The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2 ตอนที่ 19

The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2 ตอนที่ 19
หมวดหมู่ The last man stand วิบัติ 2026 เล่มที่ 2
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า Pre-Order
อัพเดทล่าสุด 31 ม.ค. 2567
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay


ป่าโบราณ ฉวีจิ่ง มณฑลยูนนาน

มุมมองสายตา นาตาลี

ตุลาคม ค.ศ.2020

แดดอุ่นน้ำใสทรายขาวท้องฟ้าคราม เสียงวี้ดว้ายสนุกสนานของเราที่กำลังเย้ยฟ้าท้าดินในชุดทูพีซ โชว์เรือนร่างขาวผ่องวิ่งไล่จับกันบนชายหาด ทำลายความเงียบของผืนป่า พวกเราไม่มีความกดดันของเวลา ไม่มีใครขอเข้าพบ ไม่ต้องเตรียมตัวรายงาน ใช้ชีวิตไปตามความต้องการพื้นฐาน หิวก็กิน ง่วงก็นอน มีความสุขมากอยากใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ ตราบนานเท่านานรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย

นายแทนของพวกเรา หายจากบาดเจ็บกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมแล้ว เขาเป็นคนสุภาพ อบอุ่น ใจดี ไม่เรื่องมาก ยิ่งอยู่ด้วยนาน รู้สึกเหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว

โน่นไง!!...เสริมหลังคาทางมะพร้าวอยู่นั่นไง วัน ๆ ไม่เคยอยู่เฉยหานั่นนี่มาทำให้ตลอด ถ้าไม่มีอะไรให้ทำ เขาก็จะออกกำลังกายกล้ามท้องเป็นมัด                

แทนคะ! มาเล่นน้ำกัน ไป่ไป๋ป้องปากตะโกนเรียก กระโดดนมกระเพื่อม เสื้อชั้นในตัวน้อยสีแดงสดช่างน่าสงสาร ถ้ามันพูดได้มันคงร้องขอชีวิต เอวเว้าเข้ารูปรับสะโพกงอนงาม ก้นกลมขายาวขาวผ่องไปทั้งตัว บีกินีตัวจิ๋วบางเบามองทะลุ ปิดอะไรไม่ได้เลย เนินนูนเกลี้ยงเด่นที่หว่างขานั้น...ฉันยอมแพ้ ถ้าเธอเป็นสินค้าก็ราคาสูงลิ่ว

แทนเป็นเพื่อนที่ดีมาก ไม่มีช่องว่างสำหรับพวกเราอีกแล้ว ฉันวางใจเขามากขึ้นทุกวัน โดนเอาใจจนเคยตัว ขาดเขาไม่ได้ รู้สึกสุขใจเมื่อได้พูดคุยด้วย จากศัตรูกลับกลายเป็นมิตรภาพที่สวยงาม

ฉันตั้งใจแล้ว ถ้ารอดไปได้จะไม่ทิ้งผู้ชายคนนี้ไว้ข้างหลัง จะไม่ให้ชีวิตของเขาต้องลำบาก ถ้าช่วยอะไรได้ ฉันจะทำให้อย่างไม่มีข้อแม้ ถ้าฉันสบายเขาต้องสบายด้วย ชีวิตของฉันเป็นหนี้ผู้ชายคนนี้           

ยู้ฮู!...ที่รัก มาเล่นน้ำกัน ฉันกวักมือเรียกแล้วหันไปหัวเราะกับไป่ไป๋ โผเข้าสวมกอดเอวบางแล้วขบใบหูเบา ๆ หน้าอกขาวกลมตูมยั่วมือชะมัด อยู่ใกล้เธอไม่ได้เลย หน้ามืดแอบจับแอบลูบคลำไปเรื่อย สู้แรงดึงดูดทางเพศของเธอไม่ได้จริง ๆ                  

อึ๋ยย!..อย่า! เดี๋ยวไม่ได้เล่นน้ำ นานแล้วนะอนนี่ เราไม่ได้บุ่มบุ๋มกันเลยนะ เธอกระซิบแล้วอมยิ้มอายหน้าแดง

“เอาป่ะล่ะ?” ฉันก็คิดแต่จะให้ทำอย่างไรได้ ต้องนอนรวมกับแทน เลยต้องหยุดคิดเรื่องนี้ไปโดยปริยาย จะไปไกลจากเพิงก็กลัวสัตว์ป่าลากไปกิน

ขอจูบที แล้วไปเล่นน้ำกันดีกว่าฉันดูดลิ้นฉ่ำที่ยื่นคอยอย่างซ่านเสียว สายตาเหลือบไปมองหนุ่มน้อยยืนมองเกาหัว แล้วหันหลังกลับไปยุ่งกับหลังคาเหมือนเดิม

เราจูงมือกันวิ่งไปพุ่งหลาว...   

“ตูม! พื้นน้ำแตกกระจาย นกน้ำตกใจบินกันพรึบ ความเย็นชุ่มฉ่ำจับผิวกาย

แทนนุ่งบ็อกเซอร์วิ่งมาแต่ไกล โชว์ซิกซ์แพ็คหน้าท้อง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ เขามาหยุดที่ริมน้ำ                     

ลงมาสิคะ!” ฉันวักน้ำใส่ แล้วเดินเข้าไปหา               

ไม่เป็นไรครับ ผมโป๊ เล่นไม่ได้ เขาอายหน้าแดงยิ้มอาย

นุ่งกางเกงขาสั้นไม่โป๊หรอกฉันเดินขึ้นไปดึงมือลงน้ำ เขาขัดขืนนิดหน่อยก่อนจะ...            

ตูม...ม!” น้ำกระเพื่อมจากน้ำหนักตัวของแทน

ฉันรีบว่ายไปขี่คอกอดเข้าข้างหลัง พอโดนจับนมไปทีเดียวความคิดแบบเดิมไม่หลงเหลืออีกแล้ว มีแต่ความจริงใจที่ให้กัน ฉันไม่เคยหวงตัวกับเขาเลยและไม่รู้สึกอายด้วยที่เล่นด้วยกัน ชุดชั้นในที่เราใส่เล่นน้ำแทบไม่มีประโยชน์หลุดลุ่ยตลอด

หน้าอกตูมสลับกันโผล่มาเซย์ฮัลโหลกับเขาบ่อย ๆ เขาต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา อายหน้าแดง เมื่อฉันเองก็ไม่ได้รีบร้อนจะปิดมันสักเท่าไหร่ ฉันได้แต่หัวเราะเมื่อแกล้งเขาได้สำเร็จ แทนเองไม่เคยฉวยโอกาสสักครั้งเป็นสุภาพบุรุษตัวจริง เขาหายไข้โดยไม่รู้ว่า เขาได้โดนฉันและไป่ไป๋ คุกคามทางเพศไปแล้ว

เล่นกระโดดสูงกัน แทนใบหน้าคล้ำแดด หนวดเครายาว ยิ้มกว้างชูมือหน้าอกนมตั้งเต้า กล้ามท้องเป็นลอนเรียงกันเป็นมัด น้ำสูงระดับหน้าอกของเขา

เล่นยังไงคะ?” ไป่ไป๋โผเข้าไปใกล้ ฉันโผกอดนมเบียดแขนรู้สึกดีเวลากอดเขา เคมีของเราเข้ากัน ใจฉันเลี้ยวคิดอะไรแปลกกับเขาบ่อย ๆ

เดี๋ยวผมจะดำน้ำ แล้วคุณขึ้นมานั่งยองเหยียบไหล่ ผมจะดันส่งคุณขึ้นฟ้า คุณก็ตีลังกาลงมาสวย ๆเขาหันมองไปรอบ ๆ ปากก็อธิบายมือก็ทำท่าทางประกอบ เวลาเส้นผมเปียกน้ำเขาดูหล่อจังเลย แอบเอาหน้าแนบแขน หรือฉันจะชอบคุณแล้วนะ เดี๋ยวนี้พออยู่ใกล้แล้วใจเต้นแรงมาก

ไป่ไป๋พรวดเข้ามา...

อนนี่! เยอะไปแล้ว เธอตาเขียว            

อ้าว!...เยอะไปเหรอ? ฉันรีบปล่อยมือยิ้มเก้อ อายจัง

เธอโผกลับไปหาแทน...

ให้หนูเล่นก่อน!” เธอกอดคอเขาอย่างสนิทใจ

เขาชูมือสองข้างแล้วดำน้ำลงไป ไปไป๋ขึ้นไปเหยียบไหล่ มือสองข้างจับมือของเขาไว้พยุงตัวเอง

“ซึ่ม! เขาทะลึ่งพรวดจากใต้น้ำ ส่งตัวไป่ไป๋ลอยขึ้นไปบนฟ้า

วู้ว!...วว!” เธอตีลังกาม้วนหน้า ใส่เกลียวซัมเมอร์ซอลท์ตกลงน้ำอย่างสวยงาม                   

จ้วบ!” น้ำแทบจะไม่กระเพื่อม

ฉันชอบจังเลย โผเข้าหาแทน...                       

ฉันมั่ง ๆ น่าสนุกดี ฉันทำได้จะทำให้สวยกว่าเธออีก เหยียบไหล่ขึ้นไปนั่งยอง มือจิกหัวของเขาแน่น

ไป่ไป๋ยิ้มเชียร์อยู่ข้าง ๆ น้ำใสสะอาดรอบข้างมีแต่บรรดานกน้ำหาปลากินไม่สนใจพวกเรา วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสมาก ต้องโชว์สักหน่อย...

“ซึ่ม! แทนพุ่งพรวดขึ้นมา                              

อ๊าย!” ฉันลอย...ไม่สิ! ต้องใช้คำว่าปลิวมากกว่า

ฉันปลิวลอยละลิ่วไปด้านหลัง แผ่นหลังกระแทกแผ่นน้ำ...

“อั่ก! จุกเลย ปล่อยให้เขาเล่นกันสองคน  //ไม่เอาแล้วเลิกเล่นดีกว่า...แสบหลัง//

ในขณะที่พวกเราชื่นมื่นท่ามกลางธรรมชาติ เล่นน้ำกันสนุกสนาน ขาอ่อนของฉันเหมือนถูกอะไรบางอย่าง แข็ง ๆ ลื่น ๆ ว่ายมาเฉียด

“หือ!ครั้งแรกคิดว่าหญ้าใต้น้ำ แต่ลักษณะมันเหมือนของแข็งกลมใหญ่ ถูไถผ่านขาอย่างเร็ว

สติดึงความทรงจำกลับมา ใจแวบคิดไปถึงตัวปริศนาที่ช่วยฉันไว้ในคราวก่อน ขนลุกซู่ไปทั้งตัว               

หย๋าย!” สัญชาติญาณเตือนถึงอันตราย ฉันตาเหลือกกระโดดหนี ขายังถูกมันถูต่อเนื่อง รู้สึกได้ถึงความผิดปรกติ มันยาวมากเหมือนมันถูขาของฉันอย่างไม่สิ้นสุด
           
ในขณะเดียวกันคลื่นน้ำก็กระเพื่อมขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ  จากน้ำใสกลายเป็นขุ่นโคลน เดือดพลุ่งพล่านดั่งโดนไฟบรรลัยกัลป์ต้มอยู่ด้านล่าง
          “.!!!!!!!!!!!" นี่ไง! แบบนี้เลยที่ฉันได้เห็นเมื่อวันฝนตก จิตใจไม่อยู่กับตัวกลัวตาย ชูมือแหกปากก้าวหนี...                 

แทนช่วยด้วย! ไป่ไป๋ช่วยฉันด้วย! ตัวอะไรก็ไม่รู้ถูขา ฉันลุยน้ำอย่างร้อนรน น้ำก็สูงเดินยาก สองมือแหวกตะกุยหนีตาย

ไป่ไป๋พุ่งพรวดเข้ามา...            

อนนี่หนีเร็ว!” เธอร้องเสียงหลง                    

รีบขึ้นเร็ว! เขาเอื้อมมือมาดึงข้อมือของฉันที่ยื่นออกไปรอไว้ก่อนแล้ว อีกมือก็ส่งให้ไป่ไป๋รีบตะเกียกตะกายวิ่งขึ้นไปยืนกลางชายหาด

พรึบ!!นกกระเรียนฝูงใหญ่พร้อมใจกันขึ้นบินคลื่นน้ำกระเซ็นยังไม่หยุดกระเพื่อม

พวกเรายืนมองย้อนกลับไป คลื่นน้ำกระเพื่อมพุ่งพล่านเดือดแรงเป็นวงกว้าง ก่อนจะพุ่งออกไปกลางทะเลสาบ มันต้องเป็นสัตว์อะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่โตมหึมาแน่นอน

ไป่ไป๋ตาลุกโต...                      

ตัวอะไรน่ะ? เมื่อหลายวันก่อนก็เคยช่วยชีวิตหนูด้วย

ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้ว่ามันใหญ่มาก อาจเป็นจระเข้ก็ได้ฉันเดาอย่างที่ตาเห็น

ตัวใหญ่แบบนี้  มันไม่ขึ้นมาล่าเหยื่อข้างบนบกหรอก มันเลื้อยไม่ไหว เขาใช้นิ้วชี้ถูที่หนวด สายตาครุ่นคิดมองไปที่น้ำด้านหน้า ก่อนจะลูบคาง ฉันหมั่นไส้กับท่านี้ของเขาจังเลย

ไป่ไป๋ใบหน้ายังตื่น...

จริงเหรอ? หนูเห็นอานาคอนดา มันปีนปล่องควันโรงสีข้าวด้วย มันขึ้นมารัดกินคนบนบกเลยนะคะเธอยืนกอดอกกำยกทรงไว้ในมือ

เคยเห็นที่ไหนคะ?”

ดูหนังเรื่องอานาคอนดาค่ะ มันปีนน้ำตกได้ด้วยเธอยืดอกมั่นใจยิ้มหน้าบาน                      

บ้า! นั่นมันภาพยนตร์ เชื่อไม่ได้หรอก

แทนยื่นหน้าเข้ามา...          

มันเป็นงูน้ำ ตัวมันหนัก ถ้าขึ้นมามันเลื้อยไม่ไหวหรอกแทนยังยืนเอียงคอเกาคางวิเคราะห์ปัญหา /นายพาวิ่งหนีอีแร้งมารอบหนึ่งแล้วนะ/            

“จริงเหรอ?” อีตานี่!...เอาอีกแล้ว เริ่มจะแอ็คอาร์ตอีกแล้ว ฉันยังไม่อยากเชื่อเรื่องทากกินช้างที่เขาบอกเลย แต่พอได้รู้จักนิสัยใจคอแล้ว เขาก็น่ารักดี โม้บ้างอะไรบ้างก็ช่างเถอะ                 

สันนิษฐานว่า เป็นตัวอะไรคะ ช่วยคิดวิเคราะห์แยกแยะให้หน่อย ฉันกระแซะ/ให้หน้าเขาหน่อย ปล่อยให้เป็นพระเอกไปดีแล้ว/           

น่าจะเป็นจระเข้ยักษ์น่ะครับ เมื่อกี๊! มันคงสับสนเพราะเราเล่นน้ำกันหลายคน ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะกินใครดี?”

“เหรอ เหรอ?”ไป่ไป๋ตื่นเต้นคล้อยตาม

ฉันมองค้อนหมั่นไส้มาก คิดได้ไงวะ จระเข้สับสน//

น่าจะไม่ต่ำกว่าเจ็ดเมตรเขาพึมพำพยักหน้าอยู่คนเดียว 

แหมพ่อหนุ่มของฉัน...เก่งขึ้นมาเชียวนะ..รู้ด้วยว่าเจ็ดเมตร ฉันอมยิ้มหมั่นไส้

ไป่ไป๋ยิ้มมองตาใส...

หนูว่าต้องเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาคอยปกป้องหนูแน่ ๆ ป๋อฮ่อ ป๋อฮ่อ!” ยายฝาหลุนกงยกมือไหว้ปลก ๆ                       

ในน้ำก็อันตรายเหมือนกันนะฉันกังวลกับสถานการณ์แปลกประหลาดนี้มาก การหนีทางน้ำเลิกคิดไปได้เลย คลื่นเป็นริ้วรุนแรงน่ากลัวอันตรายมากกว่าสวยงามซะแล้ว    

เราเดินกลับเข้าเพิง คงไม่กล้าลงน้ำกันอีกนาน ตัวปริศนายังคงน่าสงสัยและสยองหัว ระหว่างนั่งรอเสื้อผ้าแห้ง พวกเราทำอะไรกันไม่ได้มากไปกว่านั่งเล่นนอนเล่นในเพิงรอใครสักคนผ่านมา  นายแทนชวนไปเดินลุยป่าอีก ฝันไปเถอะ! บาดแผลจากทากกัดของทุกคนพึ่งจะหายดี ถ้าไปเจอไอ้มังกรไร้หูนั่นอีกจะทำยังไง? ไอ้เจ้าของคราบก็ยังไม่ปรากฏตัว เรื่องอะไรจะเข้าป่าให้โดนไม้ข่วนอีกเจ็บจะตาย ระหว่างคิดเพลิน ๆ หูแว่วได้ยินเสียงแปลก ๆ                      

หึ่ม!!!” เสียงอะไรสักอย่าง ดังผิดปรกติมาจากบริเวณชายหาด เงาสะท้อนแสงแวบวับจากวัตถุชนิดหนึ่งที่บินได้                   

โดรน! โดรนนี่! ฉันรีบลุกขึ้นอย่างเร็ว หลังจากเห็นโดรนกำลังร่อนอยู่ชายหาด

“อยู่นี่! ลุกวิ่งพรวดออกไปโบกมือ โดรนลำใหญ่บินวนรอบชายหาดสองสามรอบ แล้วบินจากไปเฉยเลย     

เดี๋ยวอย่าพึ่งไป! พาฉันออกไปด้วยสิ ฉันป้องปากตะโกนวิ่งตามจนมันเลยลับน้ำตกไป ยืนมองจนแน่ใจว่ามันไม่กลับมาแน่

เดินคอตกกลับมา แต่ในใจยังคงเชื่อว่าเดี๋ยวต้องมีคนมาช่วย ฉันรอดตายแล้ว เดินเบาใจมีความหวังกลับมาที่เพิงพัก

เรารอดแล้วไป่ไป๋ ฉันจะได้กลับแล้ว ยู้ฮู!” ฉันลงไปนอนยิ้มร่าในเพิง หันไปกอดเธอนอนตะแคงตัวยาว                       

อะไรเหรอคะ อนนี่?” เธองัวเงียถามกลับมา              

เมื่อกี๊! มีโดรนมา พวกเรารอดแล้ว แทนมารึยังต้องบอกเขาด้วย? ฉันหัวสว่างโล่งที่เห็นโอกาสได้ออกจากป่า

แทนบอกว่าจะไปเอาลูกท้อมาให้กิน ยังไม่กลับมาเลย เธอบอกแล้วชะเง้อมองไปทางป่าด้านหลัง

ใจของฉันลอยไปชิคาโก้แล้ว

เก็บของก่อนดีกว่า เดี๋ยวพวกเขามารับจะได้กลับเลย ไม่ต้องมาเสียเวลารอ ฉันจะได้กลับแล้ว ยู้ฮู! ฉันจะได้กลับแล้ว ยู้ฮู! ฉันจะได้กลับแล้ว!” ปากก็พร่ำร้องไปเรื่อย หัวใจลิงโลดดีใจเปี่ยมสุข มือก็ลนลานเก็บของ                 

อนนี่เป็นไรมากป่ะเนี่ย?” เสียงเธอบ่น ฉันแอบแปลกใจไม่ดีใจบ้างหรือไง มีคนมารับแล้ว?

จะไม่กลับเหรอ? ยังไม่รีบเก็บของอีกฉันหันไปยิ้มหน้าบานดีใจ พวกเขาหาเราเจอแล้ว ฉันรอดแล้ว...                      

ฉันจะได้กลับแล้ว ยู้ฮู! ฉันจะได้กลับแล้ว!” ฉันเก็บไม้กอล์ฟ 3 อันมารวมไว้ด้วยกัน แล้วนั่งยิ้มบรรจงพับถุงลมนิรภัยอย่างใจเย็น

ไป่ไป๋ตวาดแวด...                    

จะเก็บไปทำไม? ทิ้งไปเลย! เอาเป้กับคราบงูกลับไปก็พอแล้ว รั่วใหญ่แล้วนะ นับวันยิ่งหนัก เธอลุกนั่งกอดเข่ามองไปที่กลางทะเลสาบ...           

อนนี่ได้สังเกตโดรนมั้ย เป็นของใคร?”

น่าจะเป็นของทหาร มันเป็นลายสีเขียว ๆ ขาว ๆ ทหารคงถูกส่งมาช่วยพวกเรา ฉันจะได้กลับแล้ว ยู้ฮู! ฉันจะได้กลับแล้ว!

“หือ!” ฉันเพิ่งฉุกคิดได้ว่าทหารมาเกี่ยวอะไรด้วยวะ มันต้องเป็นพวกกู้ภัยสิหรือว่าเขาจะขอความช่วยเหลือจากทหาร            

ฉันคิดวนไปมาแต่ยังไงเราก็หนีไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างพวกมันตามมาหาขนาดนี้ ก็คงไม่คิดจะฆ่ากันหรอก ฉันคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น
          ขออย่าให้เป็นอย่างอื่นก็แล้วกัน ไป่ไป๋ยังคงกังวล     

อนนี่เคยสังเกตต้นไม้แถวนี้หรือเปล่า? หนูว่า มันแปลก ๆ ทำไมมันใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย ดูเถาวัลย์นั่นสิ ยั้วเยี้ยอย่างกับงูแน่ะ ถ้าฝูงงูออกมาคงได้วิ่งกันอีกเนอะ? ไป่ไป๋ชี้มือไปด้านข้าง              

“แหงล่ะ” ฉันก็สังเกตเห็นก่อนนั้นแล้ว แต่ไม่พูดอะไรเพราะเดี๋ยวจะกลัวกัน

พวกนี้เป็นต้นไม้ในตระกูล ไซเปรส อายุราวห้าพันปี ฉันไม่กลัวผีอยู่แล้วและก็เห็นมันเหมือนต้นไม้ทั่วไป แค่ต้นมันใหญ่กว่าเท่านั้นเอง สัตว์ป่าแถบนี้ก็แปลก ๆ หลายชนิดขึ้นทะเบียนสูญพันธุ์ไปแล้ว...     

คิดมากไปได้ ป่ามันก็อย่างนี้แหละ ที่นี่ถือว่าสมบูรณ์จะตาย ดูสิ!ลิงหน้าขาวเต็มต้นเลย ฉันกลบเกลื่อน อารามดีใจเลยไม่สนใจที่เธอพูด ขยับไปนั่งข้าง

เธอนั่งมองออกไปในทะเลสาบอย่างไร้จุดหมาย                 

น่าแปลกอยู่เหมือนกัน ทำไมไม่มีคนมาหาปลาบ้างเลย? เราติดอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วนะ 

ฉันคิดตลอดเวลาและไม่เคยเชื่อเลยว่า ทะเลสาบกลางป่าใหญ่ที่อยู่ยาวนานมานับพันปีแห่งนี้ จะไม่มีตัวอะไรซ่อนอยู่ ทุกสถานที่มักจะมีเจ้าที่เจ้าถิ่นเสมอ เพียงแต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวอะไร? ฉันไม่ได้หมายถึงภูตผีปีศาจเพราะไม่เคยเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีจริง ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ตกสำรวจ...เป็นอีกเรื่องที่น่ากลัวกว่ากันมาก และมันก็มาพร้อมกับสายฝนแล้วด้วย
      

ความมืดกลับมาปกคลุมอีกครั้ง...

วันนี้บรรยากาศอึมครึมขมุกขมัววิเวกวังเวงกว่าทุกวัน ต้นไม้เถาวัลย์ดูคล้ายจะมีการเคลื่อนไหว แสงหิ่งห้อยใหญ่พราวตา เสียงน้ำตก ซู่อยู่ไกล ๆ กลับดังก้องหู 

“วูบวาบ!” สายลมกระพือกองไฟลุกโชน ฟืนแตกกระเด็น เราสามคนนั่งคุยกันในเพิงพักแสนอบอุ่น

นายแทนสีหน้าเรียบเฉย เงียบมาตลอด ตั้งแต่รู้ข่าวว่า มีโดรนบินมา เขาหาผลไม้และอาหารหามาให้มากเป็นพิเศษ เหมือนกับจะเป็นการเลี้ยงอำลา

 เขาลุกเดินเติมไฟ...                

ไหนคุณบอกว่าจะมีคนมารับไง? รอจนมืด...เงียบฉี่แทนมองด้วยหางตา ใส่ฟืนเข้ากองไฟ             

วันนี้คงเย็นไปล่ะมั้ง? พรุ่งนี้มารับแน่ เห็นมั้ยล่ะ! ฉันคิดถูกมาตลอดใจของฉันเบาขึ้นมาเมื่อเห็นทางรอด

ออกไปก็ไม่ได้เจอกันแล้วไป่ไป๋หน้าเสียเสียงอ่อย

ฉันใจหายวาบเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ถึงแม้พวกเราจะเริ่มต้นไม่ดีทะเลาะกันปานจะฆ่าให้ตายกันไปช้างหนึ่ง แต่ความลำบากได้สอนพวกเราและละลายพฤติกรรมเลว ๆ ของฉันออกไป การช่วยเหลือและความมีน้ำใจของแทน ทำให้พวกเราลงตัวกันอย่างงดงาม เขายอมให้เราเอาเปรียบทุกอย่าง

เมื่อถึงเวลาต้องจากกันก็รู้สึกหวงแหนโหยหาและเสียดายความรู้สึกดี ๆ นี้ ฉันบีบมือไป่ไป๋เป็นสัญญาณว่า ฉันก็ใจเสียเหมือนกัน การจากกันเป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิต เมื่อมีการเดินทางก็ต้องจากลา

หนูมานั่งรถสิบล้อเล่นได้หรือเปล่า? เวลาคิดถึงอนนี่ หนูมาคุยกับคุณได้หรือเปล่าคะ?” ไป่ไป๋หน้าหงอยหันไปถามแทน เรานั่งเรียงกันหน้ากองไฟ                

ผมคงไม่กลับมาที่จีนอีกแล้วครับ คงคิดถึงพวกคุณมากเช่นกัน  มันเป็นความทรงจำที่สวยงาม ผมจะจดจำพวกคุณตลอดไป แทนยิ้มหวานแสงไฟสะท้อนสายตาเศร้า

“แล้วพวกเราจะเจอคุณอีกได้ยังไง?” ฉันยิ่งใจเสีย     

“คิดไกลไปแล้วครับ ถ้าโดรนลำนั้นเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ ผมคงออกไปด้วยไม่ได้ ผมจะรอพี่ชายอยู่ที่นี่” แทน น้ำเสียงไม่ดีเลย

“ฉันคิดว่าเป็นทหาร แต่ก็ยังสงสัยว่า ทหารมายุ่งอะไรด้วย หรือพวกเขามาตามจับคุณ” ฉันคาดเดา  

“ถ่ายรูปไปเยอะ ๆ นะ ผมแอบถ่ายรูปพวกคุณไว้เยอะเลย เก็บไว้อีก 5 ปี ค่อยเปิดดู” แทนยิ้มบอก แล้วชี้นิ้วไปที่ชายน้ำ            

“แปร๊น! ช้างโขลงเดิมกลับมาอีกครั้ง

ไป่ไป๋ดี๊ด๊าลุกขึ้นไปลากกิ่งมะพร้าวใส่กองไฟ เจ้าช้างน้อยวิ่งซุกซนเหมือนเด็กน้อยกำลังหัดเดิน วัวแดงเขาแหลมแข้งขาวฝูงใหญ่เดินแถวยาวลงไปกินน้ำ

คลื่นขาวซัดชายหาดยาวโค้งไปถึงน้ำตกใหญ่สะท้อนแสงจันทร์ที่พึ่งจะดิ้นหลุดจากการบดบังของเมฆดำครึ้ม บรรยากาศทึมทึมแปลก ๆ ที่พักของเราอยู่ก้นอ่าวโค้งลึกเหมือนอุ้งมือมาร

ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง...

ตู้ม!!!” เสียงน้ำแตกกระจาย

“คลึก!คลึก!คลึก! ฝูงสัตว์แตกตื่นกระโดดเสียขวัญ

ฉันใจหายแวบ...เสียงดังจนนกที่หลับไปแล้วยังตกใจร้องเสียงหลงทิ้งรัง ฝูงลิงป่าตื่นจากหลับใหล

“ซึ่ม!! เงาดำใหญ่พุ่งจากน้ำขึ้นสูง แล้วโฉบลงอย่างรวดเร็ว คลื่นน้ำเดือดพล่าน มันเกิดอะไรขึ้นอีก?...           

แปร๋น!” เสียงช้างร้องดังลั่นก้องสะท้อนไปทั้งท้องน้ำ

เฮ้ย!...ไอ๋หยา!..อุโมะ!!.

ฝูงสัตว์และโขลงช้างแตกฮือ วิ่งหนีไปคนละทิศทาง ปรกติช้างเป็นสัตว์สังคมจะช่วยเหลือกัน แต่คราวนี้มันหนีกระเจิง มันหนีตัวอะไรกันแน่ ช้างใหญ่หันหน้าวิ่งตรงมาทางพวกเรา    

       
           

คลึ่ก!คลึ่ก!คลึ่ก! แปร๋น!”rพื้นพสุธาสะเทือนเลื่อนลั่น เหมือนแผ่นดินไหว ช้างใหญ่ชูงวงหูกางหางชี้วิ่งเข้ามา...                       

“โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์สัตว์ 1. เยื่อหุ้มเซลล์  มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆประกอบด้วยโปรตีนและไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมเซลล์ให้คงรูปอยู่ได้และทำหน้าที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารบางอย่าง             

อนนี่ช้างมา ๆ หนีเร็ว!” ไป่ไป๋ได้สติก่อนลุกขึ้นดึงแขนถอยหลัง

“โอ๊ะ!เท้าของเธอสะดุดไม้กอล์ฟเซหงายหลังไปทางแทน    

ว้าย!” เธอล้มลง

“ฮึบ! แทนโผเข้าพยุงทันท่วงที พาไปแอบหลังก้อนหิน

คลึ่ก!คลึ่ก!คลึ่ก! แปร๋น!” ฝูงช้างวิ่งกรูเข้ามาเกือบถึงตัว

“ทำยังไงดี! ฉันยังขยับขาไม่ได้ หัวใจสั่นระรัวตาเบิกกว้าง   

แปร๋น! แปร๋น!”

“ย๋า!!! เงยหน้ามองอุ้งเท้ากลมของช้างพรายตัวสูงใหญ่ กำลังจะเหยียบลงบนหัว

ว้าย! ฉันหลับตาร้องเสียงดัง            

โอ๊ย!” แรงสัมผัสกระทบไหล่ รู้สึกเหมือนโดนกระชากจนตัวปลิว กลิ้งในอ้อมกอดมาจนชิดผนังก้อนหิน

….....” เงยหน้ามอง แทนมาช่วยไว้อีกแล้ว             

หลบตรงนี้ก่อน!” เขาฉุดแขนมาแอบหลังก้อนหินฝั่งกองไฟ แล้วเอื้อมมือมากอดเอวฉันไว้ ไป่ไป๋หลบอีกฝั่ง

“ครึ่ม!! ช้างวิ่งชนหลังคาก้านมะพร้าวพังลงมาเฉี่ยวหัว พวกมันเตะกองไฟแตกกระจาย กระเด็นไปโดนกองกิ่งมะพร้าวที่แทนรื้อที่นอนไปกองไว้

พรึบ!” ไฟลุกสว่างโชติช่วง กิ่งมะพร้าวแห้งติดไฟเร็ว ลามขึ้นไปติดยอดมะพร้าว แสงสว่างสาดไปถึงชายหาด พอได้เห็นสัตว์ในน้ำถึงกับตาเหลือก...

โครงสร้างและส่วนประกอบของเซลล์สัตว์  1. เยื่อหุ้มเซลล์   มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆประกอบด้วยโปรตีนและไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมเซลล์ให้คงรูปอยู่ได้และทำหน้าที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารบางอย่าง สุดจะห้ามใจไหว คันปากมาหลายรอบแล้ว ฉันซุกใบหน้าเข้าที่แผ่นอกของเขา                

แม่งเอ้ย!!” แทนอุทานเสียงดัง เขาพูดติดขัดตะกุกตะกัก...

ทะ..ทะ..ไททันโอ โบอา มือเขาสั่นระริกชี้ไปที่งูยักษ์ ปากอ้าตาเบิกโพลง กองไฟโดนลมแรงโหมกระพือเปลวไฟร้อนแรง สะท้อนดวงตาแดงก่ำของอสรพิษ             

ใช่เหรอ? ไททันโอโบอา แซร์อาโฮนเอนซิส มันสูญพันธ์ไปแล้วนี่

ฉันรู้จักงูชนิดนี้ เราสามคนแอบหลังก้อนหินที่เมื่อสักครู่ยังได้ใช้เป็นฝาบ้านอยู่เลย ตอนนี้เป็นกำแพงกำบังไปซะแล้ว ฉันหันกลับไปมอง ชะเง้อคอดูอย่างเงียบที่สุด

“ผมไม่รู้จักหรอก เคยดูในสารคดีน่ะ” แทนหัวเราะแหะ ๆ เจ้างูยักษ์เลื้อยสะท้อนแสงจันทร์เห็นแถบเกร็ดสีแดงบนตัว

นี่แหละ!อานาคอนด้าแดง งูใหญ่ที่หายากมากอยู่ที่นี่เอง เจ้าของคราบที่เราเก็บมาไงล่ะ?ฉันบอกเบา ๆ เขายืนประกบหลังมือสองข้างเกาะไหล่ของฉัน               

“...........” หลังเสียงอึกทึกวุ่นวายผ่านไป ฝุ่นทรายตลบอบอวลจางลง เสียงเรไรกลับมาร้องระงมเหมือนเดิม              

ที่ชายน้ำ...

ช้างพังตัวเมียไม่มีงาวัยสาวตัวอ้วนผู้โชคร้าย แน่นิ่งภายในวงรัดของลำตัวงูขนาดใหญ่กว่าถังน้ำมันสองร้อยลิตร รัดแน่นจนเห็นตัวช้างเป็นปล้อง ปลิ้นเหมือนข้าวต้มมัด                      

งูยักษ์ตาแดงขยับตัวค่อย ๆ รัด นวดไปที่ตัวช้างเรื่อย ๆ ขาคู่หน้าแนบชิดลำตัวขาหลังเหยียดตรง ช้างใหญ่ขนาดนั้นมันพันแค่สามรอบเอง 
            ปากของงูกัดไปที่งวงยาวของช้างเพื่อไม่ให้หายใจ หางแหย่เข้าตูดเพื่อดูว่ามันตายหรือยัง? เห็นแล้วขนหัวลุก                         

“..........” ฉันขยับขาไม่ออก ลุ้นเกร็งเจ็บตูดไปหมด กลับไปบ้านคราวนี้หูรูดแข็งแรงขึ้น ไม่เป็นริดสีดวงทวารแน่นอน          

อนนี่! มันจะกินช้างนี่เหรอ?เธอกระซิบชะเง้อมองไปทางชายน้ำ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเธอ กำลังกินช้าง ไหว้เข้าไปสิ ป๋อฮ่อ! ป๋อฮ่อ!”

“ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! แทนหลุดหัวเราะ ฉันก็ขำในขณะที่ใจก็กลัวไปด้วย ยายฝ่าหลุนกงอายม้วนหน้าแดง          

ฉันหมุนตัวกลับแหงนมองหน้าแทน สายตาของเขามองไปชายหาด เขาดันจนหลังฉันติดก้อนหิน หน้าอกเราเบียดกันแน่น ชอบจัง รู้สึกดีจัง อบอุ่นมาก

“หมับ!” ฉันกอดเอวเอาใบหน้าแนบอกไว้แน่น รู้สึกขอบคุณอีกครั้ง ช่วยชีวิตฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันใจเต้นกับคุณแล้วนะ จะจากกันแล้ว แอบกอดเยอะ ๆ ดีกว่า

หือ!” เสียงแทนแปลกใจ        

เจ้าถิ่นเจ้าที่ออกมาแสดงตัวแล้ว ไอ้เจ้างูยักษ์นี่แน่ ๆ ที่ถูขาฉันในน้ำ มันอาจจะเป็นเจ้าของคราบที่ฉันเอามาก็เป็นได้ หรือว่ามันจะมาทวงของมัน ฉันกำลังรวบรวมความคิด

ปล่อยได้แล้ว!” ไป่ไป๋ชี้มือมา ฉันแปลกใจ...

อะไรเหยอ?” ฉันรัดกอดเอวของแทนแน่น อีกนิดเดียวเลือดกำเดาก็ไหลแล้ว          

เลิกกอดกันได้แล้ว!” ไป่ไป๋เพิ่มเสียงสูงขึ้น

“ห่ะ!” แทนยิ้มแหย ชูมือสูง แอบคิดในใจ...แหม!เสียดายจังอุตส่าห์แกล้งทำเป็นกลัวเบียดอยู่ตั้งนาน          

แล้วเราจะทำยังไงดี โอย..จะใหญ่ไปไหน?” เสียงไป่ไป๋บ่นกระซิบกระซาบ เธอพยายามก้มตัวต่ำเดินมาหา                     

จะหนีไปทางไหน เอาไงดี?” ฉันกระซิบถามแทน สายตายังจ้องมองงูยักษ์ มันค่อย ๆ คลายตัวเลื้อยขึ้นบนชายหาดออกไปทางฝั่งทิศใต้ด้านน้ำตกใหญ่ คำนวณด้วยสายตาคร่าว ๆ ยาวกว่า15 เมตรแน่ ๆ ช้างตัวโตถูกรัดจนกระดูกแหลกละเอียดเป็นก้อนกลม

ไป่ไป๋เสียงขึ้นจมูก...

ถ้ากอดกันอีกที หนูจะเอาคุณไปให้งูกินเลย เผลอไม่ได้เลยนะ ทั้งคู่เลย ไป่ไป๋ บ่นอุบอิบปากจู๋

ฉันแอบขำยังโกรธไม่หายรึไง? แทนยิ้มอายยกมือขึ้นทั้งสองข้างให้ไป่ไป๋ดู แล้วก้มลงมากระซิบ
            “อยู่เงียบ ๆ ก่อน! มันไม่ขึ้นมาบนนี้หรอกตัวมันหนัก แอบดูมันไปเรื่อย ๆ เขาทรุดตัวลงนั่งหลังพิงก้อนหิน.
           
เราจะไม่หนีกันเหรอ?ไป่ไป๋ถามกลับเสียงเบา ขยับคลานข้ามมานั่งพิงคู่กับเขา
           ฉันหันมองไปด้านหลัง เงามืดจากภูเขาก็น่ากลัวไม่แพ้งูข้างหน้านี่เหมือนกัน ฉันอยู่เงียบ ๆ ดีกว่า ถ้ามันมาใกล้ค่อยวิ่งหนี โชคดีที่ไม่มีใครสติแตกกลัวงูจนวิ่งขาดสติ            

มันกลืนแล้ว ๆ ไป่ไป๋ตาโตชะโงกมองลุ้นเสียงสั่น กัดมือตัวเอง

ฉันก็พะอืดพะอมเมื่อเห็นมันกำลังถอดขากรรไกรปากอ้ากว้าง ค่อย ๆ ขย้อนหัวช้างเข้าไปทีละน้อย              

หนูไม่ดูแล้ว จะอ้วก!” เธอนั่งหลับตา หันหลังพิงก้อนหิน

ถ้าวิ่งเมื่อไหร่บอกด้วยก็แล้วกัน? เสียงเธอพึมพำ

เวลาผ่านไปช้า ๆ...แสงสว่างจากไฟทางมะพร้าวค่อย ๆ มอดดับลงจนเหลือแต่ไฟแดง แสงสว่างจากดวงจันทร์ก็สลัวลงมาก ไป่ไป๋นอนเหยียดยาวหนุนตักของแทนหลับไปแล้ว

ฉันยืนดูงูยักษ์ตัวยาวดำขลับเขมือบช้างที่น่าสงสารไปเรียบร้อยแล้ว ช้างถูกขย้อนลงไปป่องที่ส่วนกลางลำตัว

เวลาล่วงผ่านดวงจันทร์ลับหาย มันนอนแน่นิ่งอยู่กับที่ไม่ไหวติง กลิ่นควันไม้ลอยเข้ามาแตะจมูกเตือนสติ นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันดูอยู่

ก้มลงไปดูสองคนหลับกอดกันกลม น่าเอ็นดูทั้งคู่ ถ้าสองคนนี้รักกัน เขาจะรักฉันด้วยมั้ยนะ? แต่น่าจะยาก ไป่ไป๋คงไม่ยอม

ฉันเพ่งมองกลับไปชายหาดอีกครั้ง งูยักษ์ขยับตัวค่อย ๆ เลื้อยลงน้ำ ลากท้องที่ป่องเหมือนบานาน่าโบ๊ท แหวกน้ำสะท้อนแสงดาวเป็นคลื่นไปทางด้านทิศใต้

“เฮ่อ!!” ฉันถอนหายใจยาว คืนนี้คงจะไม่กล้านอนแล้วล่ะ นั่งเป็นยามให้สองคนนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันก็จากลาแล้ว

                 ............................................................................................

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,859 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,975 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม