• ตอบกระทู้
  • ตั้งกระทู้ใหม่
QUOTE 

มองการท่องเที่ยวแบบมีความสุข หาความสุขได้จากการมองโลกอีกมุมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวกับคนที่เราไม่รู้จัก ตอนที่ 12

เจ้าของร้าน

เสียงแกยังบ่น ด่าไปเรื่อย ใครขึ้นมาก็หาพวกไปเรื่อย คนอื่นๆก็อาการเดียวกับผมคืออึกอักๆแล้วก็พยักหน้าไปกับแก ฟังแกอาฆาตกับไกด์ทั้งไทยและเขมรไปจนถึงบริษัททัวร์

คนสุดท้ายขึ้นรถมาแล้ว เป็นไอ้กระเทยควาย จำไอ้กระเทยได้ไช่ไม๊ครับ เฉิดฉายประจำกลุ่ม มันขึ้นรถมาพร้อมกับแม่มัน แม่มันก็ขาข้างขวาเสียเดินไม่ค่อยถนัด พี่ใหญ่เห็นก็ใส่เป็นชุดหวังได้พวกเพิ่ม

“ดูสิ พี่เขาขาก็ไม่ค่อยดี เดินไม่สะดวกต้องเดินมาไกลขนาดนี้ ไม่สงสารกันบ้างรึไง?”พี่ใหญ่ตั้งประเด็นเพิ่มพร้อมพยักเพยิดหาแนวร่วมเหมือนเดิม แต่พอกระแท้ควายของเราตอบออกมา ทำให้พวกเราในรถรู้สึกดีขึ้นมากเลย คลายความอึดอัดลงมามากทีเดียว

“อ๋อ นั่งรถมา มีรถสามล้อรับจ้างมาส่ง 20 บาท" คำตอบของมันทำให้ครอบครัวสุขสันต์ โดยเฉพาะพี่ใหญ่และสามี ดูเหมือนโง่มากเลย ผมยิ้มแบบสะใจ อยากตะโกนออกมาว่า

“ใช่เลย ทำไมมึงไม่ดูให้ดี มากันตั้งฝูงเบ้อเร่อเสือกไปถ่ายรูปกับควายอยู่ได้”เพื่อแก้แค้นที่ต้องพยักหน้ากับแกตอน“ใช่ไม๊คุณ”ตอนนั้นทำเอาผมตกใจหมดเลย  แต่ผมก็ไม่กล้าหาญขนาดนั้นหรอก แต่สามีแกก็ ยังคงไม่ยอมอยู่ดี

“ทำไมไม่บอกสักคำ ว่ามีรถรับจ้าง เงินน่ะมี มีมากด้วย”ฮั่นแน่!รวยซะด้วย (แต่โง่กว่าไอ้ตุ๊ด *%#@)

 ”กะอีแค่ 20 บาทให้เดินมาซะไกลเลย”  ดูสิ!ยังไม่เลิกโทษคนอื่น

 ตอนนี้ทุกคนคงคิดเหมือนผมและเริ่มไม่สนใจครอบครัวนี้แล้ว มันโง่เองมากันตั้งหลายคน ทำไมมันมองไม่เห็นรถรับจ้าง คนอื่นๆรวมผมด้วยก็ไม่ได้รู้สึกลำบากถึงขนาดต้องโวยวายขนาดนั้น แต่ที่ต้องยอมเป็นพวกด้วยทีแรกเพราะหลบไม่ทัน.... พวกไกด์คงปรึกษากันอยู่พักใหญ่ไม่มีใครขึ้นมาเคลียร์ตอนครอบครัวนี้กำลังโวยวาย  สุดท้ายก็ให้ไกด์เขมรขึ้นมาก็บอกกับทุกคนว่า ที่จอดไว้ตรงนี้ เพราะเป็นกฎ  ที่นี่ไม่ให้รถขนาดเกินกว่า 25 ที่นั่งเข้าไป พูดแค่นั้นแล้วก็ไม่สนใจคำพูดของสองผัวเมียนี้อีก ที่เลือกให้ไกด์เขมรขึ้นมาเคลียร์ก็คงเป็นเพราะว่ามันพูดไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง  ซึ่งพี่ใหญ่ยังบ่นไปอีกพักใหญ่  พอเห็นว่าทุกคนไม่สนใจก็เลยเงียบไป  ป้ายต่อไป  ปราสาทตาพรหม

เรานั่งรถไปด้วยความเงียบจนถึงปราสาท “ตาพรหม” ซึ่งก็อยู่ในบริเวณแถวๆนั้น นั่งรถไม่ไกลกันนัก เราต้องลงรถเป็นคนสุดท้ายเพราะนั่งหลังสุด ทุกคนลงแล้ว เดินไปแล้ว  เราก็ได้เดินคุยกับไกด์เหมือนเดิม

“ไง โอเล่ ระเบิดลงรึไง” ผมแกล้งแซวน้อง

“รถมันจอดไม่ได้พี่ จะให้ทำยังไงล่ะ”เธอตอบเรียบๆไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา

“บนรถบรรยากาศมาคุเลย เครียดกันไปหมด กลับไปเมืองไทยได้ลงหน้าหนึ่ง น.ส.พ.แน่”ผมยังแซวไม่เลิก

“ไม่เป็นไรหรอกพี่ เรื่องธรรมดา ก็มีไม่พอใจบ้างแต่หนูยังมีกำลังใจอยู่นะ อย่างน้อยลุงกับหลาน คู่นี้ยังหัวเราะได้อยู่”แหมมาหยอดคำหวานกับเรา

 “ท้อรึป่าวนี่” ผมถามเพื่อหยั่งกำลังใจของเธอ

“ช่างเถอะพี่ มาเขมร มาจีน ต้องเดินอยู่แล้วเดี๋ยวเขาก็เข้าใจเอง”

น่าจะเปลี่ยนเป็นชื่อทัวร์ขาลากนะ”เธอหัวเราะชอบใจบอกเราว่า “ไปจีนเดินหนักกว่านี้อีก”

 

ที่ปราสาทตาพรหมเป็นปราสาทขนาดกลางๆ ที่นี่มีจุดเด่นตรงต้นไม้  ปราสาทที่นี่จะถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมบนตัวปราสาท ลองนึกถึงโบสถ์วัดบางกุ้งที่สมุทรสงคราม แต่ใหญ่กว้านั้นเยอะมาก ต้นไม้อายุนับ1,000 ปี เฉพาะรากอย่างเดียวก็ใหญ่กว่าคนแล้ว รากที่เรื้อยไปบนหลังคาปราสาท ถ้ามากลางคืนจะนึกว่าเป็นงูอนาคอนด้า เพราะเหมือน  งูขนาดใหญ่เกี่ยวรัดไปเรื่อยเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด กล้องถ่ายรูปไม่สามารถถ่ายรูปได้หมดในครั้งเดียวก็แล้วกัน

 ผมจำได้ว่าเคยเห็นรูปจากที่ไหนไม่แน่ใจว่าที่นี่มี  เศียรพระขนาดใหญ่ถูกรากไม้คลุมเอาไว้และผมก็ตั้งใจมากว่าจะต้องมาดูให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้   เราเดินหากันอยู่นานพอสมควรแต่ระหว่างทางก็มีต้นไม้อย่างนี้ให้ดูตลอดทาง จนสุดท้ายหาไม่เจอ เดือดร้อนโอเล่ต้องถามกับไกด์เขมร พอได้รับคำตอบเราถึงกับอึ้งเสียความรู้สึกไปเลย

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,863 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,979 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท9 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม