เช้าวันที่ 1 ชายแดนไทย-กัมพูชา ปอยเปต
เช้าวันนี้อากาศแจ่มใสฝนไม่ตก เราลงรถเดินตามธงสีเขียว เสื้อเขียว เข้าแถวตามเขาไป วันนี้คนเยอะมากต่อคิวยาวเหยียด เป็นคนไทยที่เดินทางมาปอยเปต เพื่อมาเสี่ยงโชคที่บ่อนการพนัน พวกท่องเที่ยวอย่างเราโชคดีหน่อยไม่ต้องต่อแถวเดียวกับเขา มีทางพิเศษแต่ก็ใช้เวลาพอสมควร เมื่อผ่านด่านมาแล้วก็มารอที่ท่ารถ มีห้องน้ำร้านขายของเล็กๆเหมือนท่ารถบ้านเรา ได้เข้าเมืองเขมรแล้วตื่นเต้นๆ อากาศเริ่มร้อน มารอที่ท่ารถอีกประมาณ 20 นาทีรถก็มาเป็นรถบัสติดแอร์ประมาณ 40 ที่นั่ง แต่แอร์ไม่เย็นและเราได้ขึ้นรถรวมกับเพื่อนใหม่ที่ไม่ได้เดินทางมากับรถคันเดียวกับเราจากกรุงเทพฯดูแล้วโอเคๆ เราต้องขึ้นรถเพื่อเดินทางเข้าเมือง เสียมเรียบระยะทางประมาณ 153 กิโล ถนนเป็นถนนลาดยางอย่างดี แต่ขับรถสลับกับประเทศไทย พวงมาลัยซ้าย
เสียงคนในรถบอกข้างหน้าสงสัยไฟไหม้เห็นควันขึ้น รถออกมาได้หน่อยก็เห็นข้างทางไฟไหม้ เกิดความโกลาหลบนถนน เห็นคนวิ่งเข้าไปในบ้านที่กำลังไฟไหม้เพื่อเข็นรถยนต์นั่งออกจากบ้าน ไฟไหม้เร็วมากคงเพราะอากาศมันร้อน รถชะลอนิดหน่อยเพราะคนวิ่งกันวุ่นวายช่วยกันเอาน้ำสาด พอรถวิ่งผ่านตรงนั้นมาวิวข้างทางก็มีแต่ท้องนา คราวนี้ไกด์เขมรก็ขึ้นมาแนะนำตัวเป็นผู้ชาย เขาชื่อ “ซอ”บ้านอยู่เสียมเรียบอายุประมาณ 40นิดหน่อย นำภาษาเขมาให้เรารู้นิดหน่อยเช่น
สวัสดี...........ซัวสะได
สวัสดีตอนเช้า.................อรุณซัวสะได
นอกนั้นจำไม่ได้ แถมยังฝากมาบอกคนไทยด้วยว่า..เซาะกราวไม่ได้แปลว่าบ้านนอกนะครับ แปลว่าไปเที่ยวเมืองนอก อย่าเข้าใจผิด ฟังไกด์อธิบายข้างทางซึ่งดูแล้วไม่มีอะไรสภาพเหมือนบ้านนอกแถวภาคอีสาน ร้อน แล้ง ไม่มีน้ำไม่มีต้นไม้ใหญ่ หลับครับหลับโดนรถโยกมาอีก 2 ชั่วโมงไอ้คนขับรถนี่สุดยอดนั่งเสียวตลอดทนดูไม่ได้ ก็หลับ ได้ก็มาถึงที่ร้านอาหาร ชื่อโตนเลสาป ประมาณเที่ยงๆ 2 คนลุงหลานเดินตามธงเขียวไป เชื่องมากบอกให้เดินตามก็เดินตาม หันมาบอกแทนว่า
“ถึงเวลากินแล้ว เอาให้เต็มที่นะลูก ไม่ต้องเกรงใจเป็นบุปเฟ่ต์” ในร้านอาหารค่อนข้างแต่งสวยสไตล์เขมร มีรูปปั้นนางอัปสรเป็นเครื่องประดับข้างฝาดูขลังดี ทาสีน้ำตาลเข้มๆยิ่งดูขลังไปใหญ่ มองหาที่นั่งก็สังเกตได้ว่าตัวใครตัวมัน เราเลยเดินไปไกลสุดนั่ง 2 คนโต๊ะตัวใหญ่มาก ตั้งใจว่าจะเต็มที่นะครับหิวด้วย อาหารก็คล้ายๆบ้านเราผัดเผ็ด ผัดกระเพรา แกง รสชาติแตกต่างนิดหน่อย กินได้แต่ไม่สะใจ ตอนเดินเข้ามาเห็นหม้อก๋วยเตี๋ยว ชวนแทนไปกิน แทนบอกว่าเฝอ แทนเป็นเด็กเหมือนจะกล้าแต่ไม่ค่อยกล้า ไม่กล้าสั่ง ผมก็บอกว่าจะกลัวอะไรก็บอกมันสิว่าขอก๋วยเตี๋ยวชาม ก่อนที่จะมาเขมรแม่ของแทนบอกว่าที่นี่ใช้ภาษาไทยไม่ต้องห่วง ชิวๆ คนเขมรพูดภาษไทยปร๋อเลย
เจ้าแทนสั่งก๋วยเตี๋ยวกินไม่ได้ เพราะไม่มีคนพูดไทยได้เลย เขมรใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 แต่คนนี้เสือกพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
“@*^#%$@&^$*&^%!+” ตอบมาเป็นภาษาเขมร
มองหน้ากันเลิ่กลั่กระหว่างเรากับเขมร เพราะเราพูดไทย เขาพูดเขมร ผมก็เลยบอกเจ้าแทนว่า
”เอางี้นะ ชี้เอา อยากได้อะไรชี้เอาเลย” สำเร็จได้ก๋วยเตี๋ยวเขมรมาคนละชาม
ก๋วยเตี๋ยวหน้าตาคล้ายของไทย น้ำก๋วยเตี๋ยวจืดและใสเหมือนน้ำเปล่า มีเส้นเล็กกับเส้นหมี่ใส่ถั่งอกนิดหน่อยมีหมู3ชิ้น แค่เนี๊ยะ สรุปกินหมูมันหมดแล้วก็ทิ้งมันไป ไม่มีรสชาติอะไรเลย ไม่อร่อย ปรุงอย่างไรก็ไม่อร่อยเมื่ออาหารคาวช่วยไม่ได้ก็หาขนมกินดีกว่า เจอปอเปียะสดอร่อยก็เลยได้อิ่มท้อง มีผลไม้ กล้วยหั่นเป็นชิ้นๆ ข้าวเหนียวมะม่วง ไม่รู้มะม่วงอะไร เส้นใยเยอะมากหวานดี รวมๆก็อิ่ม เสร็จเรียบร้อยก็มาสูบบุหรี่หน้าร้านอาหาร ที่นี่สบายหน่อยสำหรับคนสูบบุหรี่เพราะไม่มีกฎระเบียบบังคับคนสูบเท่าไหร่ จะสูบตรงไหนก็สูบยกเว้นในร้านอาหาร ไม่เหมือนที่เวียตนาม ร้านอาหารก็สูบได้ ในลิฟก็สูบได้ ที่นี่มีที่เขี่ยบุหรี่วางไว้มากมายเราก็สบายใจหน่อย ออกมาถ่ายรูปหน้าร้านอาหารได้ 2-3 รูปเดินเล่นกำลังเพลินๆ เขาก็เรียกขึ้นรถ ทุกคนขึ้นไปหมดแล้วเหลือเรา 2 คนขึ้นสุดท้าย ตอนกำลังก้าวขึ้นรถสายตาผมมองไปสบตากับ พี่ใหญ่ สายตาพี่ใหญ่มองแบบตำหนิเรามากเลย แกหันไปซุบซิบกับคนข้างๆ ผมรู้ทันทีว่าโดนตำหนิแล้ว ซึ่งแทนก็เห็น เสียวสันหลังไปเลย อุตส่าห์จะทำตัวไม่ให้พี่ใหญ่โกรธซักหน่อย โดนจนได้ เราไปเข้าประจำที่ซึ่งอยู่หลังสุด บอกกับแทนว่า
“เอาใหม่นะ ต้องทำตัวดีๆแล้ว เดี๋ยวพี่ใหญ่โกรธ”ผมล้อแทนเล่น เจ้าแทนหัวเราะชอบใจ
หน้าที่เข้าชม | 12,865 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 10,981 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 10 ก.ย. 2568 |