• ตอบกระทู้
  • ตั้งกระทู้ใหม่
QUOTE 

มองการท่องเที่ยวแบบมีความสุข หาความสุขได้จากการมองโลกอีกมุมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวกับคนที่เราไม่รู้จัก ตอนที่ 20

เจ้าของร้าน

ปราสาทบันทายสรีนี้อยู่บนพื้นราบเดินจากที่จอดรถไปประมาณ 200 เมตร ไม่ร้อนแล้วแดดเริ่มอ่อน มีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ตลอดทาง มีนาข้าวที่ชาวบ้านปลูกไว้กำลังขึ้นสีเขียวสบายตา ที่นี่คนน้อยหน่อยที่สังเกตดูจะเป็นพวกเราที่ทาจากกรุงเทพฯทั้งหมด 4 คันรถบัสมารวมตัวกันที่นี่ เดินตามกันเป็นแถว ระหว่างทางจะมีเด็กเขมรเดินขายหนังสือให้เราซื้อ ก็ปฎิเสธไปทั้งทาง เพราะมันเยอะจริงๆ ตัวปราสาทเป็นปราสาทหลังเล็กๆ มองจากด้านหน้าจะเห็นประตูลดหลั่นกันไปเรื่อยๆจากใหญ่ไปหาเล็กๆ   ข้างนอกใหญ่สุดมองลึกเข้าไปเห็นประตูเล็กสุดอยู่ด้านใน เราต้องรอคิวเพื่อรอกลุ่มอื่นๆฟังไกด์อธิบาย เรื่องราวจากภาพแกะสลักบนหน้าบรรณ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของพระวิษณุ  อิศวร  นารายณ์ บางทีพวกเราก็ปนกันมั่วไปหมด

ระหว่างที่เรากำลังยืนฟังไกด์อธิบายอยู่นั้นมีผู้ชายคนหนึ่งแทรกตัวจากข้างหลังมาข้างหน้าของผม จากการสังเกตเห็นว่าเป็นฝรั่งตัวสูงใหญ่ ผมสีขาวเทาๆ  ใส่หมวก หนวดขาว ใส่แว่นดำ แต่งตัวเหมือนคาวบอยเปี๊ยบเลย ผมก็หันมามองแทน

“แทน พ่อมึงมา เรียกพ่อซิ Daddyผมเน้นเสียง  “แดดดี๋” ให้เหมือนฝรั่ง

Daddy ป๊ะป๋า”แทนพูดเลียนแบบโดยชะโงกหน้าไปใกล้ๆหูของเขา2-3 ครั้ง  แต่เขาก็ไม่ได้หันมาสนใจเรา คงฟังไม่ออก  เราก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่แกล้งฝรั่งได้เอามือมาตีกันแสดงความสำเร็จ โอเล่และลุงก็ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ

 เดินถ่ายรูปได้ไม่นานนักเพราะที่นี่เล็ก ถ่ายไม่กี่รูปก็หมดแล้ว ก่อนมาเขาบอกว่าที่นี่เป็น ปราสาทสีชมพู เก่าแก่ เออ!กูมองตั้งนานกว่าจะเป็นสีชมพู ตอนนี้เรากลับมาเดินกัน 3 คนเหมือนเดิมโดยมีผม แทนแล้วก็โอเล่ ชวนกันดูรูปแกะสลักเรื่อยเปื่อยไปจนทุกคนกลับเราก็เดินตามไปเป็นกลุ่มสุดท้าย ตอนเดินกลับก็โดนเด็กมาขายหนังสือออยู่ดี ไล่ก็ไม่ไปเลยบอกไปว่า

“ เอางี้นับ 1-10 ภาษาไทยให้ฟังก่อน นับได้จะซื้อ” มันนับได้ประมาณ 5 แล้วมันก็มั่วๆไป สาเหตุที่ให้นับเพราะไอ้หมอนี่พูดไทยชัดมากแล้วมันบอกว่าจะเอาเงินไปเรียนหนังสือ ตัวมอมแมมมาก เด็กคนนี้พียรพยายามขายๆๆๆๆทุกวิธีจับแขน จับเสื้อ สีหน้าแววตาดูน่าสงสารมาก แต่มันนับ 1-10ไม่ได้ซื้อ โคตรโหดเลยให้เด็กเขมรนับเลขไทย ลองมันให้เรานับเลขเชมรมั่งสิจะนับได้มั๊ยเนี่ย เจ้าแทนกะโอเล่หัวเราะด้วยความขบขันที่ผมแกล้งเด็ก แต่เด็กก็ไม่ละความพยายามจนถึงรถ ผมก็ควักเงินมา 1 ดอลล่า แล้วยื่นให้เด็กไปมันไม่รับมันมองหน้าผม  สายตามันบอกว่ากูขายหนังสือ เล่มละ 200 มึงจะมาซื้อกู 1 ดอลล่าเองเหรอ โอเล่ก็เลยบอกว่า ลุงเขาให้เอาไปเรียนหนังสือ มันทำท่าจะไม่เอาแต่สุดท้ายโอเล่ก็เอาเงินใส่มือมันไป มันก็เดินมายกมือไหว้ ชอบมันจังมีศักดิ์ศรี ผมก็หันไปบอกกับแทนว่ารู้ไม๊ทำไมลุงให้เงินมัน

“ทำไมเหรอลุง”

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

จำนวนผู้มาเยือน

หน้าที่เข้าชม12,863 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด10,979 ครั้ง
ร้านค้าอัพเดท9 ก.ย. 2568

สมาชิก

พูดคุย-สอบถาม