ตอนนี้เรา2คนแยกกับโอเล่แล้วให้เธอไปดูแลลูกทัวร์คนอื่นกลัวเธอโดนโดนด่า เราเดินดูตามฝาผนังด้านในก็จะมีรูปนางอัปสรแกะสลักไว้เยอะมาก นางอัปสรที่นี่สวบงามกว่าที่ปราสาท “บายน” ห่มผ้าน้อยชิ้นกว่า หน้าตาไม่ซ้ำกันเลย และแต่งตัวไม่เหมือนกันด้วย ไม่ใส่ยกทรงอีกต่างหาก แฮู่ๆๆนมตูมเลย อิๆๆๆ เราเดินจับนมนางอัปสรเพลินเลย จนเจ้าแทนมันถามผมว่า
“ลุงเป็นโรคจิตรึป่าวเนี่ย” ผมไม่ได้ตอบแต่คิดในใจว่า “กูได้จับนมเขมรแล้ว”
แต่จริงๆแล้วก็มีคนมือบอนอย่างผมนี่เยอะมาก เพราะสังเกตได้จากร่องรอยการจับ ตรงนมนางอัปสรจะเป็นสีดำเงามันวาว เด่นมากคงผ่านการจับมาเยอะมาก ซึ่งมันจะสวยมากขึ้นกว่าที่เป็นสีธรรมชาติของมันอีก (อันนี้ผมคิดเอาเองนะ) ตัวปราสาทสูง 3 ชั้นเราก็เดินดูการแกะสลักของเขาตามมุม ตามเสาหรือฐานปราสาทจะแกะสลักเป็นลวดลายคล้ายๆลายกนกบ้านเรา จะมีรูปสัตว์เป็นครุฑเป็นสิงห์หรือตัวอะไรอีกก็ไม่รู้ไม่แน่ใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะจางไปตามกาลเวลา แต่สวยมาก พอเดินชมภายในเสร็จเราก็ออกมาเดินข้างนอก ภายในตัวปราสาทเราสามารถขึ้นได้ 2 ชั้น
มองจากด้านนอกปราสาทขึ้นไปด้านบน เห็นคนอยู่ข้างบนแสดงว่าขึ้นได้ ผมพาเจ้าแทนเดินหาทางขึ้น เดินวนอยู่ 2 รอบหาทางขึ้นไม่เจอ 2 รอบเนี่ยมันเหนื่อยนะเหนื่อยมากเลย ร้อนด้วย เป็นความโง่ของเราเองที่เดินผ่านทางขึ้น แต่ไม่สังเกตให้ดี มันมีบันไดคู่กันอยู่ทางหลังปราสาทเป็นบันไดไม้สร้างขึ้นมาใหม่ สำหรับให้นักท่องเที่ยวขึ้น มีเจ้าหน้าที่ของปราสาทเฝ้าอยู่ตรงนั้น 4-5 คน แต่ผมกลับคิดว่ามันคือทางลงห้ามขึ้น ตอนเดินผ่านรอบแรกเห็นมีแต่คนเดินลงมา
รอบๆปราสาทจะมีบันไดทางขึ้นทั้งหมด 4 ด้านแกะสลักสวยงาม ซึ่งเป็นของเดิมที่สร้างมาพร้อมกับปราสาทไม่ได้เป็นบันไดไม้ ชันมากและแต่ละขั้นก็ถี่มาก แล้วดูเหมือนมันจะสึกมากแล้วด้วย เขาเอาไม้มากั้น ผมก็คิดว่าคงต้องไปขึ้นอีกทาง พอเจอเขาก็กั้นไว้อีกเดินมันจนรอบครบ 4 ด้าน ถึงรู้ว่าเขาไม่ให้ขึ้น มานั่งพักมันตรงบันไดที่คิดว่าเป็นทางลงนั่นแหละ นั่งมองอยู่อย่างนั้น
“ถามใครดีวะแทน ขึ้นตรงไหนวะนี่ 2รอบแล้วนะมึงเหนื่อยฉิบ” ผมหันไปปรึกษาเจ้าแทน บางทีเราก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะถามใคร คนไหนดี ภึงแม้จะมีคนให้เยอะก็ตาม
“มันต้องมีทางขึ้นสิลุง ข้างบนยังมีคนอยู่เลย” ผมมองขึ้นไปข้างบน มีคนยืนดูวิวกัน คงจะเย็นน่าดู ระหว่างที่นั่งปรึกษากัน ก็เหลือบไปเห็นนักท่องเที่ยวเกาหลีมากับไกด์เดินมาทางเจ้าหน้าที่แล้วก็ปีนบันไดขึ้นไปต่อหน้าต่อตา อ้าว!มันขึ้นตรงนี้เองนี่หว่า ให้กูเดินซะหลายรอบเลย เขาเอาเชือกกันไว้ให้เดินเรียงหนึ่ง เป็นช่องแล้วก็มีร่มคันใหญ่ๆปักอยู่ มองไม่ออกหรอกว่าเป็นทางขึ้น นึกว่ากั้นไม่ให้เข้า มองหน้ากับแทนแล้วก็ปล่อยก๊ากเลย ควายจริงๆ คือวันแรกที่มาเขาพาไป “ปราสาทพนมบาเคง มันจะขึ้นปราสาทหนึ่ง แล้วลงอีกทางหนึ่ง ผมพาเจ้าแทนไปเดินขึ้นสวนทางลงของเขา
โดนเขาไล่มาแล้วก็เลยคิดว่าที่นี่ก็คงเหมือนกัน
หน้าที่เข้าชม | 12,862 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,978 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |