ามาใกล้แล้วหยุดเดินเยื้องย่างส่ายหางเข้ามา    

อนนี่ลุกเร็ว!” ไป่ไป๋เข้ามาดึงมือ

ฉันสะบัดออก...

วิ่งหนีเข้าป่าไป ไม่ต้องห่วงฉัน หนีไป ฉันมองไม่เห็นทางหนี ด้านหลังมังกรไร้หู ด้านหน้าหมีควาย ด้านซ้ายทะเลสาบ

หนูไม่ไป เธอดึงให้ลุกแล้วหันไปคว้าเศษไม้อันจิ๋วขึ้นมา ตั้งท่าเตรียมสู้

“โฮก!! เจ้าหมีควายกระโดดเข้ามาด้านหน้าพร้อมกับทั้งสองตัวกระโจนเข้ามาด้านหลัง      

เฟี๊ยว!” เสียงหางมันตวัด ฉันรวบขาไป่ไป๋ล้มลง พู่หางของมันเฉี่ยวหัวไปนิดเดียว    

“ปึ่ก!

“กรรจ์! เจ้าหมีร้องเสียงเจ็บปวด มันกระโดดหนีขึ้นด้านบน เจ้ามังกรไร้หูตัวหนึ่งกระโจนใส่...         

“คลุกคลัก! คลุกคลัก! สัตว์ใหญ่ 2 ตัวต่อสู้กันอยู่ข้าง ๆ ด้านหลังเหลืออีกตัว สุดจะต้านความกลัวไหว ปากท่องคาถาป้องกันตัวอัตโนมัติ

เสี้ยววินาทีแห่งความตาย ฉันหมดตัวเลือกในการช่วย ลากขาถอยหนีเข้าไปใกล้น้ำเข้าไปทุกที มันเดินย่างสามขุมจ้องเขม็งเข้ามา

 อนนี่แกล้งตายสิ เขาบอกว่าเจอสัตว์ป่าให้แกล้งตาย เธอกอดแน่นไม่ยอมหนีไปไหน? โถ...แกล้งตายตอนนี้ก็ได้ตายจริง ๆ น่ะสิ

“หนีไปสิ!”       

เฟี้ยว!” เจ้ามังกรไร้หูซัดหางพุ่งเข้ามา            

หลบเร็ว!” ฉันพร้อมพุ่งผลักเธอนอนคว่ำหน้ากับพื้นและกอดเธอไว้หลับตาแน่น เสียวสันหลังวาบ รอรับแส้หาง             

ทันใดนั้น...     

ตูม...มม! ซ่าส์!” เสียงน้ำอย่างกับเขื่อนแตก ดังสนั่นพื้นสะเทือน มวลน้ำเทลงมาเปียกไปทั้งตัว ใจที่ตระหนกอยู่แล้วระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ มุดหน้านิ่งไม่กล้าเงย

เสียงไป่ไป๋อู้อี้...

“แกล้งตาย อนนี่! แกล้งตาย”

คลุกคลัก! คลุกคลัก!” พื้นดินสะเทือนจากการต่อสู้ เรานอนกอดกันแน่นหลับตาปี๋         

ตูม...มม! ซ่า!” เสียงน้ำแตกกระจายอีกครั้ง ทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงในเวลารวดเร็ว

“.............” เรไรหยุดร้อง ป่าทั้งป่าเงียบสงัด ฉันยังนอนนิ่ง ไม่กล้าขยับตัว
           จนกระทั่งเวลาผ่านไป...เรไรกลับมาร้องกล่อมไพรอีกครั้ง ค่อย ๆ ลืมตาหันมองรอบกาย พื้นทรายรอบตัวเปียกน้ำเป็นวงใหญ่ หันมองหาเจ้ามังกรไร้หูก็ไม่อยู่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้น? ตัวอะไรมาช่วยพวกเราไว้? สัตว์ป่าก็หายไปด้วย    

เมื่อกี๊! มันเกิดอะไรขึ้นคะ? แล้วพวกมันหายไปไหน? สัตว์แถวนี้หายไปไหนกันหมดเลย? ไป่ไป๋หน้าตาตื่น  

ไม่รู้เหมือนกัน ฉันนอนคว่ำหน้า ไม่เห็นตัวมัน ได้ยินแต่เสียงน้ำ ฉันยังตื่นเต้นไม่หาย หัวหูเปียกปอน          

มันคงตกใจ ปลากระโดดมั๊งคะ?เธอบอกแล้วหันมองรอบตัว

บ้า! เสียงน้ำขนาดนั้น คงต้องเป็นวาฬสีน้ำเงินแล้วมั้งคะ?” ฉันตีแขนเบา ๆ รีบจูงกันกลับ   

ไปดูแทนกันเถอะ โดนไม้ทับ เจ็บตัวหรือเปล่าก็ไม่รู้?” เราสองคนเดินใจสั่นกลับไปซ่อมเพิง

ยายน้องหยุดยืนหน้าเพิง หันไปยิ้มหวานลงไปในทะเลสาบ ยกมือพนมท่วมหัว

“ป๋อฮ่อ!ป๋อฮ่อ!ป๋อฮ่อ!

เสียงน้ำดังมากเลยนะคะ นี่แหละที่เขาเรียกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนไม่มีศาสนาอย่างอนนี่ ไม่รู้จักหรอก ท่านมาช่วยเพราะหนูสวดมนต์ หนูเป็นคนดีเทพเจ้าคุ้มครอง ไป่ไป๋เริงร่าวิ่งกลับไปดึงหลังคาก้านมะพร้าวออกจากตัวนายแทน             

“เชอะ! เพราะศาสนาหรือฝ่าหลุนกง เอาให้แน่นะ ฉันว่า เพราะคาถาของฉันต่างหาก”          

เราช่วยกันรื้อกิ่งไม้ ตั้งแต่เขาล้มเจ็บ เราสองคนทำอะไรกันไม่ค่อยถูกและรู้เลยว่า ถ้าขาดเขาไปสักคน เราคงไม่สามารถรอดมาได้นานขนาดนี้ ผลไม้ที่เขาเก็บมากับปลาที่ตกไว้ยังพอประทังชีวิต    

แต่สิ่งที่กังวลไม่ใช่เรื่องอาหาร ฉันกังวลแต่เรื่องมังกรไร้หูนั่นมากกว่า คิดว่าแทนไปขโมยไข่มันมาแน่เลย ฉันก็ไม่กล้ากิน เดินเอามันไปวางไว้กลางชายหาดไกล ๆ         

คืนนี้...เราสองคนผลัดกันขึ้นไปนั่งเฝ้ายามบนก้อนหินฝาผนังเพิง  จนเวลาผ่านไปและแน่ใจว่ามันไม่กลับมาอีก เผลอหลับไปเพราะความง่วง  

                                              …………………………………………………..

เช้าวันใหม่สดใสเหมือนเดิม เสียงดิ้นขลุกขลัก ร้องเสียงดังจากด้านล่าง...                

อย่า..อย่าวิ่งครับ อันตราย งึมงำๆ           

ฉันก้มมองเพราะเสียงแปลก ๆ เห็นไป่ไป๋นั่งมองอยู่ก่อนแล้ว จึงลงไปหา เอื้อมมือไปแตะที่ขา...                    

ตื่นนานแล้วเหรอคะ?” ฉันกระซิบ

เธอพยักหน้าน้อย ๆ แล้วขยับตัวเอนเข้ามากอด ซบหน้าลงที่อกของฉัน                     

คิดถึงหม่าม้าน่ะ! โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้เธองึมงำบนหน้าอก

เด็กน้อยคิดถึงบ้านซะแล้ว ฉันแอบขำที่แฟนของฉันยังติดแม่อยู่เลย ที่ผ่านมาเธอคงดื้อตามภาษาของวัยรุ่น อยากรู้อยากลอง คงไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่ ไม่ประสีประสากับความเปลี่ยนแปลงของวัย ไม่รู้เรื่องเพศและความรักในภาคปฏิบัติเลย          

คืนนี้หลับแล้วไปเข้าฝันท่านนะ ฉันลูบหัวของเธอเบา ๆ       

ยามว้าเหว่ ฉันก็เคยคิดถึงพ่อแม่ แต่นึกใบหน้าของพวกท่านไม่ออก ฉันไม่เคยเห็นใบหน้าผู้ให้กำเนิด ไม่มีแม้รูปถ่ายแทนตัว วันเกิดที่แท้จริงของตัวเองก็ไม่รู้ ฉันเองก็โดนเก็บจากถังขยะริมแม่น้ำฮัน เกาหลีใต้ไปฝากไว้ที่สมาคม Atheism (สมาคมของคนไม่นับถือศาสนา)

เธอมุดหน้าเข้ามาซุกซอกแขน มือคว้าหมับเข้าที่นมโดยปริยาย เราเหมือนอะไหล่ของความรักที่มันตรงรุ่น เข้ากันได้ดีทุกอย่าง 

แทนนอนเพ้อไข้ พลิกตัวไปมายกมือโบกไล่ คงละเมออีกล่ะสิ อีตานี่!...ละเมอบ่อย         

ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไร พวกคุณหนีไป ผมรับผิดให้เองแทนเพ้อหนักจากพิษไข้มา 3 วันแล้ว หน้าตามอมแมมหนวดเครายาว

เริ่มสงสารและกังวลใจ เขายังไม่ดีขึ้นเลย แม้ยามขาดสติเขายังเป็นห่วงพวกเรา จิตใต้สำนึกของเขามีแต่ความปรารถนาดีให้ ฉันเองเป็นฝ่ายที่มองเขาในแง่ร้ายมาตลอด           

“เฮ้อ จะช่วยยังไงดีนะ” ฉันคลานไปเอาเสื้อมาเช็ดตัว

ไป่ไป๋ลุกหยิบน้ำไปนั่งข้างเขา คนเราเมื่อเจ็บไข้นอนซมก็เหมือนเด็กน้อยกันทั้งนั้น เขานอนตะแคงใบหน้าซูบซีดเหงื่อเม็ดเป้งผุดเต็มใบหน้า           

น้าเอื้อง ผมกำลังกลับบ้านแล้วครับ ไม่เห็นต้องออกมาตามเลย แทนกระสับกระส่ายพลิกไปมา เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวร้องไห้            

ฮือฮือ! ผมจะเป็นคนดี ผมรักน้าเอื้องนะครับ!”

ไป่ไป๋เอามืออังที่หน้าผากของเขา...           

ตัวยังร้อนอยู่ แต่เสียงของเขาดีขึ้นนะคะ หลับตาแล้วเหมือนเด็กเลย แทนก็น่ารักดีเนอะ หนูว่าเขาหล่อดีนะเธอบอกเบา ๆ ฉันเห็นด้วยกับเธอ เขานิสัยน่ารักมาก อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น สบายใจ หน้าตาก็หล่อไม่เบา                    

ก่อนหน้านี้...ฉันยังไม่จริงใจกับเขามากมายนัก แค่หลอกใช้เพื่อจะเอาตัวรอดเท่านั้นเอง ในใจก็คิดว่าถ้าหนีออกไปจากที่นี่ได้ ก็คงลืมเขาและปล่อยให้ตายอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่กลับมาช่วยเขาแน่

แต่ตอนนี้คิดใหม่แล้ว เขาอดทนกับพฤติกรรมแย่ ๆ ของพวกเราและยังคอยเป็นห่วงมาตลอด แม้จะไร้สติละเมออออกมาก็ยังเป็นห่วง เขาต้องจิตใจดีมากถึงเป็นอย่างนี้ ความดีแบบนี้กลับมองเห็นเป็นความโง่ ฉันนี่เลวมากจริง ๆ ขอโอกาสได้แก้ตัวดูแลตอบแทนคุณบ้าง หันไปบอกน้อง...                  

เราคงต้องช่วยเขาบ้างแล้วล่ะ ที่ผ่านมา...เขาก็ดีกับเรามาก มากจริง ๆ ฉันคิดย้อนกลับไป รอดตายจากจมน้ำก็เพราะเขา รอดจากมังกรไร้หูก็เขาอีกนั่นแหละ

ไป่ไป๋หันมายิ้มหวาน บางครั้งเธอก็น่ารักกับเขา แต่บ่อยครั้งที่ฉันต้องเข้าห้ามทัพ เธอพร้อมจะขย้ำคอเขาตลอดเวลา เมื่อโดนขัดใจ...

เก็บไว้เป็นเพื่อนอีกคนก็ดีนะ หนูว่าจิตใจเขาใช้ได้เลย หนูสบายใจนะที่เห็นเขาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้าง ๆ เธอยิ้มเอาผ้าชุบน้ำลูบหน้าลูบตัวให้                         

ให้เขากินน้ำใบบัวบกแล้ว เดี๋ยวก็หาย!” ฉันไม่มียาให้เลือก สมุนไพรคือทางเลือกเดียวที่ฝากความหวังได้ กลิ่นฉี่เหม็นอยู่ใกล้ ๆ          

เราไม่ได้เช็ดตัวให้เขาเลย ถ้าเช็ดตัวบ่อย ๆ ไข้จะลดไว เดี๋ยวฉันทำให้เขาเองก็แล้วกัน ถือว่าตอบแทนบุญคุณกันไป ฉันบอกแล้วขยับตัวเข้าไปจับเขานอนหงายหน้า         

เขายังซมไข้ไม่รู้สติคอพับคออ่อน พอเปิดผ้าถุงลมนิรภัยที่คลุมท่อนล่างออก

“อื้อหือ!! ต้องเบือนหน้าหนี เขาฉี่รดกางเกงกลิ่นเหม็นหึ่ง

“...........” เราสองคนนั่งอึ้งเงยหน้าสบตากัน               

เอาไง?” ไป่ไป๋ถามสีหน้าเรียบ                       

มันต้องถอดกางเกงออกก่อนฉันก็อึดอัดใจเหมือนกันไม่เคยทำมาก่อน แต่จะคิดอะไรมากไม่ได้  ขนาดไป่ไป๋นอนสลบนมชี้หน้า เขายังทำ CPR ได้เลย ไม่เห็นเขาจะสนหน้าอกของเธอเลย ช่วย ๆ ไปจะได้จบ ๆ

ทันใดนั้น....          

ว้าย!” ฉันโดนกดหัวปักพื้นทราย ตูดโด่ง ช่วยตัวเองไม่ได้

ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ยายน้องหัวเราะลั่น                     

 “แม่มาแล้วเหรอครับ ผมรอแม่ทุกวัน คิดถึงแม่จังเลย ผมเป็นคนดี แม่กลับมาหาผมแล้ว ฮือฮือ!!” จิตใต้สำนึกของแทนเพ้อหนัก น้ำตาไหลนองสองแก้ม มือไขว้คว้ามา...     

อ๊าย!” เขาดึงฉันเข้าไปกอดหอมซุกไซร้แก้ม

“แม่! แม่ครับ อย่าหายไปอีกนะ” หนวดเครายาวแข็งแทงตามลำคอและใบหน้า พยายามดิ้นลุกหนี ใจชักสั่น

ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! ไป่ไป๋ปรบมือหัวเราะลั่น              

ไม่เป็นไรหรอกค่ะอนนี่ เวลาหนูไม่สบายก็คิดถึงหม่าม้า เธอนั่งยิ้มมอง ส่วนฉันโดนเขากอดล็อคคอ           

อีตานี่...แต๊ะอั๋งหลายครั้งแล้วนะ ใบหน้าของเราแนบกัน หนวดก็แทงจั๊กกะจี๋ ครั้งนี้เขากอดนานสุด แต่โดนผู้ชายกอดนี่ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ นั่งนิ่งปล่อยให้เขากอด สักพักเขาก็สงบลง

ฉันพยักหน้าเรียกไป่ไป๋

มาช่วยฉันก่อนสิ เอาเขาออกไปที กวักมือเรียก เธอขยับตัวมาช่วยแกะมือออก                   

บ้า! ขนลุกหมดเลยฉันยื่นแขนไปให้เธอดู ขนแขนตั้งชันเป็นเม่น แทนสงบแล้วนอนหลับตาพริ้ม หวังว่าคงไม่ได้แกล้งนะ ถ้าฉันจับได้ว่าแกล้ง นายตายแน่ 

เขาร้องเพ้อออกมา...               

น้าเอื้องบอกว่า ให้ผมเป็นคนดีแล้วแม่จะกลับมา แม่เจอกับน้าเอื้องแล้วเหรอครับ?” แทนยังเพ้อเบา ๆ

ไป่ไป๋ยิ้มหวานขยับเข้ามา

ขนลุกเลยเหรอ? อนนี่คิดอะไรหรือเปล่า? หนูไม่ยอมนะเธอเอียงคอมองตาเขียว                 

มาช่วยกันถอด ฉันไม่ได้คิดฉันรีบก้มหน้า เธอเข้ามาจับตัวเขาพลิก           

อึ๊บ!อึ๊บ!” ฉันพยายามดึงบ็อกเซอร์เปียกฉี่ออก

เอียงตัวดึงกางเกงด้านหลังออกก่อน แหม..ก้นขาวเชียวนะจับพลิกตัวเขาให้นอนหงาย เหลือแต่ด้านหน้าติดอะไรไม่รู้                      

ฮึบ!” ออกแรงดึงกางเกงลง แต่..มันไม่ออกติดอะไรสักอย่าง เงยหน้ามองไป่ไป๋ เธอพยักหน้าเพื่อให้ออกแรงมากขึ้น                       

ดึงแรง ๆ!” เธอบอกแล้วพยายามประคองยกก้นเขาขึ้น         

ฮึบ!ฮึบ!” ฉันออกแรงมากขึ้นจนกางเกงหลุด           

ผึง!”              

ฮัลโหล! ฮัลเหล!” ตัวอะไรบางอย่างดีดผึง แกว่งเป็นไม้ปัดน้ำฝนหน้ารถยนต์เลย               

ไอ๊หยา! เธอร้องภาษาจีน ดวงตาเบิกค้างเอามือปิดปาก

ออม่อ!ฉันร้องอุทานภาษาเกาหลี ในอาการเดียวกัน

โยกเยก โยกเยก น้องชายของเขาดีดตัวเด้งส่ายไปมา เราส่ายหน้ามองตามจนมันนิ่ง หันมาสบตากันทำหน้าไม่ถูกเลย             

สงสัยคนป่วยปวดท้องฉี่ อวัยวะเพศเลยแข็งตื่นตัว แต่อันนี้...ทั้งแข็งทั้งโค้งงอน บนลำโค้งนั้นปูดด้วยเส้นเอ็นเส้นเลือดพันกันไปมา ฉันสะดุดตากับรูปหัวใจ ของเส้นเลือดขอดกลางลำ ส่วนหัวบานใหญ่เหมือนดอกเห็ดแดงก่ำ

“เอิ่ม! เอิ่ม! เราอึกอักมองหน้ากัน เธอแอบกลืนน้ำลาย ฉันเองก็รู้สึกคอแห้งจังเลย

ในยามยากลำบากเช่นนี้  ฉันอายุมากกว่าคงต้องเสียสละ ทำอะไรบางอย่างเพื่อน้อง...                    

เดี๋ยวฉันเช็ดตรงนี้เอง มันสกปรก เธอเช็ดหน้าให้เขานะคะ ฉันแบ่งงานกับน้องอย่างยุติธรรม ยอมทำงานสกปรกเพื่อเธอ ของพวกนี้เคยเห็นในคลิปบ้าง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องเจอกันซึ่งหน้า

อืมม!” ฉันคำรามในลำคอ ขยับเข้าไปใกล้พลิกพิจารณา แต่กลิ่นฉี่ไม่ผ่านจริง ๆ จะโทษเขาก็ไม่ได้ พวกเราต่างหากที่แล้งน้ำใจ ปล่อยให้เขาต่อสู้กับไข้เพียงลำพังมาสามวัน

“หมับ! ส่วนไอ้นี่...มันก็แค่ปฏิกิริยาของคนป่วย มือน้อยลูบไล้ทำความสะอาดไปที่น้องชายของเขา ลองกำมือก็ไม่รอบเลย แข็งชะมัด ลูบผ้าชุบน้ำไปตามลำแข็งจากโคนสู่หัว เช็ดไปตามขอบคอ ซอกหยัก ขจัดคราบปัสสาวะออก

สายตาจดใจจ่อ ทำงานอย่างตั้งใจ ทำไมตอนนี้หายใจไม่ค่อยสะดวกวะ รู้สึกลมหายใจขัด ๆ ฉันสนใจเส้นเลือดขอดที่ขดเป็น รูปหัวใจมากที่สุด มันสวยและแปลกดี

ไป่ไป๋ไม่ได้หันมาสนใจ เธอทำหน้าที่อย่างขันแข็ง ส่วนฉันรู้สึกเหมือนหน้าจะมืด มันจะวูบ ๆ วาบ ๆ อยากจะเข้าไปดอมดมว่า มันสะอาดหรือยัง? ไอ้เรา!..ก็เป็นคนรักความสะอาดเสียด้วยสิ

ไป่ไป๋กระแอมเบา ๆ....

น่าเกลียด รีบ ๆ ทำให้เสร็จ จะได้เก็บ ๆ น่ากลัวจะตาย เธอย่นจมูก ไม่หันมามอง           

ลองจับดูไหม เคยจับหรือเปล่า? ฉันก็ครั้งแรก ฉันชวนกันดื้อ
          
หนูกลัว จะไม่เป็นอะไรเหรอ จับได้เหรอ อนนี่ไม่ว่าเหรอ เราเป็นแฟนกันนะ?เธอไม่หันมองแต่ใบหน้าของเธอแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ของแทนไม่เป็นไรหรอก เราจะได้ทำเหมือนกัน ฉันจับแล้วไม่เอาเปรียบเธอจับด้วยฉันพยักหน้าเรียก เรื่องดื้อฉันก็ไม่เป็นรองใคร

เธอตื่นเต้นจ้องมองเอ็นแข็งตาไม่กระพริบ ค่อย ๆ เอื้อมมือมาลูบที่ส่วนหัว                 

นิ่มดีนะ แววตาของเธอเป็นประกายปากยิ้มกว้าง มือขยับลงมากำแท่งเอ็น           

แข็งจัง! แค่นี้แหละ พอแล้วเธอปล่อยมือแล้วไปเช็ดตัวให้เขาต่อ

 ในหัวของฉันไม่ได้คิดอะไร จริง ๆ นะ ไม่ได้คิดอะไรเลย...       

เสร็จแล้ว ฉันพูดพร้อมมือรูดลำของเขาก่อนจาก ไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ ที่จำได้ติดตาก็รูปหัวใจของเส้นเลือดขอดนั่นแหละ ดูมันอาร์ตดี              คิดอะไรป่ะเนี่ย เหมือนจะอาวรณ์นะ?”ไป่ไป๋หันมามองหน้าดุ
            “คิดสิ คิดกับเธอนั่นแหละฉันคว้ามือของเธอออกข้างนอก
            “ไปเล่นน้ำกันดีกว่า”

                                                       ............................................................

แล้วเวลาก็ล่วงผ่านเช่นทุกวัน เขายังนอนสลบไศลไม่หืออือ เราก็ทำอะไรได้ไม่มาก ค่ำคืนนี้มืดมิด สัตว์ลงกินน้ำมากขึ้น สิ่งมีชีวิตหลายชนิดออกจากป่าเดินนวยนาดเป็นกลุ่มผ่านชายหาด

ดาวดวงเล็กสว่างเด่นเต็มท้องฟ้า ไร้เมฆาบดบัง เสียงน้ำจากทะเลสาบดังแว่วมาแปลก ๆ ฉันเพ่งมองฝ่าความมืดไปที่ชายน้ำ ชายหาดมีเงาตะคุ่มดำทะมึนกลุ่มใหญ่ ใจคอเริ่มหวั่น กลัวเจ้ามังกรไร้หูมันจะมาเยือนอีก

ขยี้ตาดูชัด ๆ เมื่อสายตาเริ่มชินกับความมืด เห็นเป็นโขลงช้างป่าต่างขนาดนับสิบตัว กำลังยืนกินน้ำที่ชายหาด พ่นน้ำใส่กันสนุกสนาน
            ครอบครัวช้างพากันมากินน้ำ ลูกช้างน้อยวิ่งด้วยความคึกคะนองปราดเปรียว จ่าฝูงตัวใหญ่กว่าเพื่อนงาขาวยาวโค้งเกือบถึงพื้นยืนกระพือหูแยกจากกลุ่มมองดูความเรียบร้อยอยู่เงียบ ๆ กลางหาด           

ฉันไม่ได้นึกกลัวโขลงช้างแม้แต่น้อย กลับรู้สึกตื่นเต้นที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับช้างป่าในธรรมชาติ นี่ก็ได้อีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจ การรอดตายคราวนี้คุ้มค่ามาก ได้เห็นอะไรแปลก ๆ ชีวิตไม่ได้เลวร้ายตลอดเวลาหรอกนะ

ไป่ไป๋นอนหนุนตักหลับปุ๋ยน่าเอ็นดู...              

ไป่ไป๋ช้างมาเยอะเลย ฉันกระซิบข้างหู              

หือ!..ช้างเหรอ ไหน ๆ ?” เธอลืมตางัวเงียมอง แล้วขยับตัวลุกนั่ง

ฉันขยับโอบเอวนั่งคู่กับเธอมองดูโขลงช้างที่ชายน้ำ แทนยังคงนอนสะโตกคร่อกฟี๊ ๆ อย่างเมามัน

กลัวช้างมั้ยคะ?” ฝูงสัตว์ป่าอีกหลายชนิดเดินริมชายหาด แหล่งน้ำเป็นศูนย์รวมสรรพสัตว์           

หนูชอบช้าง โน่นตัวอะไรคะฝูงใหญ่จัง?”  เธอจูงมือฉันออกมานั่งด้านนอกเพิง ข้างกองไฟที่มอดไปแล้วเหลือเพียงควันจาง ๆ

กระทิงมั้งคะ มองไม่ชัดฉันพยายามหรี่ตาหาโฟกัส เพ่งมองไปที่ชายน้ำฝูงสัตว์นานาชนิดแวะมากินน้ำ            

ออกจากนี่ไปได้ อนนี่ก็ต้องกลับไปอยู่ในสังคมเดิม หนูคงเดินไม่ถึงแน่เลย แต่หนูจะพยายาม หนูจะสร้างชื่อเสียงขึ้นไปยืนเคียงข้างอนนี่ให้ได้ เธอเงยหน้ามาหอมแก้มแล้วซบเหมือนเดิม แอบปลื้มใจเมื่อเธอพยายามสู้เพื่อฉัน           

ฉันจะติดต่อมาตลอด จะมาหาบ่อย ๆ ด้วยฉันโผเข้าจูบอย่างดูดดื่ม ฉันก็อยากอยู่กับเธอไปชั่วชีวิตเหมือนกันแม่สาวน้อย

ไป่ไป๋ รักฉันจริง ๆ หรือเปล่า?” ฉันกระซิบถามข้างหู เธอหันหน้ามองขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ ยื่นหน้ามาหอมแก้ม           

อยู่ใกล้ชิดกันมาก ความรักก็ละลายเข้าหากันเอง ฉันก็ชอบเธอนะ แต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองหรอกว่า ฉันชอบผู้หญิงจริง ๆ หรือเปล่า? ฉันถูกเธอรุกและสถานการณ์บีบบังคับต้องเลยตามเลย แต่จะโทษคนอื่นไม่ได้หรอกของอย่างนี้

หนูรักอนนี่มากเลยเธอกอดซบซุกหน้า           

จะอยู่กับฉันไปจนแก่เลยเหรอ เรามีลูกไม่ได้นะ ฉันมองไปในอนาคตเรื่องเดียวที่เราให้กันไม่ได้คือเรื่องนี้                       

เราก็หาเด็กมาเลี้ยงก็ได้ ถ้าอนนี่อยากหาเหาใส่หัวเธอยังพึมพำซบหน้า

ฉันเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าคนไม่มีลูก เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ที่เงียบเหงา แต่คนมีลูกเหมือนตกนรกที่ครื้นเครง แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายของมันนัก           

เราก็ต้องมีสายสัมพันธ์คล้องใจสิ ส่วนฉันอยู่ได้ไม่มีลูกก็ไม่เป็นไร ฉันยังไม่เคยคิดไปไกลขนาดนั้น แต่พูดไว้ก่อน           

หนูก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน                   

เอาแทน...มาเป็นพ่อพันธ์ดีไหม? เขาแข็งแรงดี หล่อด้วย

“โน๊โน!.ไม่มีทางเธอเงยหน้าขึ้นมาเบรกทันที

ฉันอุ้มท้องเองก็ได้ แต่เธอต้องเลี้ยงเด็กนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินฉันมีเยอะ ฉันหยั่งเชิงลูบหัวเธอเบา ๆ                       

โน๊โน!..หนูจะเอาขี้เถ้ายัดปากให้ตายไปเลย

เด็กไม่มีความผิดอะไร ไป่ไป๋ใจร้าย

เธอหันขวับ...

หนูจะรอยัดปากเด็กทำไม หนูจะยัดปากแทนเดี๋ยวนี้เลย

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! เราหัวเราะกอดกัน นอนลงกับพื้นทราย           

ฉันไม่เคยรู้เลยว่า ได้วางระเบิดลูกใหญ่ให้แทนไปแล้ว ฉันแค่ล้อเล่นแต่ไป่ไป๋ต้องโกรธแน่ เธอต้องไปเฉ่งกับแทนแน่ ๆ

ผ่านความตายครั้งนี้ ความคิดเปลี่ยนไปอีก รู้สึกเสียดายเวลา เสียดายโอกาสที่จะได้ทำ ฉันได้รู้แล้วว่า ความตายเดินคู่กับเราเหมือนเงาตามตัว หรือเงาอาจจะเป็นตัวแทนของความตาย ที่เฝ้าคอยวันที่เราล้มลง เพราะเมื่อร่างกายของเราสลาย เงาก็จางหายไปเช่นกัน

                                                       ……………………………………………………

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม